โห้หลีเฉินเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อนและเริ่มแช่ตัว เป็นเวลา 3 วัน เขาไม่สามารถออกจากบ่อน้ำร้อนได้เป็นเวลานาน ต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ได้ผลดี
ดังนั้นเขาจึงแทบจะแช่น้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนอยู่ตลอด เรื่องอาหารและเครื่องดื่มนั้นเป็นหน้าที่ของเย้นหว่านต้องนำเข้าไป
เดิมทีให้คนนำเข้ามาก็ได้ แต่การเข้าไปในคลังที่ยังไม่เปิดให้ใครเข้านั้น การจะให้คนงานเข้าไปดูไม่เหมาะสม ประการที่สอง การที่ประการที่โห้หลีเฉินต้องอยู่ที่นี่กับเย้นหว่านตลอด 24 ชั่วโมงนั้นมันน่าอึดอัดเกินไป
โห้หลีเฉินจึงให้เย้นหว่านเป็นคนออกไปจัดการเรื่องอาหาร ให้เธอได้ออกกำลังระหว่างเดินไปมา
ในช่วงสามวันนั้น ในตอนกลางวัน เย้นหว่านจะออกไปจัดการเรื่องอาหารให้โห้หลีเฉินเป็นปกติ แต่เธอระหว่างที่เธอเดินกลับมานั้นกลับพบว่าบรรยากาศไม่เหมือนกันช่วงก่อนหน้านี้
เธอเห็นคนงานจำนวนมากขึ้นในสวนและต้นไม้สีเขียวบนถนน วุ่นวายกับการสร้างดอกไม้และทิวทัศน์อันเขียวขจี
ในหลายๆ แห่ง ดอกไม้เหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล และพวกเขาก็ตกแต่งและเต็มไปด้วยดอกไม้ทุกที่
เย้นหว่านสงสัยว่านี่เป็นการตกแต่งเพื่อฉลองงานเปิดคลังสมบัติหรือว่าฉลองที่โห้หลีเฉินจะออกมาแล้ว?
แต่ที่ทำให้เย้นหวานยิ่งไม่เข้าใจก็คือเมื่อเธอเดินไปที่หน้าวิลล่าตระกูลหยู เธอเห็นคนใช้จำนวนมาก ถืออุปกรณ์จัดงานแต่งงานสีแดงไว้ในมือ และเดินเข้าไปทีละคน
แม้แต่ในห้องโถงใหญ่ก็มีการวางอักษรมงคลสมรสสีแดง
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งใหม่เอี่ยมถูกแทนที่ทุกที่ด้วยของสีแดงสำหรับงานแต่งงาน
นี่ ใครจะแต่งงานเหรอ?
"เสี่ยวหว่าน ในที่สุดก็ออกมาแล้ว มาเร็วๆ จัดอาหารไว้ให้เธอแล้วนะ"
กู้จื่อเฟยยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องรับประทานอาหาร ยิ้มและกวักมือเรียกเย้นหว่าน
เย้นหว่านหันกลับมามองและเดินไปทางกู้จื่อเฟย "รบกวนเธอแล้ว อุตส่าห์เตรียมไว้ให้ฉันล่วงหน้า"
"ยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก พวกเราเป็นเพื่อนกัน อย่าพูดเหมือนเป็นอื่นเป็นไกล"
กู้จื่อเฟยจูงเย้นหว่านเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร สายตาคลุมเครือโดยเฉพาะอย่างยิ่งมองย้อนกลับไปมาที่เย้นหว่าน
รอยยิ้มที่มีความหมายนั้น มองเย้นหว่านจนน่ากลัว
นี่มันอะไรกัน?
เย้นหว่านมองดูห้องอาหารอย่างระมัดระวัง กล่องอาหารกลางวันถูกจัดวางอย่างดี และห้องอื่นๆ ก็สะอาด ไม่มีคนและไม่มีอะไรพิเศษ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเย้นหว่านก็ถาม "เธอมองฉันแบบนี้ทำไม?"
กู้จื่อเฟยจับเย้นหว่านแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม
"เสี่ยวหว่าน ฉันอยากจะถามเธอว่าจะเป็นเจ้าสาวแล้ว เธอรู้สึกยังไงบ้าง?"
"เจ้าสาว?"
เย้นหว่านตะลึงงัน "เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ? จะเป็นเจ้าสาวแล้วอะไรกัน?"
เมื่อเห็นเย้นหว่านทำท่าเหมือนยังไม่รู้เรื่องแบบนั้น กู้จื่อเฟยก็นิ่งไปแล้วจึงเข้าใจ
เย้นหว่านอยู่แต่ในคลังตลอดทั้งวัน ข้างในนั้นไม่มีสัญญาณ พอเธอออกมาก็ตรงมาที่ห้องอาหารเลย ยังไม่ทันได้ติดต่อกับเย้นโม่หลิน
ดังนั้นเรื่องงานแต่งงานเจ้าตัวคงจะยังไม่รู้เรื่องแน่
กู้จื่อเฟยจึงรีบตอบคำถามเธอ "พ่อแม่เธอกับคุณปู่ตระกูลหยูได้ตกลงกันแล้วว่าจะให้เธอกับโห้หลีเฉินแต่งงานกัน เธอดูสิข้างนอกมีการตกแต่งประดับประดาแล้ว เป็นการเตรียมงานแต่งงานของเธอไงล่ะ"
เย้นหว่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก ที่เธอเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั่นก็เพื่อเธอเหรอ?
คนที่จะแต่งงานก็คือเธอ?
นี่มัน...
ความประหลาดใจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเวียนหัวไปหมด และเธอจะไม่สามารถตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์ชั่วขณะหนึ่ง
"อะไรกัน ดีใจจนอึ้งหรือว่าไม่อยากจะแต่งกันแน่?"
กู้จื่อเฟยยิ้มอย่างสนุกสนานและตั้งใจพูดล้อเธอ "ฉันก็แค่ได้ยินพี่เย้นพูดน่ะ ว่าถ้าเธอไม่อยากจะแต่งงานเร็ว งานแต่งจะเลื่อนไปก่อนก็ได้ จะนานแค่ไหนก็ได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...