โห้หลีเฉินมองท่าทีสีหน้าที่ดำมืดของเย้นโม่หลิน จิบไวน์ไปเบาๆหนึ่งจิบ อารมณ์สดชื่นสุดๆ
ในตอนแรก ตอนที่เขาอยากจะแต่งงานกับเย้นหว่าน ก็เจอการคัดค้านจากพวกเย้นโม่หลินเหมือนกัน
สักวันหนึ่งต้องเป็นวันของเรา
โห้หลีเฉินมุมปากอมยิ้ม มีความสุขชอบอกชอบใจบนความทุกข์ของเขาอย่างปกปิดเอาไว้ไม่อยู่
"ต้องคัดค้านแน่ๆ อยากจะแต่งงานกับกู้จื่อเฟย ก่อนอื่นคุณต้องได้รับความเห็นชอบจากกู้หรงก่อน"
หยุดไปสักพัก โห้หลีเฉินยิ้มเล็กน้อย"พูดให้ง่ายๆคือ ต้องไปประจบประแจงทำดีกับกู้หรงนั่นเอง"
กู้จื่อเฟย"......"
เรื่องแบบนี้ เขาไม่เคยมีประสบการณ์เลยสักครั้ง แล้วก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยด้วย
คนอยู่ด้วยกันคบกันอยู่ดีๆ จู่ๆก็มาห้ามปรามเขา ไม่พอใจเขาซะอย่างนั้น?
แล้วจะให้เขาไปประจบประแจงยังไง?
เย้นโม่หลินตอนนี้ดูท่าไม่ดีแล้ว
โห้หลีเฉินอารมณ์ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก พูดกับเย้นโม่หลินอย่างใจเย็นสุดๆ
"จริงๆแล้วง่ายมาก แถมยังมีตัวอย่างในการเรียนรู้แล้ว ก็ทำเหมือนกับที่ผมทำในตอนแรกนั่นแหละ"
เย้นโม่หลิน"......"
ตอนนี้เขาถึงเห็นสายตาของโห้หลีเฉินที่มีความสุขบนความทุกข์ของเขา
นี่เขาได้ทีขี่แพะไล่ชัดๆเลย
ทำเหมือนกับที่เขาทำในตอนแรก ในตอนแรกพวกเขาคัดค้านไม่ให้โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านคบกันขนาดไหน เย้นโม่หลินเป็นคนที่รู้ดีที่สุดแล้ว
โห้หลีเฉินผ่านความทุกข์ยากมามากมาย กว่าจะได้ความเห็นชอบจากพวกเขา
เรียกได้ว่าสาหัสร้ายแรงมาก แถมระหว่างทางก็ยังถูกบังคับให้แยกจากเย้นหว่านไปตั้งหลายครั้งหลายคราด้วย
หรือว่าเขาก็ต้องไปทำเรื่องแบบนี้เหมือนกันอย่างนั้นเหรอ?
เย้นโม่หลินเริ่มหน้ามืด เธอดูท่าไม่ดีแล้ว
เย้นหว่านมองท่าทางที่ดูชั่วร้ายของโห้หลีเฉิน ก็รู้ว่าเขากำลังจงใจหลอกลวงเย้นโม่หลิน รอโอกาสแก้แค้นเอาคืนเรื่องในตอนนั้น
ช่างหน่อมแน้มจริงๆ
เย้นหว่านผลักเขา พูดขึ้นเสียงเบาๆ
"ตอนนี้คุณหลอกลวงพี่ชายของฉันขนาดนี้ ไม่กลัวเขาเคียดแค้นหรือไง? กลับไปหาเรื่องคุณ ไม่ให้คุณแต่งงานกับฉันขึ้นมาล่ะ?"
โห้หลีเฉินยิ้มแย้มเหมือนเดิม ยื่นมือออกมาเอาเย้นหว่านเข้ามาในอ้อมกอดอย่างเอาแต่ใจ
"เมื่อก่อนเจอทุกข์ยากลำบากขนาดนั้นผมยังผ่านมาได้ ตอนนี้แค่การล้อเล่นเท่านั้น ผมจะกลัวอะไร"
ที่เขาพูดไม่สนใจเลยสักนิด สาบานจากใจจริง
ในความคิดของเขา ชีวิตนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะไม่มีทางปล่อยเย้นหว่านไป
แถมตอนนี้เย้นโม่หลินเจอกับเรื่องแบบนี้ โอกาสไม่ได้มาง่ายๆ จะพลาดโอกาส"แก้แค้น"ที่ไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกแบบนี้ไม่ได้
ถ้าไม่ทำให้เย้นโม่หลินได้สัมผัสกับความรู้สึกทนทุกข์ลำบากสักครั้งล่ะก็ เขาก็คงจะทำให้ตัวเองในอดีตต้องรู้สึกผิดหวังแน่ๆ
เย้นหว่านมองท่าทางของโห้หลีเฉิน รู้สึกว่าหมดหนทางแล้ว ในขณะเดียวกันก็แสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งให้กับพี่ชายตัวเองเช่นกัน
เธอพูดขึ้นเบาๆ
"พี่ พี่ไม่ต้องกังวลเกินไปหรอก คุณอากู้ไม่ใช่คนที่ใจคับแคบอะไร พี่ไปคุยกับจื่อเฟยมากๆหน่อย เดี๋ยวเขาก็เห็นด้วยแล้ว"
ถึงยังไงก็ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่เหมือนกับเธอและโห้หลีเฉินในครั้งนั้นขึ้นแน่นอน
ต้องใช้แรงเข้าปะทะ สู้สุดใจสุดชีวิต
เย้นโม่หลินเม้มริมฝีปากบางๆ แววตาของเขาลึกราวกับมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ในใจ เริ่มค่อยๆตั้งมั่นความคิดความคิดหนึ่ง
แม้ว่ากู้หรงจะคัดค้าน แม้ว่าเขาจะเจอกับความทุกข์ยาก แต่ขอแค่กู้จื่อเฟยเต็มใจ เขาก็จะพยายามให้ถึงที่สุด ที่จะรับผิดชอบเธอ
ไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถมาขวางรั้งได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...