"คุณก็รู้ โรคของโห้หลีเฉิน จำเป็นต้องแต่งงานมีลูกกับคุณ แล้วได้รับเลือดจากสายสะดือของเด็กถึงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าคนทุกรุ่นจะเป็นโรคนี้ แต่บรรพบุรุษตระกูลหยู จะมีลูกหลานที่เป็นโรคนี้ทุกๆ สองสามรุ่น เป็นสายเลือดที่ประเสริฐที่สุด และจำเป็นต้องแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเย้นเป็นภรรยาจึงจะสามารถมีชีวิตรอด
มันเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ ในคำสอนบรรพบุรุษมีเพียงบันทึกแบบย่อ ว่าบรรพบุรุษตระกูลหยูกับตระกูลเย้นเคยเป็นคนรักกัน เนื่องจากบรรพบุรุษตระกูลหยูได้รับโรคประหลาด บรรพบุรุษตระกูลเย้นนั้นเพื่อช่วยคนรัก ได้ใช้ร่างกายเป็นยาถอนพิษ เช่นนี้ถึงได้ช่วยบรรพบุรุษตระกูลหยูเอาไว้ได้
ดังนั้นหากจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นเรื่องราว ตระกูลหยูกับตระกูลเย้นที่จริงแล้วเคยเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อมาพวกลูกหลานรุ่นหลังๆ ได้มีการดำเนินชีวิตแบบพัฒนาใครพัฒนามัน หลังจากผ่านหลายร้อยปี ทั้งสองตระกูลจึงสร้างตัวเองจนมีอิทธิพลและทรงอำนาจโดยแยกจากกันมาจนทุกวันนี้
และเพราะความสัมพันธ์ของบรรพบุรุษ ประกอบกับพิษตกค้างของลูกหลาน การกำเริบโรคทางพันธุกรรมจึงไม่แน่นอน ดังนั้นเมื่อลูกหลานป่วย จึงมีเพียงคุณหนูในตระกูลเย้นที่สามารถช่วยได้
เพราะฉะนั้น หลายร้อยปีมานี้ ความสัมพันธ์ของตระกูลหยูกับตระกูลเย้นจึงดีมาก ทุกสองสามรุ่นจะมีการดองกันเกิดขึ้น"
ท่านอาวุโสแปดอธิบายอย่างละเอียด บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดระหว่างสองตระกูลกับเย้นหว่านซึ่งเธออาจจะรู้มาก่อนหน้านี้เพียงคร่าวๆ
แต่เย้นหว่านยิ่งฟังยิ่งสงสัย
เธอจึงถามว่า "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะทำให้ตระกูลเย้นล่มสลาย และต้องรักษาความสัมพันธ์กับตระกูลเย้นเอาไว้ให้ดีไม่ว่ายังไงก็ตามถึงจะถูก
แต่ตอนนี้ทำไมหยูฉู่สองถึงต้องการฆ่าพี่ชายฉัน โรคของโห้หลีเฉินยังไม่ได้มีการแก้ไขโดยสมบูรณ์ เขาไม่มีเหตุผลเลยที่ทำแบบนี้"
เย้นหว่านเคยคิดว่า ความเกลียดชังของหยูฉู่สองได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
โห้หลีเฉินเป็นคนเดียวที่สามารถเปิดคลังสมบัติได้ และเธอเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยโห้หลีเฉินได้ ไม่ว่าก่อนหน้านี้มีบุญคุณความแค้นอะไรมาก่อน บนพื้นฐานของผลประโยชน์แบบนี้ ตระกูลหยูจะไม่ทำอะไรกับพวกเขา
แต่การพลิกหน้ามือเป็นหลังมือของหยูฉู่สองทำให้เย้นหว่านรับมือไม่ทัน
ท่านอาวุโสแปดถอนหายใจ ขมวดคิ้วแน่น
เขาพูดอย่างหนักใจว่า
"หลายร้อยปีมานี้ ตระกูลหยูรักษาความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเย้นมาโดยตลอด รักษาความสัมพันธ์นี้ไว้แม้ว่าจะต้องเสียผลประโยชน์ก็ตาม
แต่เมื่อคืนนี้ ตอนที่พวกเขาเปิดบันทึกดูข้อมูล กลับพบอีกหนึ่งเรื่องจริงของบรรพบุรุษ"
ท่านอาวุโสแปดมองไปยังทิศทางของเย้นโม่หลิน น้ำเสียงยิ่งหนักใจขึ้น ถึงขั้นถอนหายใจ
"สิ่งที่ไม่ได้ระบุในคำสอนบรรพบุรุษ ถึงขั้นแตกต่างจากเนื้อหาในคำสอนบรรพบุรุษโดยสิ้นเชิง นั่นคือบันทึกประจำวันของบรรพบุรุษ
ในนั้นเล่าว่า ความจริงแล้วบรรพบุรุษตระกูลหยูกับบรรพบุรุษตระกูลเย้นไม่ใช่คู่รักที่รักกัน และหลังจากเป็นคู่แค้นจนแยกทางกัน ก็ต่างเกลียดชังและทำร้ายกัน แต่แล้วก็กลับมารักกันอีกครั้ง
