"น้องจาง! การตบหน้าครั้งนี้เพียงเพื่อชดเชยการเสียหน้าของแต่ละตระกูลเท่านั้น!" หร่านจ้ายเซียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ชดเชยกันเสียหน้า? แล้วใครจะเป็นคนให้หน้าตระกูลจาง?" ผู้เฒ่าจางตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด
"เรื่องนั้นผมไม่รู้!"
หร่านจ้ายเซียนส่งเสียงฮึ่ม
วันนี้เขาคงจะต้องการฉีกหน้าผู้เฒ่าจางให้ได้
"ได้! ได้! ได้! ทุกคนลงมือเลย! ลงมือ! วันนี้ถึงฉันจะต้องติดคุกก็ไม่มีทางปล่อยคนพวกนี้ไป!" ผู้เฒ่าจางลุกขึ้นมาตบโต๊ะแล้วพูดเสียงดัง
คนของตระกูลจางก็ทนไม่ไหวแล้ว แต่ละคนพร้อมที่จะลงมือ
แต่ในตอนนั้นเอง
กึก!
มีเสียงที่น่าอึดอัดใจดังขึ้น
เห็นเพียงคุณนายจางก้าวออกมาข้างหน้า
"ทุกคนที่แซ่จางฟังให้ดี ถอยออกไปให้หมด!"
เห็นภาพนี้แล้วฝีเท้าของคนของตระกูลจางหยุดชะงักลง เบิกตากว้างมองไปทางคุณนายจาง
"คุณทำอะไรของคุณ?" ผู้เฒ่าจางตะคอก
หญิงชรากวาดสายตามองไปทางชายชราแวบหนึ่งแล้วไม่ได้สนใจอะไรอีก หลังจากนั้นหันไปมองคนที่อยู่โดยรอบแล้วพูดอย่างเชื่องช้า "ในเมื่อทุกคนก็อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว งั้นฉันมีเรื่องอยากจะประกาศให้ทุกคนรู้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงที่ชื่อซูเหยียน! ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลจางอีก!"
"คุณยาย!"
"แม่!"
ซูเหยียนและจางชิงหยู่ตกตะลึงแล้ว
หลังจากเข้ามาในห้องโถง หลินหยางเดินไปนั่งที่โต๊ะด้านข้างโดยหันหลังให้กับนายท่านเหิง หลังจากนั้นรินชาให้ตัวเองแล้วนั่งดื่มโดยไม่สนใจคนอื่น
"ภายในสิบวินาที ถ้าหากคุณไม่สามารถให้เหตุผลที่ผมต้องปล่อยคุณไป ผมรับรองหลังจากที่กลับไปถึงสำนักงาน คุณจะต้องตายอย่างน่าอนาถแน่นอน" นายท่านเหิงพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ เขากำหมัดแน่น ทำท่าเหมือนพร้อมที่จะสยบหลินหยางทุกเมื่อ
เขาไม่มีความอดทนมากพอที่จะเล่นกับหลินหยาง ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะไม่อยากมีปัญหากับตระกูลจางมากเกินไป มีเหรอที่เขาจะเข้ามา?
ได้แล้ว หลินหยางยังคงไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากตรงหน้าอกแล้ววางลงบนโต๊ะ
ในแววตาของนายท่านเหิงปรากฏให้เห็นความสับสน เขาลังเลอยู่สักพักสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไป
"ผมหวังว่าคุณจะสามารถช่วยผมปกปิดสถานะของผม เนื่องจากมีเหตุผลบางประการ ตอนนี้ผมยังไม่สามารถให้คนอื่นรู้เรื่องพวกนี้ หวังว่าคุณจะเข้าใจ เจ้าหน้าที่เหิง" หลินหยางดื่มชาแล้วพูด
"เหอ คนอย่างคุณจะไปมีสถานะอะไร มันก็แค่หนังสือรับรองไม่ใช่เหรอ? หรือมันจะทำให้ผมตกใจกลัว?" ไคเหิงหยิบหนังสือเล่มเล็กขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
หลินหยางไม่ได้พูดอะไร
ไคเหิงขมวดคิ้วจ้องมองหน้าปกของหนังสือเล่มนั้นสักพัก หลังจากนั้นเปิดดูอย่างเชื่องช้า
ทันทีที่เปิดไปหน้าแรก ลมหายใจของเขาแทบจะหยุดชะงัก
"คุณ…มาจากที่ไหน?"
เขาถามด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
"เยี้ยนจิน" หลินหยางวางแก้วชาลง
ร่างกายของไคเหิงสั่นสะท้าน
"ยังจะไปหรือเปล่า?" หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
สีหน้าของไคเหิงมีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุด สุดท้ายสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดเสียงเบา "ได้ ครั้งนี้คิดเสียว่าผมเข้าใจผิด! แต่ผมหวังว่าคุณจะไม่มายุ่งกับตระกูลไคของเราอีก"
"อันที่จริงตระกูลไคของคุณต่างหากที่มายุ่งกับผม" หลินหยางส่ายหัว "ถ้าหากผมต้องการเล่นงานตระกูลไคจริง ผมคิดว่าตอนนี้มณฑลกวงหลิวน่าจะไม่มีตระกูลไคอยู่แล้ว"
"พูดจาอวดดีใช้ได้! คุณอาศัยชื่อในนามประธานสมาคมการแพทย์? คุณอาศัยที่ชนะแพทย์เกาหลี? ฮึ่ม หมอเทวดาหลิน ถ้าหากคุณจะพึ่งพาของสิ่งนี้อย่างเดียว เกรงว่าคงทำอะไรตระกูลไคของผมไม่ได้หรอก" ไคเหิงพูดด้วยความโกรธ
ตระกูลไคอยู่ในมณฑลกวงหลิวมานานขนาดนี้ มีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน มีตระกูลเก่าแก่ตระกูลไหนบ้างที่กล้าประกาศว่าสามารถทำอะไรตระกูลไค ก็แค่หมอการแพทย์แผนจีนคนหนึ่งจะมีอิทธิพลมากแค่ไหน?
"ผมไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น"
"แล้วคุณอาศัยอะไรมาพูดจาเอาแบบนี้?"
"ก็อาศัยพวกคนที่เดินทางมาจากเมืองเจียงเฉินที่อยู่ด้านนอกไม่ได้มาเพราะซูเหยียน แต่มาเพราะผม!" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
ร่างกายของไคเหิงสั่นสะท้าน แววตาแข็งทื่อ
ที่แท้…หมอเทวดาหลินคนนี้ก็คือประธานหยางหัวกรุ๊ป!
ถ้าหากเป็นแบบนั้น สถานการณ์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว
อย่างไรก็ตามอิทธิพลของหยางหัวกรุ๊ปน่ากลัวมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...