ในขณะที่ใจกำลังปั่นป่วน เย้นหว่านยกมือขึ้นมาคว้าแขนของฉู่ฉู่ไว้
เธอพูดขึ้นมาว่า " ฉู่ฉู่ รสนิยมของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอไปช่วยฉันเลือกชุดพิธีหน่อยสิ "
เหมือนเธอจะกลัวว่าเหตุผลของตัวเองไม่มากพอ จึงพูดเสริมอีก " ไปร่วมงานเลี้ยงในพระราชวังครั้งแรก ฉันไม่อยากทำให้พวกเธอต้องขายหน้าน่ะ "
ตอนนี้เธออาศัยในบ้านของครอบครัวเวนเดลล์ ก็ถือว่าเป็นตัวแทน เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวเวนเดลล์ด้วย
อีกหน่อยก็จะแต่งงานกับท่านดยุก ก็ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของท่านดยุกเช่นกัน
ถ้าแต่งตัวน่าเกลียดล่ะก็ ต้องทำให้ขายหน้ากันไปทั่วแน่
ฉู่ฉู่มองไปที่เสื้อผ้าสีดำเรียบ ๆ บนตัวของเย้นหว่าน ดูท่าก็เหมือนใส่แบบขอไปที อย่างกับจะไปร่วมพิธีศพของใครในครอบครัวอย่างไงอย่างงั้น
มันทำให้เธอรู้สึกกังวลในรสนิยมของเย้นหว่าน จึงพูดกับท่านดยุกว่า
" ท่านดยุก ฉันขอไปด้วยได้ไหมคะ ว่าจะไปช่วยเย้นหว่านเลือกชุดพิธีสักหน่อย "
ท่านดยุกเกิดความไม่พอใจ ถ้าเป็นแบบนี้ ช่องว่างระหว่างเราสองคนขณะเดินทางก็ไม่เหลือเลยน่ะสิ
แต่ว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงเย้นหว่านก็เป็นเจ้าสาวของเขาแล้ว เขาไม่ควรจะใจแคบกับเวลาหยุมหยิมแค่นี้
เขาจึงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว " ได้สิ ขึ้นรถไปด้วยกันเถอะ "
เย้นหว่านแอบถอนหายใจเบา ๆ
ขณะเดินทาง มีฉู่ฉู่ไปด้วย ชายหนุ่มก็ไม่กล้าทำอะไรที่เกินเลยต่อเย้นหว่านอีก
แต่สายตาของเขา ก็ยังดูคุกคามบนเรือนร่างของเย้นหว่านอยู่ดี
เย้นหว่านรู้สึกตึงเครียดไปทั้งตัว หนังหัวชาไปหมด
ในที่สุดก็ถึงจุดจอดรถ ที่นี่ให้บริการเกี่ยวกับชุดพิธีของราชนิกุลโดยเฉพาะ
ข้างในตกแต่งโดยใช้สีทองเป็นหลัก ดูโอ่อ่าตระการตา จากนั้นก็มีพนักงานต้อนรับที่ดูได้รับการฝึกมาอย่างดี เครื่องแต่งกายที่เต็มไปด้วยไหมสีทอง
ได้ยินมาว่า พนักงานที่นี่ล้วนถูกอบรมมาเพื่อดูแลเหล่าราชนิกุลโดยเฉพาะ
" ท่านดยุก ที่นี่มีชุดราตรีคอลเลคชั่นใหม่ด้วยนะคะ "
พนักงานหญิงพาพวกเขาเข้าไปยังห้องเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ด้วยท่าทีที่นอบน้อม
ในห้องนั้น แขวนไปด้วยเสื้อผ้ามากมาย ชุดราตรีทุกชุดดูสวยงามและล้ำค่า คนที่มองคงลายตากันไม่น้อย
ดูจากลักษณะที่กว้างใหญ่ของที่แห่งนี้ ราคาคงจะฟุ่มเฟือยอยู่ไม่น้อย
ชายหนุ่มไม่ได้ชายตามองพนักงานหญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย สายตาสนใจแค่ตัวเย้นหว่านเท่านั้น ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
" เสี่ยวหว่าน คุณชอบชุดเหรอ "
น้ำเสียงที่ดูสนิทสนมที่เรียกเสี่ยวหว่านนั่น มันชวนให้เย้นหว่านรู้สึกขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก
ใช่แล้ว ตั้งแต่ได้ยินฉู่ฉู่เรียกเย้นหว่าน เขาก็คุ้นชินที่จะเรียกเธอว่าเสี่ยวหว่านไปเสียแล้ว
ฉู่ฉู่เมื่อเห็นก็ตาพร่า อิจฉาจนไม่รู้จะทำยังไงไหว
เธอจึงเอ่ยขึ้นว่า " เย้นหว่านรสนิยมแย่มาก ฉันช่วยเธอเลือกคงจะดีกว่า "
เย้นหว่านเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน ฉู่ฉู่ก็ชี้ไปที่ชุดขาวอมชมพูตัวหนึ่ง เพื่อให้พนักงานเอาลงมาให้ดู
" ตัวนี้แหละ เหมาะกับสีผิวของเธอดี "
เย้นหว่านไม่มีความเห็นใด ๆ ไอ้งานเลี้ยงอะไรนี่เธอเองก็ไม่ได้อยากไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ตามชุดที่ฉู่ฉู่เลือก และพนักงานที่ช่วยเธอใส่ชุดนี้ เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จเธอก็เดินออกมา
กระโปรงขาวอมชมพูที่ลากลงบนพื้น มองไปมองมาก็ดูราวกับนางฟ้าที่สวยและสง่างาม ดูคล้ายกับเจ้าสาวอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มมองไปทางเย้นหว่านด้วยสายตาแพรวพราว ก่อนจะชมออกมาอย่างเก็บอาการไม่อยู่
" เสี่ยวหว่านของฉัน สวยจริง ๆ! "
เฮ้ย เธอไปเป็นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!
ยังไม่มีใครตกลงปลงใจเสียหน่อย!
ฉู่ฉู่เมื่อเห็นเปลี่ยนชุดออกมา ก็ตกใจไม่น้อย ปรากฏว่าดูดีกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้เยอะเลย สวยขึ้นมากตั้งไม่รู้กี่เท่า
ก่อนหน้าที่เย้นหว่านใส่เสื้อผ้าสีดำเรียบ ๆ ทำให้ตัวออร่าของเธอมันดูดรอปลง มันดูธรรมดาเกินไป ทำให้เย้นหว่านดูสวยแบบทั่ว ๆ ไป ทำให้รูปลักษณ์ละเอียดงดงามเพียงเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...