แบ่งทรัพย์สิน?
นี่มันหมายความว่ายังไง?
นี่มันจางจงหัวต้องการคิดบัญชีกับคนพวกนี้!
ต้องบอกก่อน ปัจจุบันทรัพยากรส่วนใหญ่ของบ้านตระกูลจางล้วนแต่อยู่ในมือของจางจงหัว ถ้าหากจางจงหัวเห็นด้วยกับคำแนะนำของหลินหยาง ทรัพย์สินที่อยู่ในมือของคนตระกูลจางพวกนี้ก็จะลดน้อยลงอย่างกะทันหันทันที
ถึงเวลานั้น ตระกูลจางยังจะเรียกตระกูลจางได้อีกเหรอ?
พวกเขาจะกลายเป็นคนไม่เหลืออะไรเลย!
"พ่อ พ่อ…พ่อจะฟังคำพูดของหลินหยางไม่ได้นะ!" จางอ้ายฉีที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกรีบตะโกนขึ้นทันที
ส่วนคนอื่นก็รู้สึกตื่นตระหนกเหมือนกัน รีบก้าวออกมาข้างหน้า
"พ่อ พ่อต้องไต่ตรองให้ดีก่อน!"
"อยากฟังคำพูดของพวกเขาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตระกูลจางของเราต้องจบสิ้นแน่!"
"หลินหยางแกหุบปากไปเลย อย่ามาพูดจาไร้สาระที่นี่!"
"หลินหยาง คุณอยากทำให้ตระกูลจางของเราล่มจมหรือยังไง?"
จางคุนและคนอื่นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง มีทั้งพูดเกลี้ยกล่อมมีทั้งด่าทอ แม้แต่จางซงหงก็นั่งไม่ติดแล้ว
แต่แล้วผู้เฒ่าจางกลับส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชา "ทำไม? พวกแกยังรู้เหรอว่าฉันเป็นพ่อของพ่อแก? ฉันนึกว่าพวกแกจะเป็นพวกขี้อิจฉาที่ไม่มีพ่อแม่เสียอีก!"
ทุกคนรีบก้มหน้าลงไม่กล้าพูดอะไร ภายในใจรู้สึกผิดมาก
ส่วนคุณนายจางโกรธจนตัวสั่น
เธอรู้ดีว่าเป้าหมายของหลินหยางคืออะไร!
และเธอก็เข้าใจด้วยว่าตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับอะไร
แต่เธอไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก
"แบ่ง? ได้สิ! ใครจะกลัวใคร ทางที่ดีพวกเราหย่ากันด้วยเลยจะดีกว่า! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะได้เงินไปเท่าไหร่!" คุณนายจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน
ผ่านไปสักพัก มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าประตูบ้านตระกูลจาง หลังจากนั้นมีผู้ชายแต่งตัวดีถือกระเป๋าเอกสารเดินเข้ามาด้านใน
มีผู้คนไม่น้อยที่หันไปมอง และสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
"ชวี่จี?" ทางด้านของเหมยยี่อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว
"คุณเหมย สวัสดีครับ" ผู้ชายที่ชื่อชวี่จี้หันไปพยักหน้าให้กับเหมยยี่
"เขาเป็นใคร?" หลินหยางหันไปถามเสี้ยวฉางชิงที่อยู่ด้านข้าง
"ทนายอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิว!" เสี้ยวฉางชิง
"ฮืม?"
หลินหยางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
"ต้องการแบ่งทรัพย์สิน? ไม่มีปัญหา แต่ฉันจะเอาทรัพย์สินทั้งหมด70%ของตระกูลจาง ถ้าหากคุณไม่เห็นด้วย งั้นพวกเราก็ไปเจอกันในศาล! !" คุณนายจางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด
ความหมายของเธอมันชัดเจนมาก
ชวี่จี้เป็นถึงทนายอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิว ไม่ว่ายังไงกันแบ่งทรัพย์สินครั้งนี้ก็ต้องไปถึงศาลแน่นอน ส่วนคุณจางมีชวี่จี้คอยช่วย จางจงหัวไม่มีทางชนะคดีความ ด้วยความสามารถของชวี่จี้ อย่าว่าแต่ 70% เลย เกรงว่าอาจจะได้สูงถึง 80% ด้วยซ้ำ
สีหน้าของผู้เฒ่าจางเปลี่ยนไปทันที
เขาไม่เคยคิดว่าคุณจางคนนี้จะไปดึงชวี่จี้ทนายความอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิวมาเป็นพวกตั้งนานแล้ว
แล้วแบบนี้เขาจะไปหาทนายที่ไหน?
เยี้ยนจิน?
แต่ทนายความที่มีชื่อเสียงในเมืองเยี้ยนจินมันเชิญง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เชิญทนายพวกนั้นมาช่วยสู้คดี ไม่เพียงแต่ต้องมีเงินอย่างเดียวเท่านั้น จางจงหัวยังไม่มีเกียรติมากขนาดนั้น
ในเมื่อเชิญทนายทางเยี้ยนจินไม่ได้ แล้วใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของชวี่จี้อีก?
จางจงหัวเงียบขรึมลง
คนของตระกูลจางก็รู้สึกอึ้งเหมือนกัน หลังจากนั้นมองไปทางคุณนายจางด้วยความดีใจ
คิดไม่ถึงว่าคุณนายจางจะมีอาวุธลับแบบนี้ด้วย!
ดูเหมือนเธอจะเคยคิดไว้แล้วว่าต้องยึดตระกูลจางยังไง
ตั้งแต่เริ่มจนจบ คุณนายจางเตรียมตัวมาหมดแล้ว!
บางทีเธออาจจะคาดการณ์ว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่นอน!
จางจงหัวกําหมัดแน่น บนใบหน้าถูกปกคลุมด้วยความโกรธ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย อายุปูนนี้แล้วกลับต้องมาเสียรู้ให้กับภรรยาของตัวเอง…
ขายหน้าสิ้นดี!
ผู้เฒ่าจางโกรธจนพ่นลมออกจากจมูก
แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางพูดขึ้นอย่างกะทันหัน "คุณตา คุณไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาอยากสู้กันในชั้นศาลก็ปล่อยให้พวกเขาสู้เถอะ! ผมจะเชิญทนายความมาช่วยคุณเอง"
"เสี่ยวหยาง แกไม่ใช่คนกวงหลิว แกไม่รู้หรอกว่าทนายชวี่จี้คนนี้ร้ายกาจแค่ไหน เขาอยู่ในวงการทนายความมานานสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่เข้าวงการจนถึงตอนนี้เคยแพ้คดีความแค่สามครั้ง และทนายความที่เขาแพ้ให้ทั้งสามครั้งก็คืออาจารย์ของเขา ตอนนี้อาจารย์ของเขาอายุมากปลดเกษียณไปแล้ว ปัจจุบันมณฑลกวงหลิวไม่มีใครใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกแล้ว ถ้าหากจะฟ้องร้องกันในชั้นศาลจริง เพลงว่าฉันคงต้องแพ้อย่างยับเยินแน่นอน…" จางจงหัวพูดด้วยความโมโห
"คุณตา ทีมทนายความที่ผมเชิญก็เก่งมากเหมือนกัน คุณวางใจได้ แค่ชวี่จี้คนเดียวไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขา" หลินหยางพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...