บทที่76 ถอนหมั้นไม่ได้เด็ดขาด
เย้นหว่านนั่งลงแล้วเริ่มช่วยโห้หลีเฉินชิมอาหาร แต่ครั้งนี้แตกต่างจากปกติ เธอกินอาหารไปอย่างนึง ก็จะจดเขียนไว้บนสมุดโน๊ต
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยความแปลกใจ “คุณเขียนอะไรอยู่?”
“เดี๋ยวคุณก็รู้ค่ะ”
ครั้งนี้เย้นหว่านชิมอาหารละเอียดยิ่งกว่าปกติ กินเข้าไปคำนึงยังต้องย้อนคิดถึงรสชาติ หลังจากนั้นก็จดไว้ในสมุดโน๊ต
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยสายตาชิวๆ ดูๆแล้วเธอชอบอาหารที่ทำในครั้งนี้ เชฟที่ทำอาหารในวันนี้ เขาพิจารณาว่าจะครั้งต่อไปจะใช้งานพวกเขาต่อ
สิ่งที่เย้นหว่านไม่เข้าใจก็คือ ณ ตอนนี้ในห้องครัวมีเชฟอยู่สิบกว่าคน นั่นแค่สำหรับวันนี้เท่านั้น
เพื่อให้เธอได้กินอาหารที่แตกต่างกันทุกครั้ง ทุกครั้งเชฟในห้องครัวก็จะเปลี่ยนเชฟใหม่เข้ามาสิบคน และทั้งหมดเป็นเชฟชื่อดังระดับโลก
หลังจากชิมอาหารทั้งหมดแล้ว เย้นหว่านก็กินอิ่มแล้ว บนสมุดโน๊ตก็ได้เขียนข้อมูลไว้ไม่น้อย
เธอแยกอาหารที่อร่อยที่สุดออกมาอย่างคล่องแคล่ว เสิร์ฟมาตรงหน้าโห้หลีเฉิน
หลังจากนั้น ได้ส่งสมุดบโน๊ตให้กับโห้หลีเฉิน
“คุณโห้คะ นี่คือประสบการณ์จากช่วงเวลามานี้ที่ช่วยคุณชิมอาหาร ถึงแม้ทุกครั้งอาหารจะไม่เหมือนกัน แต่รสชาติที่ชอบมักจะมีรูปแบบของมัน ตามในสมุดโน๊ตที่ฉันสรุป อาหารที่เชฟทำออกมาจะต้องเป็นอาหารที่คุณชอบทั้งหมดค่ะ”
โห้หลีเฉินมองดูสมุดโน๊ตในมือ ในสมุดมีลายมือที่เรียบร้อยเขียนเหตุผลทุกข้อเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูแล้วมีความตั้งใจมาก
แต่ว่า......
สีหน้าของโห้หลีเฉินกลับดูไม่ค่อยดี “คุณให้สิ่งนี้กับผม หมายความว่ายังไง?”
เย้นหว่านถูกมองจนอึดอัดใจ กัดฟัน และอธิบายอย่างจริงจัง
“อีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดวันหมดสัญญาของเราแล้ว ต่อไปนี้ฉันก็ไม่สามารถช่วยคุณชิมอาหารแล้ว เพราะอย่างนั้นเลยเขียนข้อสรุปทั้งหมดไว้ แบบนี้หลังจากนี้ไปถึงแม้ไม่ต้องชิมอาหารแล้วคุณก็ยังสามารถได้กินอาหารที่คุณชอบค่ะ”
ทั้งหมดนี้เย้นหว่านคิดเพื่อโห้หลีเฉินทั้งนั้น แต่ยิ่งฟังแล้ว สีหน้าของโห้หลีเฉินกลับยิ่งดูไม่ดี
เขามองเธอด้วยสายตาที่หนักหน่วง แววตาเปล่งประกาย ความโมโหไม่รู้โผล่มาจากไหน
นี่เธอได้เริ่มวางแผนเรื่องหลังถอนหมั้นแล้วหรือ?
นี่เธอรอไม่ไหวที่อยากจะถอนหมั้นกับเขาแล้วหรือ?
มองดูสีหน้าที่อารมณ์เสียของโห้หลีเฉิน เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ หรือว่าเป็นเพราะเธอเขียนออกมาด้วยความเร่งรีบ เลยรู้สึกว่าเธอทำงานลวกๆไม่มีความรับผิดชอบ?
ลังเลไปสักครู่ เย้นหว่านพูดอย่างจริงใจ
“ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ ต่อจากนี้อาหารทุกอย่างฉันจะสรุปออกมาอย่างจริงจังและมีระเบียบ คุณโห้วางใจได้นะคะ อย่างนี้ต้องรอบคอบอย่างแน่นอนค่ะ”
โห้หลีเฉินมองดูเย้นหว่านอย่างเยือกเย็น และพูดว่า
“ออกไป”
ถ้าเธออยู่ต่อ เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับเธอหรือไม่
........
กลางคืน
บังเอิญเจอกันในสถานบันเทิงหรู
ห้องVIP บนโต๊ะมีแต่เหล้าแพงๆทั้งนั้น บนโซฟามีผู้ชายไฮโซนั่งอยู่หลายคน
แต่คนที่ดูเด่นที่สุด ก็คือโห้หลีเฉิน
ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ไม่สามารถปิดบังความหล่อของเขาได้ บุคลิกภาพดูดี สง่า
เขานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้าเฉยเมย บนมือถือไวน์อยู่แก้วนึง เขาได้ดื่มหมดในกึ๊บเดียว แล้วก็รินอีกแก้วนึง
ข้างๆของมือที่ขาวและเรียวยาว มีขวดเปล่าอยู่สองสามขวด
ฉินฉู่ที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆ สำรวจโห้หลีเฉินซ้ำๆ หลังจากนั้น เขาจี้ไหล่ของเย้นเหวินหนาน
“นายดูหลีเฉินสิซิคืนนี้เขาดูแปลกๆใช่มั้ย? ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยว่ะ”
“ไม่ใช่ไม่ค่อยดี แต่ไม่ดีมากๆเลยแหละ”
เย้นเหวินหนานมองฉินฉู่อย่างมีความคิดบางอย่าง “นายไปปลอบใจเขาสักหน่อยมั้ย?”
ฉินฉู่ขนลุกทันที “แล้วทำไมนายไม่ไปล่ะ?”
ตอนที่โหหลีเฉินอารมณ์ไม่ดี ใครเข้าไปก็จะกลายเป็นเป้านิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...