บทที่99 ในรถ
โห้หล้เฉินอุ้มเย้นหว่านไว้ ไม่หยุดแม้วินาทีเดียว เดินตรงออกจากห้อง และเดินออกประตูใหญ่
เขาออกค่ำสั่งด้วยสีหน้ามืดมน:“เว่ยชี ไปขับรถมา”
“ครับ คุณชาย”
เว่ยชีรีบเดินไปขับรถ
“เฉินคะ”
มู่หรงชิ่นวิ่งตามมา มองโห้หลีเฉินด้วยแววตาระยิบระยับ สีหน้ายุ่งเหยิงไปหมด
เธอลังเลไปครู่นึง แล้วเปิดปากพูดอย่างอ่อนโยนว่า:“จากไปแบบนี้ แล้วโรคของฉัน......” จะทำยังไง
หน้าที่หล่อเหลาของโห้หลีเฉินไม่มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย น้ำเสียงเรียบเฉย
“ถ้าหากคุณอยากอยู่ที่นี่ต่อ ผมจะให้เว่ยชีอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”
ความหมายก็คือ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไปจากที่นี่
มู่หรงชิ่นรู้สึกเจ็บใจยังอยากจะพูดอะไรต่ออีก แต่พอเห็นสีหน้าที่เย็นชาของโห้หลีเฉินแล้ว เหมือนมีก้อนหินใหญ่ติดอยู่ที่คอ ทำให้เธอพูดไม่ออกสักคำ
ในใจเขา เย้นหว่านสำคัญกว่าเธอเป็นพันเท่าหมื่นเท่า
ตอนแรกเป็นเพราะความกลัว เย้นหว่านเลยหลบอยู่ที่อ้อมกอดของโห้หลีเฉิน เพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้ลงมาจากชั้นบนแล้ว และมู่หรงชิ่นก็อยู่ด้วย
เย้นหว่านเปิดปากพูดอย่างทำตัวไม่ถูก “คุณโห้คะ ปล่อยฉันลงมาเถอะค่ะ ให้เว่ยชีส่งฉันกลับไปก็พอค่ะ คุณอยู่ที่นี่กับคุณมู่หรงจะดีกว่าค่ะ”
ระหว่างพูด เย้นหว่านพยายามจะลงมาจากอ้อมกอดของโห้หลีเฉิน
แต่แขนที่เอวกลับใช้แรงขึ้นมาทันที กอดเธอแน่นยิ่งขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้
โห้หลีเฉินก้มมองเธอ และพูดอย่างเผด็จการ
“อย่าขยับ”
“แต่ว่า.......”
“ถ้าขยับอีกผมจะจูบคุณ”
โห้หลีเฉินขู่ด้วยเสียงแหบ
คำพูดที่หวานแหววพุ่งมาที่เย้นหว่าน ทำให้ใบหน้าเล็กๆที่ขาวซีดของเธอแดงขึ้นมาทันที
เธอแข็งทื่อไว้ไม่กล้าขยับ รู้สึกอึดอัดแทบแย่อยู่แล้ว
มองดูเขาสองคนจู๋จี๋กัน ความริษยาในใจของมู่หรงชิ่นแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แทบอยากจะให้ตัวเองสามารถกลายเป็นเย้นหว่านเลย
สะกดอารมณ์ตัวเองไว้อย่างยากลำบาก มู่หรงชิ่นหน้าซีด และพยักหน้าเบาๆ
“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกคุณเดินทางปลอดภัยนะ”
พูดจบ เธอมองเย้นหว่านด้วยความเป็นห่วง แต่คำพูดกลับพูดให้กับโห้หลีเฉิน “เฉินคะ เสี่ยวหว่านเพิ่งเจอเรื่องตกใจมา คุณก็อย่าทำให้เธอขู่เธอเลย ส่งเธอกลับไปดีๆล่ะ”
คำพูดที่ห่วงใย ทำให้เธอเหมือนเจ้านายที่ใจกว้าง
หัวใจของโห้หลีเฉินอยู่แต่ที่เย้นหว่านเท่านั้น กลับไม่ได้สนใจอะไร ยืนตัวตรง ไม่พูดอะไร
เย้นหว่านกลับรู้สึกไม่สบายใจ ถูกโห้หลีเฉินกอดไว้ ก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
ยังดี เวลานี้เว่ยชีได้ขับรถเข้ามาแล้ว
โห้หลีเฉินวางตัวเย้นหว่านไว้ที่ๆนั่งข้างคนขับ จากนั้นตัวเองก็ได้เดินไปที่ๆนั่งคนขับ และสั่งการเว่ยชีไว้สองคำ แล้วขับรถจากไปอย่างไม่ลังเล
ก่อนจะจากไป ไม่ได้หันมามองมู่หรงชิ่นเลยด้วยซ้ำ
มู่หรงชิ่นยืนอยู่ที่ลานบ้าน มองดูโห้หลีเฉินขึ้นรถและจากไป อารมณ์ที่สะกดเอาไว้เหมือนสายน้ำทะเลพลิกผันเดือดขึ้นมาทันที
เธอแทบทนไม่ไหวอยากจะตะโกน และร้องไห้เสียงดัง
เว่ยชีเดินเข้ามา ก็เห็นแววตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาของมู่หรงชิ่น เลยอึ้งไปครู่นึง
เขาเปิดปากพูดอย่างไม่คิด:“คุณหนูมู่หรงครับ คุณวางใจได้เลยครับ สองสามวันนี้ผมจะไม่ห่างจากคุณแม้แต่ก้าวเดียว และไม่ให้ป่ายฉีทำร้ายคุณแน่นอนครับ”
มู่หรงชิ่นมองเว่ยชีด้วยสายตาเย็นชา หน้าบึ้งแล้วหันหลังก็เดินเข้าไปข้างใน
หลังจากขึ้นรถ เย้นหว่านมองออกไปที่นอกกระจกรถ ออกห่างจากบ้านของป่ายฉีเรื่อยๆ ใจที่ไม่สงบของเธอถึงได้ค่อยๆสงบลง
ทีนี้เธอถึงมีอารมณ์มาจัดการแผลตรงหน้าอกของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...