"ฮึ่ม ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ งั้นดี ผมจะเดินเข้าไปให้คุณดูเดี๋ยวนี้!" ฟางซื่อหมิงโดนกระตุ้นกลัวจนหัวเราะ
ผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันหัวเราะเยาะ
หลินหยางไม่ได้พูดอะไร
ฟางซื่อหมิงเดินเข้าไปในประตูพร้อมกับกระเป๋าเอกสารของตัวเองโดยตรง
แต่ทันทีที่ฟางซื่อหมิงก้าวเข้าไปในประตู…
หึ่งหึ่ง! หึ่งหึ่งหึ่ง…
เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นที่เอวของฟางซื่อหมิง
โทรศัพท์มา?
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึง!
"ทนายฟาง!" คนที่อยู่ด้านหลังพูดเตือนด้วยความระมัดระวัง
สีหน้าของฟางซื่อหมิงก็ดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ เขาหันไปมองทางหลินหยางแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ "ไม่รับ ตอนนี้ผมไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น! ไปสู้คดีเสร็จแล้วค่อยว่ากัน!"
พูดจบ เขาเดินเข้าไปข้างในโดยตรง
ในที่สุดหัวใจของจางชิงเหิงและคนอื่นก็รู้สึกโล่งอก
แต่ทันทีที่ฟางซื่อหมิงก้าวเท้าต่อ มีเสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้นจากด้านหลัง
"ซื่อหมิง! หยุดอยู่ตรงนั้น!"
ทันทีที่ได้ยินเสียง ร่างกายของฟางซื่อหมิงสั่นสะท้าน เขาหันไปมองอย่างกะทันหัน กลับพบชายชราคนหนึ่งกำลังก้าวลงมาจากรถ และกำลังเดินตรงเข้ามาด้วยความโกรธ
ฟางซื่อหมิงรู้สึกอึ้ง พูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
"พ่อ!"
"อะไรนะ?"
ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าประตูใหญ่มองตาค้าง…
ร่างกายของฟางซื่อหมิงสั่นสะท้าน สีหน้าดูคล่ำม่วงแล้วหวาดกลัว รีบก้มหน้าลงทันที
ท่าทางของเขา…เหมือนกับเด็กที่ไปทำอะไรผิดมา
ผู้มาเป็นชายชราที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว
ท่าทางของเขาดูสุขุม แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ เดินตรงเข้ามาพร้อมกับจ้องฟางซื่อหมิงไม่กระพริบตา
ตอนที่เดินมาถึงตรงหน้าของฟางซื่อหมิง เขาตะคอก "เงยหน้าขึ้น"
ฟางซื่อหมิงเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ไม่มีท่าทีของทนายชื่อดังระดับประเทศหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
เพี๊ยะ!
ฝ่าเหวี่ยงถูกเหวี่ยงเข้าหาใบหน้าของฟางซื่อหมิงอย่างแรง
ฟางซื่อหมิงโดนตบจนถอยหลังไปหลายก้าว กุมใบหน้าของตัวเอง แก้มข้างซ้ายมีฝ่ามือสีแดงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
"หา?"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบมองตาค้างแล้ว
นักข่าวก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่ละคนถือกล้องและไมโครโฟนจ่อไปทางภาพที่น่าตกตะลึง
หลินหยางยืนดูอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไร
เขารู้อยู่แล้วว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เพราะชราคนนี้คือฟางหง!
เป็นพ่อของฟางซื่อหมิง!
ในตอนแรกที่เจอกับฟางหงเขารู้สึกคุ้นหน้าเล็กน้อย ต่อมาหลังจากที่เดินออกจากบ้านพักคนชรา เขานึกขึ้นได้อย่างกะทันหัน ดูเหมือนฟางหงคนนี้จะเดินทางมาจากเยี้ยนจิน ลองคิดดูอย่างละเอียด การมาของฟางซื่อหมิงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ดังนั้นจึงสามารถอธิบายทุกอย่างได้แล้ว
ฟางซื่อหมิงเคารพนับถือพ่อของตัวเองมาก และฟางหงก็เข้มงวดต่อลูกชายคนนี้มาก ถ้าหากฟางหงออกหน้า ฟางซื่อหมิงจะต้องถอนตัวแน่นอน
ดังนั้น หลินหยางจึงทำให้ฟางหงรู้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ฟางซื่อหมิงต้องการฟ้องร้องหยางหัวกรุ๊ปแทนลั่วเป่ยหมิง
หลังจากที่ฟางหงรู้ข่าว เขารู้สึกโกรธมาก รีบออกจากบ้านพักคนชราตรงมาที่นี่ทันที
"พ่อ พ่อ…พ่อไปหาลุงเจิ้งแล้วไม่ใช่เหรอ? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" ฟางซื่อหมิงไม่กล้าโกรธ ทำได้แต่ก้มหน้าถาม
"ถ้าหากฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ แกคงจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว! ฟังให้ดี แกรีบไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้ามายุ่งกับคดีนี้!" ฟางหงรู้สึกโกรธจนหน้าแดง
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ฟางซื่อหมิงหน้าซีดทันที เขามองไปทางหลินหยางแล้วกัดฟันพูด "พ่อ ผมเป็นทนายความ ในเมื่อผมรับคดีมาจากคนอื่นแล้ว ผมก็จำเป็นต้องทำหน้าที่และมีความรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ผมไปไม่ได้! นอกเสียจากคดีนี้จะสิ้นสุดลงแล้ว!"
"แก…แกกล้าไม่ฟังคำสั่งของฉันเหรอ?" ฟางหงโกรธจนตัวสั่น
"พ่อ ผมเชื่อฟังพ่อตั้งแต่เด็กจนโตมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ผมทำไม่ได้ ถ้าหากผมถอนตัวแบบนี้ ชื่อเสียงของผมฟางซื่อหมิงก็จะพังทลาย! ผมยังคู่ควรที่จะเป็นทนายความอีกเหรอ? ผมรู้ เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของหลินหยางแน่นอนที่ไปเชิญพ่อมา แต่ผมยังขอยืนกรานคำเดิม! ผมฟางซื่อหมิงไม่ไปไหนทั้งนั้น!" ฟางซื่อหมิงก้มหน้าพูดอย่างหนักแน่น
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยขัดคำสั่งของฟางหง แต่วันนี้ไม่ได้!
ถ้าหากเขาถอนตัวออกจากคดีครั้งนี้ เขายังจะอยู่ในวงการทนายความได้อีกเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...