กู้ว่างเชินไม่เชื่อ เขาเดินตามหาฉู่เหมียนไปทั่วทุกหนแห่งที่เธออาจจะอยู่
สวนหลังบ้าน ห้องสมุด ห้องฉายหนัง... ไม่เพียงแต่จะไม่เห็นร่างของฉู่เหมียน แม้แต่ของใช้ของเธอก็ไม่เหลือ
ชั้นหนังสือในห้องสมุด ตำราวิชาแพทย์ที่ฉู่เหมียนชอบอ่านก็ว่างเปล่าเอี่ยมอ่อง
เดิมทีเขาแทบไม่กลับมาที่นี่อยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีฉู่เหมียน บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับไม่เคยมีใครอยู่ ไม่มีแม้แต่ความอบอุ่น
กู้ว่างเชินเดินลงบันไดด้วยฝีเท้าหนักหน่วง เขาสังเกตเห็นว่าที่ว่างหลังโซฟาแปลก ๆ เหมือนมีอะไรหายไป เมื่อเขาเห็นภาพวาดที่เสียหายถูกโยนลงถังขยะ ลมหายใจของเขาก็ติดขัด
หลังจากฉู่เหมียนแต่งงานกับเขา เธอชอบอ้อนวอนให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธอ แต่เพราะเขางานยุ่งมากและเกลียดเธอเป็นทุนเดิม จึงปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า
วันนั้นเป็นวันเกิดของฉู่เหมียน เธอมาหาเขาที่บริษัทและถามเขาว่า “อาเชิน ออกไปฉลองวันเกิดกับฉันหน่อยได้ไหม ถ้าคุณยุ่งมาก ขอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้”
เขาเห็นว่าเธอน่าสงสารมาก จึงตกลงไปฉลองวันเกิดกับเธอ
เดิมทีเขาคิดว่าเธอจะขอให้เขาซื้อของขวัญให้ ไปทานข้าวกับเธอ หรือแม้แต่ขออะไรที่ไร้เหตุผล
แต่ใครจะรู้ว่าเธอแค่อยากให้เขาไปเดินเล่นกับเธอ และยังถามอย่างระมัดระวังอีกว่า “อาเชิน ขอจับมือคุณหน่อยได้ไหม?”
เธอรู้ว่าเขาทำงานยุ่ง จึงไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยมากนัก ไปหาซื้อภาพวาดจากร้านงานฝีมือ เพราะอยากวาดภาพร่วมกับเขา
เขาคิดว่ามันไร้สาระ จึงทำเพียงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ระหว่างนั้นเขาก็รับโทรศัพท์จากลู่เจียวหลายสาย
ฉู่เหมียนไม่พูดอะไร พอกลับบ้านแล้วก็นำภาพวาดไปแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น หน้าตาดูมีความสุขมาก
เพียงแต่หลังจากนั้น เธอก็ไม่เคยตื๊อให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธออีกแล้ว และไม่เคยฉลองวันเกิดอีกเลย
กู้ว่างเชินกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบภาพวาดขึ้นมา แต่หางตาของเขาเหลือบไปเห็นใบหย่าที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ
หัวใจของกู้ว่างเชินเต้นรัวขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อเห็นชื่อของเขาและเธอตรงตำแหน่งเซ็นชื่อ
กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ฉู่เหมียนตัดสินใจจะหย่ากับเขาจริง ๆ เหรอ!?
ติ๊ง…
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กู้ว่างเชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที คิดว่าเป็นฉู่เหมียน แต่กลับพบว่าเป็นข้อความจากคนในครอบครัว
[อาเชิน งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าเตรียมพร้อมเกือบหมดแล้ว คงรู้อยู่ว่าย่าเป็นคนหน้าใหญ่ งานนี้อยากจัดให้ใหญ่โต บัตรเชิญก็ส่งออกไปหมดแล้ว ย่าขอสั่งเป็นพิเศษว่า เธอกับเหมียนเหมียนต้องมาร่วมงานให้ตรงเวลา ไม่งั้นเชิญรับผิดชอบกับผลที่ตามมาได้เลย!]
ใจของกู้ว่างเชินหงุดหงิดสุดจะบรรยาย
งานเลี้ยงวันเกิดนี้มาในเวลาที่ไม่ควรเลยจริง ๆ
...
