บทที่654 โห้หลีเฉิน คุณมันคนลามก
ทำต่อ? ทำต่อบ้าอะไรล่ะ ไม่ต้องมาพูดเลย
จู่ๆเย้นหว่านก็รู้สึกว่าทั้งร่างกายของเธอเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง ...
“ ไม่ ... เอานะ... ”
เธอรีบปฏิเสธออกไปอย่างรีบร้อน แต่เธอแค่อ้าปากก็ถูกจูบปิดปากแล้ว ...
——
ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้น
แสงแดดเล็ดลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านเข้ามา ทำให้ภายในห้องสว่างไสวขึ้นช้าๆ
บนเตียงใหญ่มีสองร่างกำลังกอดกันกลม
ขนตาของชายหนุ่มเริ่มขยับ เขาลืมตาตื่น ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นเพื่อบังแสงแดดที่ส่องหน้าของหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ
หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ แล้วค่อยๆคลายออก
ก็นอนหลับไปอีกครั้ง
โห้หลีเฉินยกแขนขึ้นเพื่อทำการบังแสงแดด แล้วมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตาที่อ่อนโยนและรักใคร่
จนถึงตอนนี้ เขาตื่นนอนอย่างเต็มรูปแบบ และจ้องมองใบหน้ายามนอนหลับของเย้นหว่าน เขาก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
แต่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาจริง และเขาก็ได้ทำสิ่งที่สนิทแนบชิดที่สุดในโลกกับเธอไปแล้วด้วย
ในอีกความหมายหนึ่ง เธอได้กลายเป็นผู้หญิงของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว
จากนี้จะไม่มีใครแยกพวกเขาออกจากกันได้อีก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แขนของโห้หลีเฉินก็ยังคงยกขึ้นบังแดดให้ ตามการเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์ คอยบังแสงแดดให้เย้นหว่านอยู่อย่างนั้น
หลังจากที่เย้นหว่านนอนหลับเพียงพอแล้ว เธอค่อยๆขยับเปลือกตาและลืมตาขึ้นช้าๆ
พอเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็เห็นใบหน้าหล่อเหลากำลังอยู่ใกล้เธอมาก เขากำลังมองเธอด้วยแววตาที่ลึกซึ้งและอ่อนโยน
หัวใจของเย้นหว่าน อดที่จะเต้นแรงจังหวะไม่ได้
เธอกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำว่า “คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ”
นี่เขากำลังรอเธอตื่นอยู่ใช่ไหม
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ได้นานเท่าไหร่ครับ”
เย้นหว่านกลอกตาไปมา และเธอสังเกตเห็นว่าแขนของโห้หลีเฉินที่ยกขึ้นบังแสงแดดให้เธออยู่พอดี
เธอมองไปนอกหน้าต่าง จึงเห็นว่าม่านไม่ได้ถูกดึงปิดจนสุด เผยให้เห็นช่องว่างให้แดดส่องเข้ามาได้
ดังนั้นหมายความว่าโห้หลีเฉินยกมือบังแสงแดดให้เธอมาตลอดอย่างนั้นเหรอ
ดวงตาของเย้นหว่านกะพริบปริบๆ “ทำไมคุณไม่เดินไปปิดผ้าม่านล่ะคะ”
เมื่อคืนวุ่นวายเกินไป อีกทั้งยังเป็นช่วงกลางคืนอีกด้วย จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผ้าม่านปิดสนิทหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเวลาเช้าแล้วโห้หลีเฉินเองก็ตื่นแล้วด้วย เขาน่าจะเดินไปปิดผ้าม่านได้
โห้หลีเฉินมองไปที่ เย้นหว่านอย่างมีความหมายแฝง สายตาของเขาเลื่อนมองไปตามใบหน้าของเธอ จนถึงคอและไหล่ของเธอ ...
เขายิ้ม และพูดเบา ๆ “ฉันไปไม่ได้”
เย้นหว่านตกตะลึง เมื่อมองตามสายตาของเขาไป เธอก็ต้องตะลึง เมื่อเห็นว่าเธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยนอนทับแขนข้างหนึ่งของเขาอยู่ และมือของเธอก็กอดอยู่ที่เอวของเขาด้วย
พวกเขาสองคนแทบจะนอนแนบสนิทกัน โดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าด้วย
แก้มของเย้นหว่านแดงก่ำขึ้นมาทันที เธอรู้สึกอายมาก เพราะเธอกอดเขาไว้ เขาไม่อยากปลุกเธอตื่น เขาจึงลุกขึ้นไปปิดม่านไม่ได้
แต่ภาพนี้ มันน่าอายเกินไปแล้ว
อีกทั้ง ในสมองของเย้นหว่านยังนึกถึงฉากความบ้าระห่ำเมื่อคืนนี้ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
เธอรีบดึงผ้าห่ม แล้วลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางเขินอาย
เธอเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า “ฉัน ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
พอพูดจบ เย้นหว่านก็ตั้งท่าจะลงจากเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...