“ก็แค่มดสองตัว! กล้าท้าทายฉันเหรอ? ฆ่าพวกคุณก่อนหน้านี้มันยังไม่พอใช่หรือเปล่า?” เจ้าสำนักหงเหยียนตะคอกด้วยความโกรธ ซัดฝ่ามือทั้งสองออกไปพร้อมกัน
ส่วนคนทั้งสองก็ซัดฝ่ามือออกไปอย่างเต็มกำลังเช่นกัน
ปัง! ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้น
พลังฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวทำให้เพดานในห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือน กำแพงเกิดรอยแตกร้าว ผู้คนที่ยืนอยู่ในห้องโถงเซจนล้มลงพื้น
เจ้าสำนักหงเหยียนถอยหลังไปสามก้าว
ส่วนทางด้านของหยุนซิงและเฉาซงหยางล้มลงบนพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน แขนของคนทั้งสองหักโดยตรง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่รู้จักเจียมตัว!” เจ้าสำนักหงเหยียนหัวเราะ
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของหยางหัวก็คือหยุนซิงและเฉาซงหยาง ส่วนหลินหยางเธอก็ไม่ได้กลัว เพราะก่อนหน้านี้หลินหยางได้รับบาดเจ็บสาหัส! แม้หลินหยางมีวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศเพียงใด ก็ไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติในเวลาอันสั้น!
เธอเชื่อว่าหลินหยางในตอนนี้ไม่มีพลังการต่อสู้มากเท่าไหร่! ไม่เช่นนั้น หลินหยางคงลงมือเองตั้งนานแล้ว
ตอนนี้ ขอเพียงเธอสามารถฆ่าหยุนซิงและเฉาซงหยาง ทุกอย่างมันก็จะจบ
เจ้าสำนักหงเหยียนหรี่ตาลง เดินตรงเข้ามาทีละก้าว
จิตสังหารท่วมท้น
แต่ในตอนนั้นเอง หยุนซิงและเฉาซงหยางลุกขึ้นอย่างกะทันหัน
ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว…
จากนั้นมีเข็มเงินบินเข้าไปปักลงบนจุดชีพจรแขนของคนทั้งสองอย่างแม่นยำ
ทันใดนั้น กระดูกที่หักไปแล้วเริ่มฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
เจ้าสำนักหงเหยียนอึ้ง
“เป็นไปไม่ได้…”
ทุกอย่างมีกระบวนการทำงานของมัน
การรักษาเช่นนี้
ต้องยอมรับว่าทักษะการแพทย์ของหลินหยางไม่เป็นสองรองใครอีกแล้วในโลกใบนี้ แม้แต่เจ้าสำนักหงเหยียนก็รู้สึกนับถือ
แต่วิธีการรักษาที่เหนือธรรมชาติจนเกือบเข้าขั้นเซียนต่อกระดูกแบบนี้…เธอจะเชื่อได้อย่างไร?
รักษาแขนที่หักในเวลาเพียงไม่กี่วินาที?
ต้องบอกว่าเซียนลงมารักษาเองแล้วมั้ง?
เจ้าสำนักหงเหยียนยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
หลังจากหยุนซิงและเฉาซงหยางได้รับการรักษา พวกเขาพุ่งเข้าไปจู่โจมเจ้าสำนักหงเหยียนอีกครั้ง
คนทั้งสองไม่คิดจะป้องกัน รุกอย่างเดียวไม่รับ ราวกับเหมือนคนที่กำลังคลั่ง
คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา รัวฝ่ามือและหมัดเข้าไปหาเจ้าสำนักหงเหยียนอย่างต่อเนื่อง
พลังทั้งสงสัยดุดันราวกับสามารถทำลายกำแพงเหล็ก ทุกกระบวนท่าหวังเอาชีวิต
“รนหาที่ตาย! รนหาที่ตาย! รนหาที่ตาย!”
เจ้าสำนักหงเหยียนคำรามด้วยความโกรธ จากนั้นโต้ตอบกลับ ทุกการจู่โจมของเธอมีพลังมากพอที่จะทำลายทั้งภูเขา
เธอเคยได้รับการท้าทายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? จะยอมทนได้อย่างไร?
ปังปังปัง…
หลังจากปะทะเข้าหากันอีกครั้ง กระดูกแขนของคนทั้งสองแตกละเอียด
แต่พวกเขาก็อาศัยโอกาสนี้ใช้จู่โจมใส่ท้องของเจ้าสำนักหงเหยียนเช่นกัน
ปัง!
เจ้าสำนักหงเหยียนกระเด็นถอยหลังอีกครั้ง รอบนี้เธอเริ่มเซ เลือดลมภายในปั่นป่วน
“เจ้าสำนัก!”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ทุกคนรีบพุ่งเข้าไปประคอง
เจ้าสำนักหงเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ปรับเลือดลมในร่างกายให้สงบ ในแววตาเผยให้เห็นความสิ้นหวังสายหนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้น
กลับเห็นหลินหยางหยิบเข็มเงินออกมาเสียบลงบนร่างกายของคนทั้งสองอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน มีผงบางอย่างอยู่ในมือของเขา มันถูกโรยใส่เนื้อศีรษะของคนทั้งสอง
หลังจากนั้นเห็นของคนทั้งสองเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว บาดแผลที่อยู่ตามร่างกายก็เริ่มสมานกัน ผิวหนังถลอก มีผิวหนังผุดขึ้นใหม่ กระดูกแตกหัก ก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
“นี่…นี่มันวิชามารอะไรกันแน่?” เจ้าสำนักหงเหยียนเบิกตากว้างพูดพึมพำ
“นี่ไม่ใช่วิชามาร มันคือวิชาแพทย์!” หลินหยางพูด
“เป็น! ไป! ไม่! ได้!” เจ้าสำนักหงเหยียนคำราม “วิชาแพทย์ไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้! ! เรื่องแบบนี้มีแต่เซียนเท่านั้นที่สามารถทำได้! คุณไม่ใช่เซียน! ดังนั้น เป็น! ไป! ไม่! ได้!”
จิตใจของเธอเริ่มจะไม่มั่นคง
วิชาแพทย์ของหลินหยางอยู่เหนือความเข้าใจของเธอ! และนำเข้าสู่ขอบเขตวิชาต้องห้ามของเซียน
ถ้าหากหมอคนหนึ่งมีความสามารถถึงขนาดนี้ แล้ววิถี ‘เซียน’ ที่เธอพยายามบำเพ็ญมาโดยตลอด มันจะมีความหมายอะไร?
ทว่าสีหน้าของหลินหยางดูเฉยเมย พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “เห็นผงพวกนี้หรือเปล่า? นั่นแหละ…คือความลับ!”
“มันคือ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...