ย่านใจกลางเมืองอวิ๋น บ้านตระกูลฉู่
คุณปู่ฉู่ซานในชุดเสื้อผ้าสไตล์จีน ยกแก้วบนโต๊ะอาหารชูขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอแสดงความยินดีกับ
เหมียนเหมียนของเราที่หลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์!”
“เหมียนเหมียน ตอนนี้ไหน ๆ ก็กลับบ้านแล้ว มารับช่วงต่อบริษัทของพ่อเถอะ พ่ออยากเกษียณจะแย่แล้ว!"
ฉู่เทียนเหออ้อนวอนอย่างเอาแต่ใจให้ลูกสาวสืบทอดมรดกมูลค่าหลายพันล้าน
"ไม่ได้ เหมียนเหมียนต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลกับย่าสิ ฝีมือทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหลานจะสูญเปล่าเอานะถ้าไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์" เชียนหลี่จวินพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“หรือไม่ก็ให้เหมียนเหมียนไปเรียนออกแบบเครื่องประดับกับแม่ดีกว่า!" เซิ่งฉิงยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วหัวเราะอย่างร่าเริง
ฉู่เหมียนถือตะเกียบเอาไว้ ชามข้าวตรงหน้าเธอเต็มไปด้วยอาหารจานโปรด
เธอเฝ้ามองสมาชิกทุกคนบนโต๊ะอาหาร หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด
ตระกูลฉู่ก็ยังคงเป็นตระกูลฉู่เหมือนเดิม เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความอบอุ่น บรรยากาศในบ้านอบอุ่นที่สุดแล้ว
ทั้ง ๆ ที่เธอเตยทำร้ายจิตใจพวกเขาจนบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขากลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย
ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่สามารถยอมรับตัวตนที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธอได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เหมียนก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่ไม่สมกับเป็นสายเลือดของพวกเขาเลย
เธอจะไม่ทำร้ายคนที่รักเธออีกแล้วเพื่อคนที่ไม่รักเธอ
"ให้เหมียนเหมียนเรียนต่อหมอเถอะ!"
"ไม่ ไปทำธุรกิจดีกว่าเยอะ!"
"โอ๊ย เป็นดีไซน์เนอร์ก็มีอนาคตเหมือนกันนะ!"
จู่ ๆ ทั้งสามคนก็เริ่มโต้เถียงกัน ฉู่เหมียนและฉู่ซานมองหน้ากันด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไร
"เหมียนเหมียนเลือกสิ หนูอยากเลือกอะไร?!" เสียงทั้งสามดังขึ้นพร้อมกัน
ฉู่เหมียนกระตุกมุมปาก ประสาทของเธอตึงเครียดจนแทบจะหายใจไม่ออก
"หนู..." ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอไว้แน่น มือก็กำตะเกียบแน่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ทำให้อีกสองคนไม่พอใจอย่างเลี่ยงไม่ได้!
ปี๊บ…
จู่ ๆ เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นจากด้านนอกตัวบ้าน ฉู่เหมียนหัวเราะคิกคัก เสิ่นเหราเพื่อนสนิทของเธอมารับเธอแล้ว
เธอเช็ดมุมปากแล้วพูดว่า "ครอบครัวที่รักขา หนูขอออกไปเที่ยวก่อนนะคะ รอเที่ยวเล่นจนหนำใจเมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาสานต่อความฝันของพวกคุณทีละคนเลย!”
เมื่อพูดจบฉู่เหมียนก็วิ่งออกไป ปล่อยให้คนบนโต๊ะโต้เถียงกันจนหน้าดำหน้าแดง
มรดกมูลค่าหลายพันล้านและการเป็นหมอเฉพาะทางล้วนไม่เลว แต่สำหรับฉู่เหมียนในตอนนี้ความสุขยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เธออยากทวงความเยาว์วัยที่เธอเสียไปตั้งสามปีกลับมาเสียก่อน!
เอสเคไนต์คลับ
เสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟสาดส่องไปยังกลางฟลอร์เต้นรำ
ฉู่เหมียนสวมชุดเดรสสั้นรัดรูปสีแดง รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร ขาเรียวยาวของเธอขาวผ่อง ชุดเดรสช่วยเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอให้ชัดเจนขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