แต่แล้วในตอนนั้นเอง มีเสียงหัวเราะดังมาจากนอกบ้าน หลังจากนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พี่จาง วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของคุณ ผมหน้าด้านมาขอเหล้าดื่ม ไม่รู้ว่าคุณจะยินดีต้อนรับผมหรือเปล่า!"
"ใครกันที่เสียมารยาทแบบนี้?" "ถึงขั้นกล้าเรียกผู้เฒ่าจางว่าพี่?" "เย่อหยิ่งชะมัด!"
มีผู้คนไม่น้อยขมวดคิ้วหันไปมองตามทิศทางของเสียง กลับเห็นชายชราคนหนึ่งที่สวมชุดถังจวงเดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม
"ปรมาจารย์หลิว!"
มีคนจำผู้มาได้ในทันที
"พระเจ้า คิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์หลิวจะมาด้วย!"
"ผู้เฒ่าจางมีหน้ามีตาใช้ได้เลย"
พวกแขกพากันอุทาน
เกิดความโกลาหลขึ้นทันที
คนคนนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป!
"คุณปู่หลิว!"
ทางด้านของจางก้าน เฉิงผิง จางเม้าเหนียนและคนอื่นที่รุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาก็จำผู้มาได้ ทุกคนรีบเดินตรงเข้าไปต้อนรับพร้อมกับตาที่ลุกวาวเป็นประกายทันที
ผู้มาคือหลิวซินหัวผู้เชี่ยวชาญทางด้านการประเมินสมบัติที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน เป็นปรมาจารย์ในวงการนักประเมินสมบัติ เขาและผู้เฒ่าจางรู้จักกันมาหลายปีแล้ว
"น้องหลิว คุณมาได้ยังไง? มา มา มา นั่งก่อน นั่งก่อน!"
ผู้เฒ่าจางรีบลุกขึ้นเดินไปต้อนรับทันที
เขาเป็นแขกที่ไม่ได้จะพบเห็นบ่อย ทุกคนรู้แต่ว่าเขาเป็นนักประเมินสมบัติ แต่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังที่น่ากลัวของเขา
"ลุงหลิว!"
"ลุงหลิว ช่วงนี้สบายดีหรือเปล่า?"
"ลุงหลิว เชิญทางนี้"
ลูกชายของผู้เฒ่าจางรีบเดินมาทักทายเอาอกเอาใจปรมาจารย์หลิว
"คุณก็ไปด้วยสิ!" จางชิงหยูใช้แขนกระแทกเอวของซูกวงแล้วพูด
ถ้าหากมีโอกาสได้รู้จักกับปรมาจารย์หลิวต่อหน้าชายชรา ทุกคนก็จะมีโอกาสได้แสดงความสามารถของตัวเองไม่ใช่เหรอ?
ซูกวงลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายพยักหน้าแล้วก้าวเดินออกไป
แต่ทันทีที่เขาเพิ่งก้าวออกไปกลับโดนเหรินอ้ายขวางเอาไว้
"ไสหัวไปที่อื่นเลย ยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ?" เหรินอ้ายพูดตำหนิ
ซูกวงอ้าปากเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจเลือกที่จะถอยหลังกลับไป
จางชิงหยู่จ้องเหรินอ้ายด้วยความโกรธจนไม่รู้จะทำยังไง แต่เธอก็พูดอะไรไม่ออก
แต่แล้วในตอนนั้นเอง เหมือนปรมาจารย์หลิวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
"คุณ?" เขายกมือขึ้นชี้ไปทางซุกวง
ร่างกายของซูกวงสั้นสะท้านทันที
"คุณ…คุณรู้จักปรมาจารย์หลิวด้วยเหรอ?" เหรินอ้ายหน้าซีด
จางคุนและคนอื่นก็มึนงงไปหมดเหมือนกัน ทุกคนหันไปมองทางซูกวงพร้อมกัน ท่าทางของแต่ละคนดูไม่อยากเชื่อ
กลับเห็นปรมาจารย์หันหลังแล้วเดินตรงเข้าไปทางซูกวงอย่างกะทันหันโดยไม่สนใจคนของตระกูลจาง
"อะไรนะ?"
คราวนี้แม้แต่แขกทุกคนก็มองตาค้าง
ซูกวงดูประหม่ามาก เขากลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัวหลายครั้ง เห็นปรมาจารย์หลิวเดินตรงเข้ามา เขารีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเค้นรอยยิ้มออกมาเดินตรงเข้าไปหาเหมือนกัน
แต่ตอนที่เขาเพิ่งเดินออกไป ปรมาจารย์กลับเดินอ้อมผ่านเขาตรงไปหาหลินหยางที่อยู่ด้านหลัง หลังจากนั้นจับมือของหลินหยางแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น "น้องชาย มันคือพรหมลิขิต คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้เจอกันที่นี่อีกแล้ว?"
ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เงียบลงทันที
จางซงหง จางคุนและคนอื่นตัวแข็งทื่อยืนอยู่ตรงที่เดิม
ทุกคนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ปรมาจารย์หลิวรู้จักหลินหยาง?
นี่มันน่าตกใจยิ่งกว่ารู้จักซุกวงเสียอีก…
"ฮืม ผู้อาวุโส คุณเองเหรอ" หลินหยางจำผู้มาได้แล้ว แต่สีหน้าของเขาไม่ได้ดูดีใจเท่าไหร่
"น้องชาย ขอร้องแหละ ให้ผมชื่นชมภาพชางเยว่อีกครั้งได้หรือเปล่า? ผมดูแค่แวบเดียว แค่แวบเดียว ผมจะไม่เสนอราคาอีกแล้ว!" ปรมาจารย์หลิวพูดด้วยความกระหายและร้อนรน
ทุกคนที่อยู่โดยรอบได้ยินคำพูดประโยคนี้ถึงกับตกตะลึง
ชื่นชมภาพชางเยว่
แล้วทำไมต้องมาหาหมอนี่?
ทันทีที่เขาพูดจบ จางเม้าเหนียนที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
"อาวุโสหลิว คุณอยากดูภาพชางเยว่? คุณน่าจะมาหาพ่อของฉันสิ พ่อของฉันมีภาพต้นฉบับ ภาพที่อยู่ในมือของหมอนั่นเป็นแค่ของเลียนแบบ ของเลียนแบบมีอะไรน่าดู?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...