บทที่ 699 เขากำลังทำอะไร
เห็นชัดว่า ที่นี่อาจจะเป็นถนนเส้นหนึ่งที่อยู่ในเขตบ้านพักของข้าราชการระดับสูง
แม้จะเป็นเมืองหนาน แต่ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เจริญคึกคักแต่น่าเสียดาย เย้นหว่านไม่สามารถออกไปเดินเล่น ดูอะไรแปลกใหม่ได้
ท้องฟ้ายิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ
ที่ประตูก็มีคนเดินผ่านไปมาอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีเงาของโห้หลีเฉิน
เย้นหว่านยิ่งร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับโห้หลีเฉินที่ข้างนอก
“คุณเย้น คุณกำลังทำอะไรคะ รอคุณโห้เหรอคะ”
ฉู่ฉู่ถามอย่างสงสัยเดินมาทางเย็นหว่าน
เธอมีใบหน้างดงาม หลังจากเก็บท่าทางที่ดูถูกไม่พอใจเย้นหว่านแล้ว แวบแรกที่มองไป กลับรู้สึกว่าว่านอนสอนง่าย
อาจจะเพราะเย้นหว่านนั่งโต๊ะรับประทานอาหาร และท่าทางปกป้องของโห้หลีเฉิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเธอมากเกินไป แม้แต่เธอก็รู้สึกว่าเย้นหว่านไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาที่ดูถูกเหยียดหยามได้อีกต่อไป
เย้นหว่านเม้มปาก พยักหน้า
ฉู่ฉู่พูดขึ้นมาทันทีว่า “คุณอย่ารอเลย ตอนนี้เขากลับมาไม่ได้ คืนนี้จะกลับมาหรือไม่ยังเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้”
เย้นหว่านตกใจมาก รีบถามอย่างตื่นตระหนกทันทีว่า
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร คุณโห้ได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในพระราชวัง! งานเลี้ยงนี้มีแต่คนที่มีสถานะสูงส่ง จึงจะได้รับเกียรติเข้าร่วมงาน”
ฉู่ฉู่ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา หยิบโทรศัพท์มือถือตนเองออกมา เปิดมาที่ภาพหนึ่ง ในนั้นกำลังมีการไลฟ์สดแสดงอยู่ด้านบน
อาคารในวิดีโอเป็นพระราชวังสไตล์ยุโรปที่สวยงามบนบันไดยาวที่ทางเข้าพระราชวัง ปูด้วยพรมสีแดง สองข้างจัดวางด้วยดอกไม้สด มีนักข่าวยืนอยู่มากมาย
และตรงกลางพรมสีแดง ก็มีชายหนุ่มหรือหญิงสาวสวมชุดราตรีเดินไปมา
เหมือนกับดารากำลังเดินพรมแดงอย่างนั้น พวกเขายิ้มบางๆหน้ากล้องเป็นการทักทาย จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
ฉู่ฉู่อธิบายว่า “ฉันเห็นรายชื่อแขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานมีชื่อของคุณโห้ เดี๋ยวเขาก็จะออกมาแล้ว”
เป็นจริงดังนั้น ฉู่ฉู่พูดจบไม่นาน ในไลฟ์สดก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิง
และยังมีเสียงถอนหายใจสูงๆต่ำๆอย่างตื่นตกใจ
เห็นเพียงกล้องทุกตัวต่างรัวชัตเตอร์ไปที่ทางตำแหน่งนั้น
ที่นั่น โห้หลีเฉินเพิ่งจะเดินลงจากรถมา เขาสวมทักซิโด้สีดำสนิท ทรงผมที่จัดแต่งมาเล็กน้อย เดิมเขาก็มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นอยู่แล้วยิ่งมีความหล่อเหลา เย้ายวนมากขึ้น พอมองเห็นเขา ก็อดไม่ได้ที่จะสูญเสียจิตวิญญาณไปที่เขา
ถึงแม้จะมีสปอตไลท์ส่องไปทั่วทั้งงานขนาดนั้น แต่กลับไม่อาจเทียบกับแสงเปล่งประกายที่มาพร้อมกับเขาในขณะนี้ได้
“พระเจ้า ทำไมถึงได้มีผู้ชายที่หล่อขนาดนี้”
“ฉันหมอบกราบแทบชายกางเกงสูทของเขาแล้ว เหมือนจะได้อยู่กับเขาแล้ว เหมือนแต่งงานกับเขาแล้ว”
“ฉันก็อยากมาก ได้แต่งงานกับเขา เป็นโชคดีที่สุดในชีวิตนี้ ได้ชื่นชมความหล่อเหลาทุกวันก็อิ่มแล้ว”
“พวกเธอก็ได้แต่คิดเถอะ ไม่เห็นเหรอ คุณโห้หล่อขนาดนี้ ถูกเจ้าหญิงหมายตาเอาไว้แล้ว”
“เขาจะเป็นราชบุตรเขยแล้ว……”
ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาดังมาจากในจอ สองประโยคสุดท้ายที่เสียดแทงเข้าไปในหู ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเย้นหว่านแข็งทื่อไปโดยไม่รู้ตัว
คนของเจ้าหญิงเหรอ
ราชบุตรเขยเหรอ
ได้รับความเห็นชอบจากเธอแล้วเหรอ!
เธอเคืองเล็กน้อย ดูต่อไปอย่างไม่พอใจ ซูมออกจากกล้องระยะไกล เธอก็มองเห็น ด้านหลังของโห้หลีเฉิน ตำแหน่งที่ห่างไปเพียงครึ่งก้าว หญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงยาวสีแดงประดับด้วยอัญมณีหรูหรา
หน้าตาและบุคลิกท่าทางของเธอสอดคล้องไปทางเดียวกัน เครื่องหน้าที่งดงาม สวยอีกทั้งยังใจดี แม้จะยืนอยู่ข้างโห้หลีเฉิน ก็ไม่ได้ทำให้ดูหมองไปเลย
บวกกับชุดสีแดงสะดุดตานั้น ตอนนี้ เธอกลายเป็นคนข้างกายโห้หลีเฉินที่สวยสะดุดตาที่สุด
คล้ายกับว่า คู่ควงของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...