ทุกคนพากันตะโกนด้วยความโกรธ ผู้ชายบางคนที่ดื่มจนเริ่มเมาถึงขั้นพูดจาด่าทอโดยตรง แต่ละคนตะโกนจนเสียงแหบแห้ง
ครั้งนี้ ชวี่ชวงซวนก็ไม่ได้พูดอะไรแล้ว
เห็นได้ชัด เธอเริ่มเชื่อการคาดเดาของคนพวกนี้
เธอเป็นคนเกลียดคนโกหกมากที่สุด
ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไร
บนใบหน้าของฟู่หวู่ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา ดวงตาทั้งคู่ของเขาหรี่ลง
นี่แหละคือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ ถึงแม้คนคนนี้จะไม่ได้มายุ่งกับเขาโดยตรง แต่เรื่องเมื่อกี้มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายอารมณ์มาก ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายอารมณ์ เขาจะไม่ยอมปล่อยไปอย่างง่ายดายเด็ดขาด
ผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันพูดจาด่าทอไม่หยุดปาก เพื่อนร่วมชั้นกลุ่มนี้รวมใจเป็นหนึ่งเดียวอย่างน่าประหลาด
ภายในใจของหลินหยางเริ่มรู้สึกโกรธแล้ว
แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมา บนใบหน้าก็มองไม่เห็นอารมณ์ของความโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง "ได้! ได้! ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นผมขอตัวก่อน หวังว่าทุกคนคงจะไม่เสียใจทีหลัง!"
"เสียใจ? เสียใจทำไม? รีบไสหัวไปได้แล้ว! ทำไมถึงพูดมากขนาดนี้?"
"คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"
"ไสหัวไป!"
พวกชายร่างอ้วนพูดจาด่าทออย่างไม่สบอารมณ์
หลินหยางหันหลังแล้วเดินออกจากประตูโดยไม่พูดอะไร
"ดี!"
"ฮ่าฮ่า ในที่สุดไอ้ตัวก่อกวนก็ไปสักที!"
มีผู้คนมากมายพากันพูดขึ้น บางคนถึงขั้นปรบมือราวกับเมื่อกี้เพิ่งชนะสงคราม
ฟู่หวู่และคนอื่นเริ่มพากันหัวเราะ
ชวี่ชวงซวนไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเธอก็ยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม
"พี่หวู่ พวกเราไล่หมอนี่ไป อีกเดี๋ยวถ้าเกิดลุงเทียนมา พวกเราจะอธิบายกับลุงเทียนยังไง?" ชายร่างอ้วนที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาใกล้แล้วถามเสียงเบา
"ควรจะอธิบายยังไงก็อธิบายแบบนั้นไป หมอนี่มาพูดจาเหลวไหลที่นี่ พวกเราไม่กระทืบมันก็ถือว่าบุญมากแล้ว ก็แค่คนหลอกลวงคนเดียวจะกลัวอะไร อีกอย่างพวกเราจะได้บอกธาตุแท้ของหมอนี่ให้ลุงเทียนฟังด้วย!" ฟู่หวู่ส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชา
"ได้!"
คนกลุ่มนั้นพากันพยักหน้า
"ชวงซวน คุณไม่ต้องเป็นห่วง อีกเดี๋ยวผมจะคุยกับลุงสองของคุณเอง มา พวกเรามาดื่มกันต่อ อีกเดี๋ยวพวกเราไปร้องเพลงต่อที่จินซื่อหยวนKTV ผมจะเป็นคนจ่ายเอง!" ฟู่หวู่พูดอย่างใจกว้าง
"ดี!"
"พี่หวู่จงเจริญ!"
เพื่อนร่วมชั้นพากันส่งเสียงร้องโห่
ชวี่ชวงซวนลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายก็เลือกที่จะทำให้ไม่เสียบรรยากาศ เธอยกแก้วไวน์ขึ้น หลังจากนั้นเทของเหลวเข้าไปในปาก
ไปแล้วหลังจากที่เพิ่งดื่มไปได้เพียงครึ่งเดียว ร่างกายของชวี่ชวงซวนสั่นสะท้านอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นหอบหายใจอย่างรุนแรง ภาพที่อยู่ตรงหน้าวูบดับล้มลงไปนอนกองกับพื้นโดยไม่ได้สติ
"ชวงซวน!"
"ชวงซวน! คุณเป็นอะไร?"
"รีบเรียกรถฉุกเฉินเร็วเข้า!"
ทุกคนมองตาค้าง เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนร่วมชั้นเริ่มกระวนกระวาย ภายในงานเลี้ยงวุ่นวายไปหมด
ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อย่างกะทันหัน
ฟู่หวู่และคนอื่นตกใจจนหน้าซีดขาว
"หรือว่าที่หมอนั่นพูดเป็นเรื่องจริง?" มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งพูดพึมพำ
"มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่จริง!" ฟู่หวู่กัดฟันแน่น
ผ่านไปสักพัก มีรถฉุกเฉินคันหนึ่งขับตรงเข้ามาในมหาลัย หลังจากนั้นหามชวี่ชวงซวนที่กำลังหมดสติขึ้นรถ
ผู้คนทั้งมหาลัยตกตะลึง
ส่วนหลินหยางยืนอยู่หน้ามหาลัยมองดูเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ
เขาส่ายหัวแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา ทันใดนั้นเขาขมวดคิ้วแน่นทันที
"นี่มันก็สามทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่เจอชวี่เทียน? เขาไปไหนแล้ว?"
หลินหยางลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาชวี่เทียน
然而打了几遍都没有打通。
แต่แล้วหลังจากที่ลองโทรดูหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย
หลินหยางรู้สึกถึงความผิดปกติทันที
โดยทั่วไปแล้วถ้าหากเขาเป็นคนโทรไป ไม่ว่าจะกำลังทำอะไรอยู่ชวี่เทียนก็จะรับสาย แต่ทำไมตอนนี้ถึงติดต่อไม่ได้และไม่ยอมรับสาย?
ต้องเกิดเรื่องแน่นอน
หลินหยางเริ่มรู้สึกไม่ดี ในขณะที่กำลังจะโทรหาหม่าไห่
ตุ๊ดๆ
ในตอนนั้นเอง หน้าจอโทรศัพท์ของเขาสว่างขึ้นอีกครั้ง
บนหน้าจอแสดงชื่อของชวี่เทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...