สีหน้าของอาวุโสห้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลังเลสักพักแล้วเอ่ยปากพูด “ฉันเห็นว่าร่างกายของคุณอ่อนแอ ไม่กล้าใช้ยาที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป! ทำไม? หลินหยาง คุณกำลังสงสัยทักษะการแพทย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรเหรอ?”
“หลินหยางไม่กล้า” หลินหยางรีบพูด
แต่เขาไม่ใช่คนโง่
ร่างกายของหลินหยางในตอนนี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่เป็นเพราะผลจากการใช้ลูกกลอนซวนเทียนที่ไปกระตุ้นพิษเป็นในร่างกายจนกำเริบ ถ้าหากไม่ใช้ยาที่มีฤทธิ์รุนแรง จะระงับอาการได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าอาวุโสห้ากำลังโกหก
แต่หลินหยางจะพูดตรงไปตรงมาก็ไม่ดี
อาวุโสห้าทำการรักษาจนเสร็จ จากนั้นลุกขึ้นเตรียมตัวจากไป
“อาวุโส ล้างพิษครั้งต่อไปคือเมื่อไหร่?” หลินหยางเอ่ยปากถาม
อาวุโสห้าหยุดชะงัก พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “รอฉันแจ้งมาอีกที!”
พูดจบ เธอเดินออกจากบ้านโดยไม่หันกลับมามอง
“น้อมส่งอาวุโสห้า!”
ชิวซ่านรีบยกมือขึ้นคำนำ
หลินหยางเงียบไม่พูดอะไร
หลังจากอาวุโสห้าจากไป ชิวซ่านหันกลับมา “พี่หลิน ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง? ดีขึ้นหรือเปล่า?”
“พิษเป็นถูกระงับแล้ว แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ครั้งนี้ไม่มีสรรพคุณล้างพิษเลย” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
“พิษที่รุนแรงขนาดนี้ มันต้องค่อยเป็นค่อยไปอยู่แล้ว” ชิวซ่านยิ้มแล้วพูด
“ตอนนี้พิษเป็นกำลังทำงาน เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดในการกำจัดพิษ ไม่อย่างนั้นผมก็คงไม่เชิญอาวุโสห้ามา แต่เธอมาแค่ช่วยระงับพิษ กลับไม่คิดจะขับพิษในร่างกาย…ผมเป็นห่วง อาวุโสห้าไม่อยากรักษาให้ผม” หลินหยางเงียบไปสักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“เป็นไปได้ยังไง? อาวุโสห้าสาบานต่อทุกคนแล้วว่าจะรักษาคุณให้หาย” ชิวซ่านพูดด้วยความเหลือเชื่อ
“บางทีคนที่ไม่อยากรักษาผมไม่ใช่อาวุโสห้า แต่เป็นคนที่อยู่เบื้องบนของเธอ” หลินหยางพูดเสียงแหบ
คำพูดประโยคนี้ทำให้ชิวซ่านสะดุ้ง ผ่านไปสักพัก เธอพูดพึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ “เพราะอะไร?”
“เหตุผลนั้นง่ายมาก การรักษาผมต้องแลกกับวัตถุดิบที่มีราคาสูงเสียดฟ้า การกำจัดพิษเป็นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้เป็นสำนักสวรรค์นิรันดร ก็จำเป็นต้องเผาผลาญวัตถุดิบสมุนไพรที่มีค่าไม่น้อย แม้ว่าวัตถุดิบพวกนี้เทียบกับเลือดวิญญาณลั่วหลินไม่ได้ แต่ตอนนี้เลือดวิญญาณลั่วหลินอยู่ในมือของสำนักสวรรค์นิรันดรแล้ว พวกเขาได้สิ่งที่ต้องการ ย่อมไม่อยากรักษาเป็นเรื่องปกติ! เพราะยังไงผมก็ไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไร ถึงไม่รักษาผม ก็ไม่มีผลที่ร้ายแรงตามมาทีหลัง อย่างมากก็มีเพียงคนไม่กี่คนที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” หลินหยางพูดเสียงแหบ
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” ชิวซ่านยอมรับไม่ได้
“คนเราเมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีทางเลือกก็ต้องก้มหัว ผมเองก็หมดหนทางแล้วเหมือนกัน ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะพิษเป็นในร่างกายได้แพร่กระจายไปทั่วร่าง ผมก็คงไม่มีทางมอบเลือดวิญญาณลั่วหลินให้สำนักสวรรค์นิรันดรก่อน ถ้าหากพวกเขาคิดจะบ่ายเบี่ยงตอนนี้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้” หลินหยางส่ายหัวพลางถอนหายใจ
“พี่หลิน คิดบวกเข้าไว้ดีกว่า บางที…อาวุโสห้าอาจจะไม่ได้มีความหมายแบบนั้นก็ได้” ชิวซ่านก็ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรดี ครุ่นคิดสักพักแล้วปลอบใจ
“ก็ขอให้มันเป็นอย่างที่คุณพูด” หลินหยางพูดเสียงแหบ
ชิวซ่านไม่พูดอะไรอีก
หลินหยางนั่งลงบนเตียง จากนั้นฝังเข็มให้ตนเองต่อ
ชิวซ่านที่ไม่มีอะไรทำ ก็เริ่มหยิบตำราการแพทย์ขึ้นมาอ่าน
“ใช่แล้ว พี่หลิน มีเรื่องหนึ่งที่ฉันลืมบอกคุณ? ช่วงนี้ถ้าหากไม่มีธุระอะไรก็อย่าเดินออกจากสำนัก ได้ยินมาว่านอกสำนักไม่ค่อยสงบ” ในตอนนั้นเอง ชิวซ่านเงยหน้าขึ้นพูด
“ไม่สงบยังไง?” หลินหยางถามอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน ฉันแค่เผลอได้ยินตอนที่พวกศิษย์พี่กำลังคุยกัน ได้ยินมาว่าช่วงนี้อาจจะปิดสำนัก”
“หืม?”
หลินหยางขมวดคิ้ว ครุ่นคิดสักพัก เอ่ยปากพูด “ชิวซ่าน คุณช่วยอะไรผมอยากได้หรือเปล่า?”
“อะไร?”
“ผมได้ยินมาว่าอาวุโสใหญ่ออกจากการเก็บตัวพรุ่งนี้ คุณช่วยแวะไปดูหน่อย”
“ดูอะไร?”
“ย่าเวิน”
หลินหยางพูด แต่กลับไม่ได้พูดเรื่องหลิวหรูซือ
อย่างไรก็ตาม การที่ย่าเวินแอบเก็บศพของหลิวหรูซือไว้เท่ากับผิดกฎของสำนัก คนที่รู้เรื่องนี้ยิ่งน้อยยิ่งดี
“ไม่มีปัญหา”
ชิวซ่านพยักหน้า
หลินหยางถอนหายใจ หลับตาพักผ่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...