คนแบบเย้นโม่หลิน ไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่สนใจเรื่องทางโลกอะไรแบบนี้ กู้จื่อเฟยไม่สามารถเชื่อมโยงเขาเข้ากับซีรี่ส์เกาหลีได้
แต่เขา กลับมาเปิดซีรี่ส์เกาหลีดูที่นี่จริงๆ
เย้นโม่หลินลุกขึ้นมา หันมามองกู้จื่อเฟย ใบหน้าที่หล่อเหลา ท่าทางที่จริงจัง
เขาพูดอธิบายอย่างจริงจัง
"คุณบอกคุณชอบซีรี่ส์เกาหลี ผมก็เลยลองดู บางทีอาจจะทำให้เข้าใจคุณมากขึ้นก็ได้"
กู้จื่อเฟยถลึงสองตาโตด้วยความตกใจ ไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
ว่าไงนะ?
เย้นโม่หลินดูซีรี่ส์เกาหลีกลางดึกกลางดื่นแบบนี้ ก็เพื่อเธอ?
แถมยังเพื่อจะได้เข้าใจเธอมากขึ้นอีก?
ให้ตายสิ หมอกควันและความไม่แน่นอนตลอดทั้งวัน กลายเป็นเป็นฟองสบู่ และแตกกระจายออกไปทันที
ความดีอกดีใจที่กู้จื่อเฟยไม่เคยมีมาก่อน ราวกับสวมปีกน้อยๆลอยบินขึ้นไป
ที่แท้ตอนบ่าย ที่เธอกับเย้นหว่านจงใจพูดถึงฉากดอกไม้ที่แสนโรแมนติกในซีรี่ส์เกาหลี เขาไม่ใช่ไม่สนใจไม่ใส่ใจ แต่กลับคิดไม่เหมือนกับพวกเธอนี่เอง
ที่เขาใส่ใจก็คือสิ่งที่เธอชอบ เธอชอบซีรี่ส์เกาหลี เขาก็เลยทำความเข้าใจกับซีรี่ส์เกาหลี
ถึงขนาดที่ในความคิดของผู้ชายซื่อๆแบบเย้นโม่หลิน อาจจะคิดไม่ถึงว่าพวกเธอกำลังแอบบอกใบ้ว่าให้เขาให้ดอกไม้ขอแต่งงาน แต่เขาจะต้องนึกถึงคำพูดที่กู้จื่อเฟยเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องรักกันถึงจะแต่งงานกันได้ ดังนั้นต่อให้ให้ดอกไม้ ก็ไม่มีประโยชน์แน่ๆ
ตอนนี้เพิ่งจะรู้และเข้าใจถึงความคิดของเย้นโม่หลิน กู้จื่อเฟยไม่รู้ว่าจะร้องหรือยิ้มดี ดีใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา
ที่แท้ นี่ต่างหากล่ะที่เป็นวิธีที่ถูกต้องเหมาะสมที่ทำให้เย้นโม่หลินรักและเอ็นดู
เย้นโม่หลินยืนหันข้างอยู่แบบนั้น แสงจากหน้าจอสาดส่องครึ่งหน้าของเขา ซีกหนึ่งสว่างซีกหนึ่งดำมืด แสดงถึงความน่าหลงใหลและลึกลับสุดๆ
กู้จื่อเฟยหรี่ตาลง
เย้นโม่หลินกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างนิ่งขรึม
"แต่ว่าหนังเรื่องนี้ ผมดูมาถึงตอนนี้ไม่เห็นจะได้อะไรเลย เรื่องที่ดูง่ายและชัดเจนขนาดนั้น ชายหญิงหนึ่งคู่กลับเดากันไปเดากันมาอย่างลังเล มันเสียเวลาสิ้นดี"
น้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่เข้าใจที่ปกปิดเอาไว้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณถึงชอบ ตอนนี้ยังไม่รู้ ผมขอดู สำรวจวิเคราะห์ต่อไปสักหน่อย......"
ท่าทางจริงจังนั้น ทำให้กู้จื่อเฟยใจละลายไปหมด
ครั้งแรกที่ได้ยินคนอื่นพูดแขวะซีรี่ส์เรื่องที่ตัวเองชอบ แต่กลับได้ฟังแล้วรู้สึกดีใจ มีความสุขราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
ความรู้สึกชอบในใจของเธอ มันยับยั้งเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
กู้จื่อเฟยวิ่งไปข้างหน้าทันที เขย่งเท้า จูบเข้าไปที่ริมฝีปากของเย้นโม่หลิน
เสียงของเย้นโม่หลินสิ้นสุดลง
เขาจ้องใบหน้าเล็กๆที่จู่ๆก็เข้ามาใกล้มากขึ้นตรงหน้านี้ด้วยความตกตะลึง รู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนตรงริมฝีปาก เขานิ่งชะงักไปราวกับถูกฟ้าผ่า
ในหัวว่างเปล่าไปหมด
ไม่คิดว่าเธอจะจูบเขา
แล้วความรู้สึกนี้ มันทำให้เขาไม่ได้รู้สึกขยะแขยงใดๆเลยด้วย ถึงขนาดที่แทบอยากจะจูบต่อไปให้ดูดดื่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
เขาอยากจะทำแบบนี้โดยสัญชาตญาณของตัวเอง
แต่กู้จื่อเฟยจู่ๆกลับถอยไปข้างหลัง แสงที่สลัวๆ ใบหน้าที่แดง เต็มด้วยความเขินอายแล้วก็ได้รับชัยชนะราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
"ไม่ต้องดูแล้ว คุณอยากเข้าใจฉัน ก็มาถามฉันตรงๆเลยสิ รีบนอนได้แล้ว ฝันดี"
พูดจบ กู้จื่อเฟยก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อน
เธอทั้งอายทั้งตกตะลึง แต่กลับรู้สึกชอบดีใจอยู่เต็มอก
ร่างกายที่เล็กบางหายไปจากห้องภายในชั่วพริบตา
เย้นโม่หลินกลับจ้องมองทิศทางที่เธอวิ่งหนีไป ราวกับจิตวิญญาณล่องลอยไปแล้ว
เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน
ใจสั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...