ทว่า เขาเองก็รู้ดีว่าค่าของสิ่งนี้แพงเกินไป
กู้หรงละสายตาออกจากพลอยอเมทิสต์อย่างยากลำบาก แล้วพูดกับเย้นโม่หลินด้วยรอยยิ้ม
“โม่หลินเอ๊ย ฉันเข้าใจน้ำใจของเธอ แต่พลอยก้อนนี้มันล้ำค่าเกินไปจริงๆ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณไม่ชอบเหรอ?”
กู้หรงรีบส่ายหน้า “ชอบมากแน่นอนสิ....”
“งั้นมันก็เป็นของคุณแล้ว”
เย้นโม่หลินตัดบท
คำพูดต่อไปของกู้หรงติดค้างอยู่ในลำคอทันที เขาไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไงดี
ของขวัญชิ้นนี้ความจริงเขาก็ชอบมาก แต่มันก็ล้ำค่ามากจริงๆ
กู้จื่อเฟยรู้ความนึกคิดของพ่อตัวเองจึงรีบพูดขึ้น
“พ่อ รับไปด้วยความสบายเถอะค่ะ นี่คือมารยาทในการพบปะที่คุณชายเย้นให้พ่อเป็นน้ำใจนะคะ”
พูดมาถึงจุดนี้กู้หรงแล้วเองก็เกรงใจที่จะปฏิเสธอีก
มารยาทในการพบปะที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มันทำให้เขาปลื้มใจจนปากแทบจะหุบไม่ลงแล้วจริงๆ
เขามองไปที่พลอยอเมทิสต์เบื้องหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย อดไม่ได้ที่จะใช้มือสัมผัสมัน
“ชั้นหนึ่ง ชั้นหนึ่งเลย”
ฝูงชนที่มุงอยู่รอบๆ ต่างมองอย่างอิจฉา
เสียงซุบซิบเองก็ดังขึ้นมาจากในฝูงชนเช่นกัน
“น่าอิจฉาชะมัด ฉันเองก็อย่างได้อเมทิสต์ชั้นยอดก้อนใหญ่ขนาดนี้บ้างเหมือนกัน ฉันเองก็อยากรู้จักคุณชายเย้นเหมือนกันนะ”
“ไม่มีโอกาสนั้นหรอก นายดูไม่ออกรึไง? คุณหนูกู้ก็บอกแล้วว่าเป็นมารยาทในการพบปะ ใครจำเป็นต้องมีมารยาทในการพบกันล่ะ? ก็ต้องเป็นว่าที่ลูกเขยอยู่แล้ว”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง! มิน่าล่ะ คืนนี้คุณหนูกู้ถึงได้อยู่กับคุณชายเย้นตลอดและยังเป็นคู่ของเขาอีกด้วย ที่แท้ก็เป็นคู่รักกันนี่เอง”
ฝู้เหวยข่ายที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนและได้ยินคำพูดเหล่านั้น สีหน้ายิ่งถมึงทึงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับปกคลุมไปด้วยเมฆดำหนาทึบ
เย้นโม่หลินกับกู้จื่อเฟยเป็นคู่รักกันงั้นเหรอ?
แล้วเขาล่ะ?
ที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของตาเฒ่าในคืนนี้ก็มาเพื่อกู้จื่อเฟย ในช่วงนี้พวกเขาก็ติดต่อกันค่อนข้างบ่อย ความสัมพันธ์เองก็สนิทสนมขึ้นเรื่อยๆ เป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มคลุมเครือแล้ว
การนัดหมายของเขาในคืนนี้เองก็ตกลงกันไว้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นการบอกใบ้และได้วางแผนจะคบกับเขาแล้ว
ใกล้จะสำเร็จอยู่แค่เอื้อมแล้ว ทำไมอยู่ๆ เย้นโม่หลินนั่นถึงโผล่มาได้?
เป็ดที่จับมาได้มันบินหนีไปแล้ว เรื่องแบบนี้จะให้เขาทนได้ยังไง
อย่าว่าแต่ยังไม่แน่ใจว่ากู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินจะคบกันจริงรึเปล่าเลย ต่อให้คบกันไปแล้ว เขาก็จะแย่งมา
ฝู้เหวยข่ายสีหน้าเคร่งขรึม เก็บของขวัญที่เตรียมมาแต่แรกแล้วหยิบจี้หยกแขวนสีแดงเลือดออกมาจากกระเป๋าด้านใน
เขาเดินไปข้างหน้า ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างสุภาพแล้วพูดขึ้น
“คุณลุงกู้ ผมชื่อฝู้เหวยข่าย ผมได้รับเชิญจากจื่อเฟยให้มาร่วมอวยพรวันเกิดคุณครับ ได้พบกันครั้งแรกผมขอให้หยกเลือดภูเขาหนานเอ๋อเพื่อแสดงน้ำใจ ขอให้คุณมีสุขภาพดี อายุยืนยาว”
ฝู้เหวยข่ายน้ำหยกเลือดในฝ่ามือยื่นไปตรงหน้ากู้หรงอย่างสุภาพ
กู้หรงเองก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นหยกเลือด
“หยกเลือดภูเขาหนานเอ๋อเหรอ?”
เขาส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว ด้วยความประหลาดใจอย่างไม่สามารถปกปิดได้
หยกเลือดภูเขาหนานเอ๋อนั่นเป็นตำนานในหมู่ตำนานเลยนะ
ความล้ำค่าของหยกชนิดนี้ เรียกได้ว่ามีอยู่น้อยมากบนโลก ตอนนี้ชิ้นขนาดเท่านิ้วโป้งเพียงชิ้นเดียวนั้นก็ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ในลอนดอน
หยกชิ้นนี้ไม่เพียงแต่หายาก และโปร่งแสงเป็นสีแดงเลือดเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์อย่างมากอีกด้วย
นั่นคือความร้อนที่มีอุณหภูมิคงที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...