บทที่ 698 ไม่ค่อยปกติ
“คุณเย้นคุณก็สบายใจได้ คุณโห้เขานะ ไม่ได้มีนิสัยดีต่อคนอื่นเหมือนที่ดีกับคุณขนาดนี้ ตอนที่ไปพระราชวังนั้น รังสีอำมหิตแผ่ทั่วร่าง ไม่ว่าใครก็ไม่กล้ามอง ยิ่งไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก
แม้ว่าเจ้าหญิงหญิงจะมีสถานะสูงส่ง แต่ตามสถิติของผม ตอนนี้ยังไม่สามารถคุยกับคุณโห้ได้เกินสามคำได้สำเร็จ คนอื่น แม้แต่คิดยังไม่ต้องคิด
ถ้าไม่เพราะเธอขัดขวางข่าวการเข้ารับตำแหน่ง นี่จะเชิญคุณโห้ไปพบเธอ ก็คงเป็นไปไม่ได้
เย้นหว่านตกใจ กลับรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องของความรู้สึก
โห้หลีเฉินไม่ใช่คนประเภทนี้คนหนึ่งเหรอ
ยังจำได้ว่าครั้งแรกที่พวกพบกัน ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อยู่ในสถานะคู่หมั้นคู่หมายที่ต้องแต่งงานกัน เขากลับเหลียวมองเธอแวบเดียว พูดกับเธอสองสามคำ ก็โบกมือลาแล้ว
เย็นชาอย่างยิ่ง เหมือนดอกบัวหิมะบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ มองเห็น แต่สัมผัสไม่ได้
เย้นหว่าโชคดีแค่ไหน จึงสามารถตาสว่างในภายหลัง ได้รับหัวใจดีขึ้น กลายเป็นคนข้างกายของเขา
เจ้าหญิงคนนั้น อยากจะตามจีบโห้หลีเฉิน ก็ยิ่งไม่มีความหวัง
หมอกควันภายในใจของเย้นหว่านสลายหายไปสิ้นแล้ว ก็สดใสขึ้นมาอีก
เธอยิ้มพลางกุมมือโห้หลีเฉินเอาไว้ พูดว่า
“อย่างนั้นคุณรีบกลับไปเถอะ ฉันจะรอคุณที่นี่”
แววตาเปล่งประกายของเธอ ทำให้เขามองออกว่า เธอไม่ได้ถือสาแล้วจริงๆ
อารมณ์ของโห้หลีเฉินก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นตามไปด้วย
เขาพลิกมือมากุมมือเล็กๆของเธอ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “คุณกินข้าวเสร็จแล้ว ผมค่อยไป”
เธอหิวมานานขนาดนั้นแล้ว เขารู้ว่าเธอยังกินไม่อิ่ม
เย้นหว่านอบอุ่นในหัวใจ ก็ไม่ได้ดึงดันอีก กินอาหารต่ออย่างเชื่อฟัง
หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานจากความอดอยากในทุ่งหิมะ ตอนนี้เธอรู้สึกว่า กินอิ่มเป็นเรื่องที่มีความสุขเรื่องหนึ่ง ขอแค่มีเงื่อนไข จะต้องตั้งใจกินดีๆแน่นอน
แต่ก็เข้าใจโห้หลีเฉิน ไม่นานเย้นหว่านก็กินอิ่ม
หลังจากโห้หลีเฉินมั่นใจว่าเธอกินอิ่มแล้ว ก็ผลักตัวเย้นหว่านกลับไปที่ห้องด้วยตนเอง
กำชับอีกว่า “รอผมอยู่ที่บ้าน ตอนผมไม่อยู่ ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรก็ตาม คุณห้ามเปิดประตู รู้มั้ย”
เย้นหว่านยิ้มพลางพยักหน้า “ก็ได้ ฉันรู้แล้วน่า เรื่องนี้คุณพูดมากี่รอบแล้ว”
มาที่ประเทศเบียนหนานแล้ว แม้แต่โห้หลีเฉินก็เปลี่ยนเป็น พูดพล่ามยืดยาว
โห้หลีเฉินเม้มปากอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี จากนั้นก็จูบที่หน้าผากเย้นหว่านอีก จึงค่อยๆเดินไปข้างนอกอย่างอาลัยอาวรณ์
ผ่านเหตุการณ์ตอนเช้า ทิ้งเย้นหว่านอยู่ที่นี่คนเดียว เขาไม่สบายใจเลย
แต่เขากลับไม่สามารถแยกร่างได้จริงๆ ไม่สามารถอยู่ดูแลเธอได้ ยิ่งไม่อาจพาเธอไปทำธุระด้วยได้
ได้แต่กำชับอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ให้เธอรออยู่ที่นี่ อย่าออกไปไหน
เขาต้องรีบไปจัดการธุระให้เสร็จโดยเร็ว ไปจากที่นี่ได้แล้ว
ตอนนี้ เพราะโห้หลีเฉินไปส่งเย้นหว่านกลับห้องเวนเดลล์และเจ้ากรมเพ่ยจึงต้องยืนรออยู่ที่สวนดอกไม้ด้านนอก
เจ้ากรมเพ่ยรอจนใจร้อนลุกเป็นไฟแล้ว เวลาเดียวกันคางของโห้หลีเฉินก็แทบจะตกลงบนพื้น
เขาก็เหมือนกับทุกคนในประเทศนี้ ครั้งแรกที่เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ดูแลผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้
มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับประเพณีของพวกเขา
เขาสงสัย“คุณโห้คนนี้ทำไมถึงดีกับเย้นหว่านมากขนาดนี้ ช่างผิดปกติมากเหลือเกิน”
เวนเดลล์ที่อยู่ข้างๆได้ยินเข้า ขมับกระตุกเบาๆ รู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย กลัวว่าเจ้ากรมเพ่ยจะสงสัยอะไรเพราะเรื่องนี้
เขารีบพูดว่า “คุณโห้มาจากข้างนอก คุณก็รู้ ตอนนี้ภายนอกประเทศชายหญิงเท่าเทียมกันนานแล้ว ผู้ชายของพวกเขาต่างก็ปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างดียิ่ง ล้วนทะนุถนอมเอาใจอย่างดี ที่ต่างประเทศ อย่างคุณโห้นี่ถือว่าปกติ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...