จางเม้าเหนียนกัดฟันแน่น
แต่จางเป่าชวีเหมือนบ้าไปแล้ว
เขารู้ดี หลินหยางไม่จำเป็นต้องมีเซี่ยโยวหลานคอยสนับสนุน แค่ตัวเขาเพียงลำพัง…ก็ไม่เคยกลัวตระกูลพวกนั้นอยู่แล้ว!
เขาเป็นถึงประธานของบริษัทหยางหัวกรุ๊ป!
"หลินหยาง ช่างเถอะ! อย่าทำให้คุณตาต้องลำบากใจเลย"
ซูเหยียนเดินเข้ามาพูดเกลี้ยกล่อม
หลินหยางมองไปทางชายชราแวบหนึ่ง
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ชายชราโกรธจนแทบจะระเบิด แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังเห็นแก่ความเป็นญาติ ถึงแม้เขาไม่พูด แต่แววตาของเขากำลังฟ้อง
ช่างเถอะ
หลินหยางส่ายหัว
เขาไม่จำเป็นต้องไปทำลายความสุขของชายชรา ไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ควรทำเกินขอบเขต อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของเขา
"ได้ วันนี้ผมจะไม่คิดบัญชีกับพวกคุณก่อน แต่พวกคุณทำอะไรไว้ ผมรู้ทุกอย่าง วันหลังค่อยว่ากัน!" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"คุณ…บัดซบ!"
"คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"
เฉิงผิงและคนอื่นพูดด้วยความโกรธ
แต่แล้วทันทีที่พวกเขาเพิ่งพูดออกไป เซี่ยโยวหลานที่อยู่ด้านข้างพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน ตบหน้าพวกเขาคนละทีโดยตรง
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ…
เฉิงผิงและคนอื่นโดนตบจนมึนไปแล้ว
ซูเหยียนก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน
"ต่อไปถ้าฉันได้ยินพวกคุณดูหมิ่นหลินหยางอีก งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!" เซี่ยโยวหลานตะคอกเสียงดัง
คนทั้งกลุ่มอ้าปาก แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดอะไร
โดยเฉพาะคุณนายจางโกรธจนตัวสั่น แต่เธอก็ทำอะไรเซี่ยโยวหลานไม่ได้
"เอาล่ะ เอาล่ะ เปิดงานเถอะ!"
ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
ทุกคนจึงพากันแยกย้าย
ทุกคนนั่งลงบนโต๊ะจัดเลี้ยง งานเลี้ยงเริ่มต้นทันที
แต่ในเวลานี้คงไม่มีใครมีกะจิตกะใจมาดื่มมากินแล้ว
ครอบครัวของซูเหยียนก็ตั้งใจจะออกจากที่นี่
แต่แล้วในตอนนั้นเอง จางฮั่วเกอรับโทรศัพท์อย่างกะทันหัน หลังจากนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
"พ่อ แย่แล้ว!"
"มีอะไร?" จางจงหัวที่กำลังดื่มเหล้ารู้สึกอึ้ง
"หร่านจ้ายเซียนเกิดเรื่องแล้ว!"
"อะไรนะ?"
สีหน้าของจางจงหัวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เซี่ยโยวหลานพี่กำลังดื่มเหล้ากับซูเหยียนและหลินหยางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
เซี่ยโยวหลานกวาดสายตามองโทรศัพท์ของตัวเอง สีหน้าซีดขาวทันที
"โยวหลาน เป็นอะไร?"
หลินหยางขมวดคิ้วถาม
"เกิดเรื่องกับหร่านจ้ายเซียน ดูเหมือนอารมณ์ของเขาจะพลุ่งพล่านมากเกินไปจนหมดสติ การล้มป่วยของเขาสั่นคลอนไปถึงคนที่อยู่ในเยี้ยนจิน…" เซี่ยโยวหลานพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"หมายความว่ายังไง?" หลินหยางขมวดคิ้ว
"ตระกูลเซี่ยของเราโดนแจ้งเตือน!"
เซี่ยโยวหลานลุกขึ้นอย่างกะทันหัน พูดด้วยความเร่งรีบ "หลินหยาง รีบพาพวกซูเหยียนออกจากมณฑลกวงหลิว ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตระกูลเซี่ยของเราออกหน้ากดดันพวกตระกูลไคไม่ได้แล้ว พวกเขาจะต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน! ถ้าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ฉันว่าพวกเขาจะต้องกลับมาแน่นอน รีบไปเร็วเข้า!"
"ตอนที่หร่านจ้ายเซียนไปยังดีอยู่เลย ไม่เห็นเหมือนคนที่ความดันจะขึ้นสูง"
"น่าจะเป็นเพราะหร่านจ้ายเซียนแกล้งหมดสติมากกว่า หลังจากนั้นให้ทางตระกูลไคบอกเรื่องนี้ให้กับคนที่อยู่ทางเยี้ยนจินเพื่อจำกัดตระกูลเซี่ย หลินหยาง เรื่องนี้มันเกินกว่าขอบเขตที่ฉันสามารถควบคุมได้แล้ว! พวกคุณรีบไปเถอะ!" เซ๊่ยโยวหลานพูดด้วยความร้อนรน
หลินหยางหลับตาทั้งคู่ลงไม่พูดอะไร
ในตอนนั้นเองมีโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยโยวหลานรู้สึกอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นกดรับสาย
ผ่านไปสักพัก ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เผลอพูดออกมาเสียงดัง
"นี่มัน…เรื่องจริงเหรอ?"
เซี่ยโยวหลานทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ท่าทางของเธอดูไร้เรี่ยวแรงเหมือนกับคนไม่มีกระดูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...