อ่านสรุป บทที่709 สามข้อเรียกร้อง จาก สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน โดย ถางเสี่ยวเถียน
บทที่ บทที่709 สามข้อเรียกร้อง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ริมฝีปากของโห้หลีเฉินกระตุกเล็กน้อย “... “
นี่เธอกำลังสารภาพผิดหรือกำลังชมเชยตัวเองกันแน่ เพราะเสน่ห์ของตัวเองทำให้เกิดเรื่อง แต่ท่าทางของเธอเหมือนจะภูมิใจมาก
เมื่อตระหนักได้ถึงความโกรธที่เพิ่มม่กขึ้นของชายหนุ่มตรงหน้า เย้นหว่านเริ่มร้อนใจ ทำไมโห้หลีเฉินถึงได้ง้อยากอย่างนี้นะ
เธอรีบพูดต่อ“ไม่ค่ะไม่ เป็นเพราะตาบ้านั่นตาบอด ที่มาตกหลุมรักฉัน”
ริมฝีปากของ โห้หลีเฉินกระตุกอีกครั้ง รู้สึกว่าไฟในอกของเขาไม่สามารถดับลงได้เลย
แล้วที่เขาตกหลุมรักเย้นหว่าน หมายความว่าเขาตาบอดด้วยหรือเปล่า
โห้หลีเฉินไม่อยากคุยกับเย้นหว่านอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นเขายังไม่ทันจะหึงหวง ก็ถูกเธอทำให้โกรธขึ้นมาซะก่อน
“เต้นรำ”
โห้หลีเฉินพูดเสียงแข็ง แล้วดึงเย้นหว่านเพื่อจะเต้นต่อ
เย้นหว่านจะยอมได้ยังไง การเต้นร็อคบ้าบออะไรก็ไม่รู้ เต้นจนเธอจะกลายเป็นคนโง่อยู่แล้ว
เธอกอดเขาแน่นขึ้นติดหนึบเหมือนปลาหมึก ตอนนี้เหลือแค่ขาทั้งสองข้างที่ยังไม่กระโดดขึ้นรัดเอวของเขาไว้
เธอพยายามบิดเบือนหัวข้อ “ถ้าฉันไม่เต้นแล้ว ฉันจะไม่เต้น ถ้าคุณยังไม่ยอมยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะกอดคุณไว้แบบนี้และไม่ปล่อยจริงๆด้วย”
โห้หลีเฉินมองลงไปที่หัวเล็ก ๆในอ้อมกอดของเขา ไฟที่เดือดในอกของเขาก็ดับลงอย่างรวดเร็ว
เขาพูดเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “พวกเรายังอยู่บนฟลอร์เต้นรำ ทุกคนกำลังดูอยู่นะครับ”
เอ่อ
เย้นหว่านตกตะลึง แล้วหันศีรษะไปมองเล็กน้อย พอเห็นว่าคนข้างๆเธอยังคงเต้นอยู่ ส่วนเธอ ...
หากยังอยู่ในสภาพนี้ต่อไป เธอกับโห้หลีเฉินกลัวว่าจะกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานแทน
น่าขายหน้าตายเลย
แก้มของเย้นหว่านแดงขึ้นมาทันที เธอรีบคลายกอดที่เอวของโห้หลีเฉินออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกะพริบแล้วมองไปที่เขาอย่างเขินอาย
โห้หลีเฉินจับมือเย้นหว่านอย่างจนใจ แล้วพาเธอที่เต้นไม่เป็น เต้นไปตามเขา
ทำนองร็อคแอนด์โรลแตกต่างจากการเต้นรำอื่น ๆ เล็กน้อย พอเริ่มเต้น ฟลอร์เต้นรำก็จะดูมีชีวิตชีวา และดูวุ่นวายมากขึ้น
ดังนั้นแม้ว่าตอนนี้เขาจะกอดกับเย้นหว่าน แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นมากเกินไป
เย้นหว่านไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้ ความรู้สึกโดยตรงของเธอ ก็คือการเต้นรำนี้บ้าบอนี้กำลังการท้าทายขีดจำกัดของเธออยู่
เธอจับมือของโห้หลีเฉินไว้แน่นมาก แล้วมองเขาอย่างน่าสงสาร
“ เต้นช้า ๆ หน่อยได้ไหมคะ”
การเคลื่อนไหวของโห้หลีเฉินหยุดลงทันที
พอเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่าสงสารของหญิงสาวตรงหน้า เขาก็ไร้หนทางต่อต้าน
สมรรถภาพร่างกายของเธอ จะอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า
ถึงแม้จะตำหนิ แต่การเคลื่อนไหวของโห้หลีเฉินเริ่มช้าลง อ่อนโยนมากขึ้น เขาเปลี่ยนจากการเต้นรำที่รุนแรงเป็นเชื่องช้าลง
เพราะแบบนั้น บนฟลอร์เต้นรำในตอนนี้ พวกเขากลายเป็นจุดเด่นมาก
เซอร์ยุนซีที่เต้นรำอยู่กับซาอินติ แต่จิตใจของเขาอยู่ที่ตัวของเย้นหว่านตลอดเวลา และเขาสังเกตพวกเขาในระหว่างการเต้นรำอยู่ตลอด
