หลินหยางอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “หลินจือโลหิตมีส่วนช่วยเพิ่มพูนกำลังของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้มากจริง มันไม่เพียงแต่เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง แต่ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทในสมอง ทำให้ผู้ฝึกฝนฝ่าทะลวงได้ง่ายขึ้น! ถึงขั้นสามารถช่วยเพิ่มพรสวรรค์ให้กับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วย! ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่เด็กน้อย”
“หมอเทวดาหลิน คุณก็เป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์! คุณน่าจะรู้ดีที่สุด! คนพวกนี้ก็เหมือนกับระเบิดเวลา มีแต่คนที่สามารถรับมือผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์ด้วยกัน! ดังนั้นจึงอยากรบกวนหมอเทวดาหลินไปช่วยขจัดภัยพิบัติของลัทธิโลหิตมาร เพื่อเป็นการตอบแทน พวกเราไม่เพียงแต่จะมอบหลินจือโลหิตให้คุณ ยิ่งไปกว่านั้นยังจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้คุณอีกด้วย ส่วนเรื่องสำนักหงเหยียน พวกเราจะยืนข้างคุณแน่นอน!” เสว่เซียวพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
หลินหยางครุ่นคิดอีกครั้ง ผ่านไปสักพัก เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ออกเดินทางเมื่อไหร่?”
“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”
“งั้นก็พรุ่งนี้แล้วกัน ตอนนี้ผมจะกลับเจียงเฉินก่อน พรุ่งนี้คุณส่งคนไปรับผม”
“ได้ ได้! หมอเทวดาหลิน ขอบคุณ”
เสว่เซียวพูดด้วยความซาบซึ้ง รีบหยิบนำบัตรแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋า
“หมอเทวดาหลิน นี่เป็นช่องทางการติดต่อของผม ถ้าหากมีคำถามอะไร สามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อ”
“หลินหยางรับมาดู”
“ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทกำจัดวัชพืชเจิ้งเหอ?”
“เป็นแค่สถานะที่ใช้ปกปิดคนภายนอก”
“ผมรู้ เจอกันพรุ่งนี้”
หลินหยางโบกมือ หันหลังแล้วเดินจากไป
“น้อมส่งหมอเทวดาหลิน!”
เสว่เซียวรีบโค้งคำนับอย่างยิ้มแย้ม ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
อันที่จริงหลินหยางก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับลัทธิโลหิตมาร
ถึงเป็นหลินจือโลหิตเขาก็ไม่สนใจ
แต่เขาไม่มีทางเลือก
ภัยคุกคามจากสำนักหงเหยียนใกล้เข้ามาทุกวัน เมื่อไหร่ที่เจ้าสำนักหงเหยียนเข้าสู่มรรคได้สำเร็จ จะต้องมาคิดบัญชีกับเขาแน่นอน
ถ้าหากมีความขัดแย้งขึ้นกับลัทธิโลหิตมาในเวลาแบบนี้ หลินหยางไม่ได้กลัว เพียงแค่เป็นห่วงว่าคนรอบข้างจะได้รับผลกระทบไปด้วย
“ท้ายที่สุดก็เป็นเพราะผมยังแข็งแรงไม่พอ ดูเหมือน…จำเป็นต้องใช้วิธีแบบนั้นแล้ว” หลินหยางพูดพึมพำ
กลับถึงเจียงเฉิน หลินหยางรีบไปหาหม่าไห่ ถามสถานการณ์ของเฟิงซิงหยูและคนอื่น
แต่คำตอบที่ได้กลับไร้วี่แวว
ตามหลัก นี่ก็น่าจะได้เวลาพอสมควรแล้ว
หรือว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้น?
สีหน้าของหลินหยางเคร่งขรึมลง
ครั้งนี้พวกเขาเดินทางไปหากู่ฉินหนี่ก็เพื่อผลดาราสวรรค์ ส่วนสำนักหงเหยียนก็ต้องการของสิ่งนี้
หรือว่า…พวกเขาเจอเข้ากับคนของสำนักหงเหยียน?
หลินหยางรู้สึกเป็นห่วง เขาจึงสั่งให้คนรีบไปตรวจสอบ
แน่นอน หลินหยางก็ไม่ได้อยู่เฉย
ตอนนี้ได้ลูกกลอนอีกาทองคำมาแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้ลูกกลอนอีกาทองคำเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองให้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นเมื่อไหร่ที่กองกำลังของสำนักหงเหยียนมาถึง หลินหยางจะไม่สามารถรับมือ
ภายในห้องทำงาน หลินหยางสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบตำราโบราณเล่มหนึ่งออกมา เริ่มเปิดดูเนื้อหาที่อยู่ด้านใน ผ่านไปสักพัก
“หม่าไห่!”
“ประธานหลิน!”
หม่าไห่รีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“รีบสั่งให้คนไปรวบรวมวัตถุดิบพวกนี้ในเวลาหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าต้องใช้เงินหรือคนมากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร!”
หลินหยางเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะ หยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาเขียนชื่อวัตถุดิบที่ต้องการ หลังจากนั้นยื่นไปให้หม่าไห่
หม่าไห่รับมาอ่านดูสักพัก หลังจากนั้นรีบวิ่งออกไปทันที
หลินหยางออกจากบริษัทอย่างเร่งรีบ ตรงไปทางเขตชานเมืองของเจียงเฉิน
ที่เขตชานเมืองมีโรงงานเลิกใช้งานแล้วแห่งหนึ่ง
เมื่อหนึ่งวันก่อน หม่าไห่สั่งให้คนไปเช่าโรงงานแห่งนี้ และจัดการทุกอย่างตามที่หลินหยางต้องการ
พวกเศษขยะในโรงงานถูกทำความสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว ในขณะเดียวกัน มีเตาหลอมขนาดใหญ่ถูกตั้งอยู่ใจกลางโรงงาน ส่วนด้านล่างของเตาหลอม เป็นเครื่องจักรเชื้อเพลิงที่โรงงานใช้กันทั่วไป
หลินหยางเดินเข้าไปด้านใน หยิบสมุนไพรที่เตรียมเอาไว้ออกมา เปิดฝาเตา เริ่มทำการปรุงซุป
ยาวิเศษอย่างลูกกลอนอีกาทองคำ เมื่อไหร่ที่ผสมเข้ากับวัตถุดิบอย่างอื่น มันจะยิ่งช่วยกระตุ้นฤทธิ์ของมันได้มากขึ้น
คนธรรมดาทั่วไป เมื่อไหร่ที่ได้ดื่มจะต้องหายจากโรคภัยร้อยโรคอย่างไม่มีข้อสงสัย
หลังจากผสมวัตถุดิบทุกอย่างเข้าด้วยกัน หลินหยางเริ่มเปิดเครื่องจักรทำความร้อนโดยตรง
กูกูกู…
น้ำซุปสมุนไพรที่อยู่ในเตาเดือดจนมีฟองจำนวนมากเด้งขึ้นเด้งลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...