“เจ้าคฤหาสน์ ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูลจวงของเรา…จะต้องเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่แน่นอน!” จวงไท่ผิงที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะพูด
“สูญเสียครั้งใหญ่แล้วยังไง? มันก็ดีกว่าตระกูลจวงล่มสลายไปทั้งตระกูลไม่ใช่เหรอ? วันนี้ตระกูลจวงใช้วิชาลับและสี่ราชากระบี่ทำลายร่างดวงดาวโดยกำเนิดของหมอเทวดาหลิน ถึงแม้หลังจากที่ถูกทำลาย เขายังสามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ทีหลัง แต่ทุกครั้งที่ใช้ก็จะเผาผลาญพลังจำนวนมากเช่นกัน ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาสามารถอยู่ยงคงกระพันตลอดภายใต้การโจมตีของคนนับพันนับหมื่น! ยังไงเขาก็ต้องมีช่วงที่หมดแรง ถึงเวลานั้นก็คือโอกาสที่พวกเราจะโต้ตอบกลับ!” จวงปู้ฝานพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
สายตาของจวงไท่ชิงดูซับซ้อน ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดีเหมือนกัน
สี่ราชากระบี่ตาย ทำให้ยอดฝีมือของตระกูลจวงอกสั่นผวา
พวกเขาไม่กล้าก้าวเข้าไปในหมอกพิษ ทำได้แต่ใช้ปราณกระบี่จู่โจมเพื่อก่อกวนในระยะห่าง
การโจมตีแบบนี้ไม่สามารถทำอะไรหลินหยาง
ในบรรดาแปดราชันกระบี่มีสองคนที่ทนดูไม่ได้แล้ว ตะคอกเสียงดังโดยตรง หลังจากนั้นพุ่งเข้าไปในหมอกพิษ เริ่มต่อสู้กับหลินหยาง
แต่เพียงแค่สองกระบวนท่า ราชันกระบี่ทั้งสองคนโดยหลินหยางเด็ดหัวล้มตายอยู่ในหมอกพิษ
“หา?”
คราวนี้ทุกคนกลัวกันหมดแล้ว
รวมไปถึงคนของคฤหาสน์กระบี่โลหิตทุกคน!
“บุกเข้าไป บุกเข้าไปต่อสิ! พวกคุณทำอะไรของพวกคุณ? รีบบุกเข้าไปเดี๋ยวนี้!” จวงปู้ฝานตะคอกอย่างต่อเนื่อง
แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ยอมให้ความร่วมมือเท่านั้น
แต่หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในหมอกพิษได้ไม่นาน แต่ละคนเริ่มล้มลงบนพื้น
หมอกพิษเปรียบเสมือนเครื่องบดเนื้อขนาดใหญ่ ไม่ว่าเข้าไปกี่คนก็ไม่มีประโยชน์
เพราะเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าไปรนหาที่ตายอีก!
หลินหยางก้าวออกไปข้างหน้า เดินไปทางจวงปู้ฝาน
ในแววตาของจวนปู้ฝานเต็มไปด้วยความเย็นชา สีหน้าดูกังวลมาก
“พวกคุณจะยืนอยู่ตรงนี้ทำไม? เจ้าคฤหาสน์บอกให้เข้าไปไง! พวกคุณยังไม่รีบลงมืออีก?” จวงไท่ผิงตะคอก
“ไม่ ผม…”
“ผมไม่ไป!”
“นี่มันไม่ต่างอะไรกับการไปรนหาที่ตาย!”
“สี่กระบี่ราชาศักดิ์สิทธิ์ตายหมดแล้ว! พวกเราเข้าไปก็เท่ากับไปหาที่ตายไม่ใช่เหรอ?”
“เอาเป็นว่าผมไม่ไป!”
“ผมก็ไม่ไป!”
ทุกคนตัวสั่น ตะโกนเสียงดังไม่หยุด
ถึงแม้คนส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลจวงโดยสายเลือด แต่ให้ไปรนหาที่ตายแบบนี้ พวกเขาก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน!
สีหน้าของจวงปู้ฝานเย็นชาลง กําหมัดแน่น “พวกคุณใจกล้ามาก ถึงขั้นกล้าขัดคำสั่งของหัวหน้าตระกูลเหรอ? รนหาที่ตายหรือยังไง?”
“หัวหน้าตระกูล พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ถ้าหากเข้าไปสู้กับเขาทั้งแบบนี้ แบบนั้นถึงจะเรียกว่ารนหาที่ตาย…”
“หัวหน้าตระกูลโปรดให้อภัย!”
ทุกคนเริ่มทยอยกันพูด
จวงปู้ฝานเห็นสถานการณ์ รู้สึกโมโหอย่างมาก
“พี่รอง อย่าทำอะไรวู่วาม! เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ คุณจะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ เพราะยังไงการที่ยอดฝีมือตายลงทีละคนแบบนี้ มันยิ่งทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ! ถ้าหากคุณต้องการไอ้พวกเขายอมทำเพื่อคุณด้วยความเต็มใจ คุณจำเป็นต้องเป็นแบบอย่างของพวกเขา!” จวงไท่ผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
“ความหมายของคุณคือ ให้ผมเข้าไปตอนนี้?”
“ให้ทูตกระบี่โลหิตเข้าไปก่อน หลังจากการต่อสู้ของทูตกระบี่โลหิตสิ้นสุดลง รีบเคลื่อนย้อยกองกำลังทั้งหมดปิดล้อมหมอเทวดาหลิน! ถึงเวลาทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย!” จวงไท่ผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
“คุณพูดถูก! งั้นดี ทูตกระบี่โลหิต ถึงเวลาของคุณแล้ว!” จวงปู้ฝานตะคอก
“ครับ เจ้านาย!”
ผู้ชายในชุดเกราะสีแดงและถือกระบี่สีแดงเดินออกมาข้างหน้า
นี่คือทูตกระบี่โลหิตที่จวงปู้ฝานปลูกฝังมาอย่างดี
เขาไม่ใช่คนของตระกูลจวง แต่ตระกูลจวงยอมทุ่มกำลังทรัพย์จำนวนมากไปที่ตัวของเขา ทำให้เขาแข็งแกร่งและมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา
กระบี่ที่อยู่ในมือของเขาไม่ใช่กระบี่เรียวยาวเหมือนคนทั่วไป แต่เป็นกระบี่ใหญ่ที่มีขนาดกว้างสองฝ่ามือ ลำกระบี่เป็นสีแดงทั้งหมด เพียงแค่เหวี่ยงกระบี่ สายลมกระโชก ค่อนข้างน่าตกใจ
“พูดกระบี่โลหิตลงมือแล้ว!”
ตระกูลจวงมองด้วยความตื่นเต้น
หลินหยางที่เดินเข้ามาก็หยุดชะงัก หันไปมองคนคนนั้น
กลับเห็นพูดกระบี่โลหิตกำลังจ้องหลินหยางด้วยสายตาที่เย็นชา ส่งเสียงคำรามอย่างกะทันหัน สองมือจับด้ามกระบี่ ฟาดฟันลงกลางอากาศตรงหน้า!
ฟู่!!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...