เมื่อเห็นว่าทั้งสองเต้นอย่างเชื่องช้า จึงนึกว่าพวกเขาไม่ถนัดเต้นแนวนี้
เขาจึงพูดเสียงดังว่า “คุณพี่ชาย เปลี่ยนคู่เต้นกันครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ปล่อยมือซาอินติไป ส่วนซาอินติก็หันไปหาโห้หลีเฉินเตรียมพร้อมเปลี่ยนคู่เต้นรำกัน
เย้นหว่านชะงักงัน เธอไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก
เธอไม่อยากเต้นรำกับเซอร์ยุนซีและเธอก็ไม่ชอบให้โห้หลีเฉินเต้นรำกับผู้หญิงคนอื่นด้วย
แต่ว่า การแลกเปลี่ยนคู่เต้นรำบนฟลอร์เต้นรำนั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้
ถึงแม้เย้นหว่านจะไม่พอใจ แต่ก็ทำได้แค่ทนยอม
เธอรู้สึกหดหู่และเตรียมที่จะถูกปล่อยตัวมือ แล้วเดินไปทางเซอร์ยุนซี แต่โห้หลีเฉินกลับจับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
จากนั้นโห้หลีเฉินก็หยุดนิ่ง และก่อนที่ซาอินติจะเดินมาตรงหน้าเขา เขาก็เดินจูงมือเย้นหว่านออกไปนอกฟลอร์เต้นรำอย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านมองไปที่ร่างสูงของโห้หลีเฉินด้วยความประหลาดใจ
จะไม่เต้นแล้วเหรอ
จะทำตัวตามอำเภอใจไปหรือเปล่า
เมื่อมองไปที่ซาอินติที่ถูกทิ้งไว้ที่นั่น และไม่มีใครรับต่อ ในใจของเย้นหว่าน มีความสุขราวกับว่าดอกไม้กำลังเบ่งบาน
เธอรู้สึกว่าวันนี้เธอเหมือนเดินไต่เชือกบนหน้าผา
ที่อันตรายมาก
“คุณพี่ชายครับ”
ในขณะนี้เซอร์ยุนซีซึ่งไม่รู้ว่าเขาเองก็อยู่ในบัญชีตาย ยิ้มแฉ่งและวิ่งเหยาะๆเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
เขาหยุดยืนอยู่ข้างๆเย้นหว่านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ใบหน้าของโห้หลีเฉินเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงอีกครั้ง เขาดึงเย้นหว่านเข้ามาเพื่อให้เธอยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ เรายังไม่คุ้นเคยพอที่จะเรียกผมว่าพี่ชายครับ”
โห้หลีเฉินพูดเตือนอย่างเย็นชา
เซอร์ยุนซีมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา“ ไม่เป็นไรครับ ต่อไปผมจะเรียกคุณแบบเย้นหว่านก็ได้ครับ”
ความกดอากาศรอบตัวของโห้หลีเฉินต่ำลงทันที
เซอร์ยุนซีกล่าวอย่างจริงใจ
“คุณสามารถยื่นข้อเรียกร้องได้เต็มที่เลยครับ เสี่ยวหว่านกับผม เรารักกันจริงๆ ผมอยากแต่งงานกับเธอโดยเร็วที่สุด”
เย้นหว่านที่ถูกบังไว้ด้านหลังของโห้หลีเฉิน ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว
คำว่ารักต่างฝ่ายต่างก็ชอบพอกันจริงๆคำนี้อย่าเอามาใช้มั่วซั่วได้ไหม มันอันตรายมากเลยนะเนี่ย
เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเป็นปฏิปักษ์ที่น่ากลัวบนร่างกายของโห้หลีเฉิน
มุมปากของโห้หลีเฉินยิ้มเย็นและดุดัน
เขาพูดอย่างไม่รอช้าว่า “ผมมีข้อเรียกร้องสามข้อ ถ้าคุณรีบร้อน ก็สามารถล้มเลิกได้”
พอมาก็บอกให้เขายอมแพ้ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน
ท่าทีของซืเซอร์ยุนซีหนักแน่นมาก“ คุณบอกว่าสามข้อเรียกร้อง บอกมาได้เลยครับ ผมทำได้ทุกอย่าง”
เขาไม่เคยพบกับผู้หญิงที่น่าสนใจเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าจะได้เจอกันไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำให้เขามีเกิดความหลงใหลในตัวเธออย่างลึกซึ้ง
จะแต่งงานกับเธอให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ยอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...