ซาอินติมองโห้หลีเฉินอย่างตะลึง ไม่คิดเลยว่า โห้หลีเฉินจะลุกเดินออกไปทั้งอย่างนี้
ในถ้วยของเขา มีผักที่เธอคีบให้วางอยู่อย่างนั้นอย่างโดดเดี่ยว
ความรู้สึกนี้ทำเอาเธอหัวใจแทบแตกสลาย
โห้หลีเฉินกลับไม่มองเธอเลย ยิ่งไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงบ้าง สายตาที่เย็นชามองไปที่เซอร์ยุนซีต่อ
“ในเมื่อรีบหายา ฉันก็ส่งนายไปช่วงหนึ่งแล้วกัน ไปเถอะ”
เซอร์ยุนซีที่คีบอาหารมากำลังจะเอาเข้าปาก “??”
เขายังกินข้าวอยู่เลย จำเป็นต้องรีบขนาดนี้ไหม?
โห้หลีเฉินสายตาเย็นชาขึ้นกว่าเดิม “ทำไม ความขยันที่ทำมาแสร้งทำงั้นเหรอ?”
เซอร์ยุนซีตัวกระตุกสั่นเทา พูดไม่ออกสักคำ
เขาแค่อยากกินข้าวให้อิ่มก่อน ทำไมกลายเป็นไม่ขยันแล้วล่ะ?
หรือว่าน้องเขยในสายตาของพี่ชายภรรยา จะดูยังไงก็ขัดตาไปเสียหมดเหรอ?
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าโห้หลีเฉิน เซอร์ยุนซีไม่ลังเลอีก วางตะเกียบลงอย่างเด็ดขาด
เขาลุกขึ้นยืนทันที “ฉันไปกับนาย ฉันอยากนำกระบองเพชรกลับมาเร็วๆ ไม่ให้เสี่ยวหว่านต้องรอนาน”
พูดแล้ว ก็มองเย้นหว่านอย่างลึกซึ้ง
เย้นหว่านขนลุกซู่ในทันที
ตาบ้านี่ รีบไปเลยนะ ไปไกลๆเลย
โห้หลีเฉินหันไปมองเวนเดลล์ พูดว่า
“เสี่ยวหว่านไม่สบาย เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้ว นายให้ฉู่ฉู่ส่งเธอไปพักผ่อนในห้องก็พอแล้ว ในเมื่อองค์หญิงเป็นแขกในบ้าน นายก็ไม่ต้องตามฉันไปวังหลวงแล้ว ดูแลเธอให้ดี”
สมเหตุสมผลดีนะคำพูดนี้ แต่เวนเดลล์กลับเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า โห้หลีเฉินโยนองค์หญิงที่วุ่นวายคนนี้ให้เขาจัดการแทน
คำพูดนั้นก็คือ อย่ารบกวนไปถึงเย้นหว่าน
เวนเดลล์รู้ดีอีกว่า โห้หลีเฉินไปแล้ว องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ท่านี้ก็จะไม่อยู่ที่นี่ต่อไป ถึงแม้เขาจะอยากดูแล อย่างมากก็แค่ส่งเธอออกไปเท่านั้น
คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก
ดังนั้น เวนเดลล์รีบตอบโดยไม่คิดอะไรมาก “ครับ งั้นเรื่องในวัง ก็รบกวนคุณด้วยนะครับ”
ความหมายก็คือ เหมือนโห้หลีเฉินทำอะไรมากกว่าอย่างนั้น
ทั้งสองพูดคุยกัน ก็ตกลงกันเสร็จสรรพแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มปากบาง หันหลังเดินออกไปด้านนอกทันที แผ่นหลังที่สูงกำยำนั้นทั้งเย็นชาและสง่า
ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่มองซาอินติแม้แต่สายตาเดียว และไม่ทักทายเธอเลยสักคำ
เหมือนไม่สนใจเธอเลยสักนิด
ซาอินตินั่งอยู่ตรงนั้นตัวแข็งทื่อ สีหน้าเริ่มซีดขาวขึ้น
โห้หลีเฉินไม่ชอบเธอ เธอก็รู้ดี
แต่เธอเป็นผู้หญิงที่สูงศักดิ์ที่สุดยอดเยี่ยมที่สุดและสวยที่สุดในประเทศเบียนหนาน ผู้ชายทั่วประเทศต่างก็อยากแต่งงานกับเธอ คิดว่าโห้หลีเฉินก็คงจะเหมือนกัน
ดังนั้นเธอจึงตามจีบโห้หลีเฉินอย่างมั่นใจ รอเขาหวั่นไหวกับเธอ และแต่งงานกับเธอ
แต่พยายามมาหลายวัน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉินยังคงมีระยะห่างอยู่มาก ไม่ก้าวหน้าไปเลย
ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ และร้อนรน
โห้หลีเฉินไปแล้ว ยังเอาเซอร์ยุนซีจอมยุ่งนี่ไปด้วย แต่ซาอินติยังอยู่
เย้นหว่านไม่รู้สึกดีกับซาอินติสักเท่าไหร่
เธอก็จึงไม่อยากอาหารอีก คิดว่าโห้หลีเฉินไปแล้ว ซาอินติก็ไม่มีคนให้เกาะแกะด้วยแล้ว และจะเดินตามออกไปด้วย แต่ไม่คิดว่า เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่เหมือนว่าจะออกไปเลย
เย้นหว่านรออยู่สักพัก อดทนนานพอสมควร
ช่างเถอะ ซาอินติไม่ไป เธอไปแทนก็ได้
ยังไงก็ไม่อยากกินอยู่แล้ว
เย้นหว่านวางตะเกียบลงเบาๆ ใบหน้ายิ้มอย่างมีมารยาท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...