หลังจากบรรพบุรุษตระกูลหยูถูกวางยาพิษ บรรพบุรุษตระกูลเย้นใช้ตัวเองเป็นเชื้อล้างพิษจริงๆ แต่เธอไม่ได้แก้พิษอย่างเดียว แต่ใส่พิษลงไปด้วย พิษนี้ก็คือโรคทางพันธุกรรมในปัจจุบัน นำมาสู่ลูกหลานตระกูลหยู ถ้าผู้ที่ป่วยไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงตระกูลเย้น ก็จะตาย และไม่สามารถเปิดคลังสมบัติที่สำคัญที่สุดของตระกูลหยูได้
แผนของบรรพบุรุษตระกูลเย้น คือการสาปแช่งลูกหลานของบรรพบุรุษของตระกูลหยู ให้ตระกูลหยูเป็นเบื้องล่างตระกูลเย้นตลอดไป"
เย้นหว่านอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าระหว่างสองบรรพบุรุษ จะมีความพัวพันที่แท้จริงเป็นเช่นนั้น
รักกันฆ่ากัน
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ร้อยปีมานี้ แม้ตระกูลหยูจะมีอำนาจมากสูสีพอๆ กับตระกูลเย้น แต่ในแง่ของการแต่งงาน ล้วนต้องเป็นด้านที่ต่ำต้อยอ่อนน้อมให้มาโดยตลอด
ส่วนคำสอนดั้งเดิมของบรรพบุรุษนั้นบอกเล่าเรื่องราวของความรัก บอกเล่าว่าบรรพบุรุษตระกูลเย้นเสียสละเพื่อบรรพบุรุษตระกูลหยู ดังนั้นแม้ลูกหลานตระกูลหยูเป็นโรคนี้ และต้องร้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลเย้น ก็ยังรู้สึกสบายใจ
แต่เมื่อบันทึกประจำวันที่แท้จริงถูกเปิดเผยว่าที่แท้แล้วเป็นการแก้แค้นและแผนการ เป็นการควบคุมโดยเจตนาของตระกูลเย้นที่มีต่อตระกูลหยู สิ่งนี้สำหรับทุกคนของตระกูลหยูในปัจจุบัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นการระเบิดครั้งใหญ่
"แต่ถึงเป็นอย่างนั้น แม้ว่าตระกูลหยูจะไม่พอใจ ทว่าข้อเท็จจริงที่ว่าต้องถูกผูกติดอยู่ภายใต้ตระกูลเย้นนั้นเปลี่ยนไม่ได้ ตระกูลหยูต้องการตระกูลเย้น พวกหยูฉู่สองเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์ที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะหันหลังให้กับตระกูลเย้นจนเป็นศัตรูเพียงเพราะแรงกระตุ้นและเรื่องราวที่กระทบเข้ามากะทันหันโดยไม่คาดคิดถึงจะถูก"
เย้นหว่านวิเคราะห์หน้านิ่วคิ้วขมวด "แต่ตอนนี้หยูฉู่สองกลับสั่งฆ่าพี่ชายฉัน ยังมีเหตุผลอื่นอีกใช่ไหม"
ท่านอาวุโสแปดพยักหน้า "คุณเย้นฉลาดมาก"
เขาพูดต่อไป "เรื่องของพวกบรรพบุรุษเป็นเพียงมูลเหตุ สาเหตุแท้จริงที่ทำให้ท่านผู้นำตระกูลสั่งฆ่า เป็นเพราะ...ในที่ลับ พวกเขาถอดรหัสความลับที่บรรพบุรุษเขียนไว้ออกมาได้
เดิมที เมื่อครั้งล่าสุด บรรพบุรุษเราได้ศึกษามาตลอดชีวิต ในที่สุดก็พบวิธีแก้ปัญหาโรคทางพันธุกรรมนี้ เขาทำยาแก้พิษออกมา แต่ยังไม่ทันได้ใช้ ก็ถูกบรรพบุรุษตระกูลเย้นพบเข้าเสียก่อน และขโมยยาแก้พิษไป
และตอนนี้ ยาแก้พิษก็ยังอยู่ในบ้านตระกูลเย้น ถ้าตระกูลหยูได้ยาแก้พิษมา ก็สามารถควบคุมโรคทางพันธุกรรมได้อย่างถาวร ผู้นำตระกูลทุกคนหลังจากนี้ จะสามารถเปิดคลังสมบัติได้"
เย้นหว่านเข้าใจได้ทันที
ข่าวนี้สำหรับตระกูลหยู ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นโอกาสให้พวกเขาพลิกสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อได้ยาแก้พิษมา ตระกูลหยูก็จะไม่ต้องถูกตระกูลเย้นควบคุมอีก
ดังนั้นหยูฉู่สองจึงตัดสินใจดำเนินการเด็ดขาด ขณะที่เย้นโม่หลินยังอยู่ในตระกูลหยู จึงเริ่มลงมือกะทันหัน ลอบจู่โจมฆ่าเย้นโม่หลินทิ้ง
เย้นโม่หลินมีตำแหน่งสำคัญในตระกูลเย้น กุมอำนาจที่แท้จริง ถ้าเขาตายไป ตระกูลเย้นก็มีแนวโน้มจะสั่นคลอน และตะกูลหยูจะฉวยโอกาสจากช่องโหว่นี้ เข้าโจมตีตระกูลเย้นอย่างรุนแรง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะประสบความสำเร็จ
ทำลายตระกูลเย้นให้สิ้นซาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...