"ทำไม? กลัวเหรอ? เพิ่งรู้เหรอว่าวงการบันเทิงไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คุณคิด?" หลินหยางยิ้มแล้วพูด
"ฉันไม่เคยคิดว่าวงการบันเทิงดีขนาดนั้น ฉันแค่คิดไม่ถึงว่ามันจะสกปรกถึงขั้นนี้!"
"งั้นคุณยังจะอดทนต่อไปหรือเปล่า?"
"แน่นอน…ฉันไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการนี้เพราะต้องการชื่อเสียง ฉันแค่อยากทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง ฉันแค่ทำตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ เรื่องอื่นฉันไม่อยากไปคิดอะไรมาก" ซูหยูถอนหายใจแล้วพูด
"อืม ความแน่วแน่คือสิ่งสำคัญที่สุด! แต่พูดไปพูดมาจุดประสงค์ที่เสิ่นยู่หมิงเชิญคุณกินข้าว คุณเองก็รู้อยู่แล้ว ถ้าหากไม่บรรลุเป้าหมายของเขา แล้วเขาจะยอมตกลงเซ็นสัญญาได้ยังไง เพื่อบริจาคเงินให้เด็กยากจนในชนบท? คุณคงไม่ได้เพื่อโครงการนี้จึงยอมตกลงตามเงื่อนไขของเขาหรอกมั้ง?"
"เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!"
ซูหยูส่ายหัว "ถ้าเป็นเรื่องที่ล้ำเส้น ฉันไม่เห็นด้วยเด็ดขาด! โครงการนี้ถ้าคุยได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็ช่างเถอะ ฉันพยายามสุดความสามารถของฉันแล้ว ผลจะออกมาเป็นยังไง ให้สวรรค์เป็นคนตัดสินก็แล้วกัน!"
"คุณคิดแบบนี้ได้ก็ดี วงการบันเทิงไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าหากคุณเข้าวงการนี้เพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง มีแต่จะถูกคนอื่นหลอกใช้เท่านั้น!"
"วางใจเถอะพี่เขย ฉันจะระวัง"
"พวกเราไปกันเถอะ"
"ได้!"
ซูหยูพยักหน้า จับแขนของหลินหยางแล้วเดินออกไปทางข้างนอก
คนทั้งสองขึ้นรถแท็กซี่ ตรงไปที่ตำหนักจื่อจิงบนถนนใจกลางเมืองเจียงเฉิน
โรงแรมตำหนักจื่อจิงแห่งนี้เพิ่งเปิด
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเจียงเฉิน ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าหนึ่งพันตารางเมตร สามารถตั้งโรงแรมที่มีพื้นที่รัศมีกว้างแบบนี้ในช่วงที่ราคาที่ดินพุ่งสูง ไม่ต้องคิดเลยว่าต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่
ยิ่งไปกว่านั้นค่าใช้จ่ายในโรงแรมตำหนักจื่อจิงก็ไม่ธรรมดา เฉลี่ยแล้วอย่างต่ำอยู่ที่คนละสามพันหยวน
เนื่องจากมีราคาค่อนข้างแพงและมีการตกแต่งภายในอย่างหรูหรา สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นที่เช็คอินบนโลกอินเตอร์เน็ต
คนบางกลุ่มที่ชอบอวดความร่ำรวยจอมปลอมก็จะแห่กันมาที่นี่เหมือนกัน พวกเขาทำทีเพิ่งออกจากโรงแรมแห่งนี้ หลังจากนั้นถ่ายรูปโพสต์ลงบนกลุ่มเพื่อน และก็มีบางคนที่ทำตัวอวดรวยมาใช้บริการที่นี่แล้วโพสต์ให้ชาวโลกรู้เช่นกัน
สถานที่ดูหรูหราอลังการแบบนี้กับเต็มไปด้วยพวกหลอกลวง คำโกหก ต่างๆนานา…
ซูหยูค่อนข้างต่อต้านสถานที่แห่งนี้
มันไม่ได้เป็นเพราะเธอไม่ชอบคนที่นี่อย่างเดียว แต่เป็นเพราะที่นี่มีปาปารัสซี่มากมาย สายตาของพวกเขาแหลมคมเหมือนเตรียมตัวขย้ำเหยื่อ ถ้าหากโดนถ่ายในสถานที่แบบนี้แล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต จะต้องมีเรื่องปวดหัวมาให้เธอไม่หยุดแน่นอน
"ไม่ทราบว่าคุณคือคุณซูหรือเปล่า?"
ในตอนนั้นเอง ผู้ชายในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามาหาซูหยูและหลินหยาง ยิ้มเล็กน้อยแล้วถาม
"ใช่ คุณคือ…"
"สวัสดีคุณซู ผมเป็นผู้ช่วยของประธานเสิ่น ประธานเสิ่นสั่งให้ผมรอคุณอยู่ที่นี่ เชิญคุณตามผมมาได้เลย" ผู้ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
"อ๋อ…ได้…ได้…" ซูหยูพยักหน้า เตรียมพาหลินหยางเดินเข้าไป
แต่ผู้ชายคนนั้นกับขวางหลินหยาง ยิ้มแล้วพูด
"คุณซู คนขับรถของคุณสามารถไปรอที่ล็อบบี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเขา ประธานเสิ่นจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!"
"หมายความว่ายังไง?" ซูหยูรู้สึกอึ้ง
"เขาเข้าไปไม่ได้" ผู้ช่วยยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
"อะไรนะ?"
สีหน้าของซูหยูเคร่งขรึมลงทันที
หลินหยางก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
"คุณซู คุณเองก็น่าจะรู้ ประธานเสิ่นเชิญคุณแค่คนเดียว เขาไม่ต้องการให้คุณพาคนอื่นไปด้วย อย่าทำให้ผมต้องลำบากใจเลย"
ผู้ช่วยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
"เขาคือหลินหยางเป็นพี่เขยของฉัน! คนขับรถอะไร? คุณช่วยอย่าเข้าใจผิดได้หรือเปล่า?" ซูเหยียนรู้สึกโมโหเล็กน้อย "ถ้าหากเป็นแบบนี้ คุณกลับไปบอกประธานเสิ่นของคุณ ข้าวมื้อนี้ฉันไม่กินแล้ว!"
พูดจบ เตรียมตัวพาหลินหยางไปจากที่นี่
"รบกวนรอสักครู่ คุณซูหยู!" ผู้ช่วยรีบก้าวออกมาพูดอธิบาย "คุณซูหยู ให้เวลาผมสักนิด ผมจะไปถามประธานเสิ่นเดี๋ยวนี้!"
ซูหยูขมวดคิ้วแน่น มองไปทางหลินหยาง
"ให้เขาไปถามเถอะ ถ้าหากไม่ต้อนรับค่อยไปก็ยังไม่สาย" หลินหยางพูด
"งั้นก็ได้" ซูหยูพยักหน้า
ผู้ช่วยรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรทันที
ผ่านไปสักพักรีบพูด "คุณซู ประธานเสิ่นบอกว่าพาพี่เขยของคุณเข้าไปได้ เขาไม่ถือสา"
"อืม"
ซูหยูพยักหน้า
ผู้ช่วยเดินนำหน้า พาคนทั้งสองไปถึงชั้นบนสุดตำหนักจื่อจิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...