สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 226

"เสี่ยวเฉียน ตกลงหม่านฟู่ซีและฉางว่านเยว่เป็นใครกันแน่?" เห็นผู้จัดการคนนี้ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพ จางชิงหยู่รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว

"คุณน้า คุณไม่เคยได้ยินชมรมศิลปะการต่อสู้ตระกูลหม่านเหรอ?" ลั่วเฉียนมองไปทางจางชิงหยู่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

"ชื่อนี้เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหน…" จางชิงหยู่ครุ่นคิดแล้วพูด

"นั่นเป็นถึงหนึ่งในชมรมศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดภายในประเทศ ทุกมณฑลล้วนแต่มีสาขาชมรมศิลปะการต่อสู้ของพวกเขา โดยสำนักงานใหญ่ชมรมศิลปะการต่อสู้อยู่ในเมืองเยี้ยนจิน สามารถบอกได้ว่าพวกเขามีลูกศิษย์ทั่วประเทศ" ลั่วเฉียนพูด

"หา?"

จางชิงหยู่ตกใจจนหน้าซีด

เธอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงคนของชมรมศิลปะการต่อสู้ธรรมดาคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีที่มาที่ไปน่ากลัวมากขนาดนี้…

"นอกจากนี้ภูมิหลังของคนที่ชื่อฉางว่านเยว่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน อย่างน้อยก็ดีกว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าตระกูลของหนู แต่คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วง กลางวันแสกๆแบบนี้พวกเขาจะทำอะไรพวกเราได้? ถ้าเขากล้าทำอะไรหนูจะแจ้งความทันที!" ลั่วเฉียนพูดด้วยความโมโห

"การลงไม้ลงมือคือวิธีที่ต่ำที่สุด ฉันคิดจะเล่นงานพวกคุณ จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ?"

ฉางว่านเยว่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด หลังจากนั้นหันไปตะโกนใส่ผู้จัดการ "ผู้จัดการ ลองไปตรวจดูมีเจ้าของบ้านที่ชื่อซูเหยียนอยู่ในวิลล่าของเราหรือเปล่า?"

"ได้ครับคุณฉาง!"

ผู้จัดการรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

หลังจากที่คนทั้งกลุ่มได้ยินคำพูดประโยคนี้ถึงกับหน้าถอดสี และเข้าใจความคิดของฉางว่ายเยว่ทันที

ผ่านไปสักพัก ผู้จัดการส่ายหัวแล้วพูด "ไม่มีเจ้าของบ้านที่ชื่อซูเหยียน"

"งั้นตรวจสอบดูว่ามีเจ้าของบ้านที่ชื่อลั่วเฉียนหรือเปล่า!" ฉางว่านเยว่หรี่ตาลงพูด

"ครับ!"

ผู้จัดการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง

ลมหายใจของคนฝั่งนี้หยุดชะงักทันที…

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ผู้จัดการวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดกับฉางว่านเยว่ "ไม่มีเจ้าของบ้านที่ชื่อลั่วเฉียนเหมือนกันครับ"

"ฉันเข้าใจแล้ว!"

ฉางว่านเยว่ยิ้มแล้วพูด "ฉันว่าแล้วเชียว แล้วพวกคนจนพวกนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ฉันคิดว่าพวกเธอคงจะแอบเข้ามาดูภาพทิวทัศน์ซื่อจี้ห๋าวชิงในตำนานใช่หรือเปล่า? เป็นยังไง? ที่นี่สวยหรือเปล่า? สวยกว่าคฤหาสน์เก่าแก่ของพวกเธอเยอะมากเลยใช่ไหมล่ะ?"

"เธอมัน…" ลั่วเฉียนโมโหจนพูดอะไรไม่ออก

ในตอนนั้นเอง หม่านฟู่ซีชี้นิ้วมาทางลั่วเฉียน ซูเหยียนและคนอื่น "ผู้จัดการหลี่ คนพวกนี้ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของบ้านที่นี่ แต่กลับมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ผมสงสัยว่าพวกเขามาเพื่อขโมยของ รบกวนคุณช่วยแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้! จับพวกเขาไว้ให้หมด!"

"ฮืม? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?"

ผู้จัดการหลี่คนนั้นขมวดคิ้ว รีบตะโกนพูดทันที "รปภ รปภ! เข้ามาให้หมด! จับตัวคนพวกนี้แล้วโทรแจ้งตำรวจ!"

รปภที่อยู่ไกลออกไปรีบวิ่งเข้ามาทันที

"พวกคุณคิดจะทำอะไร? พวกเราจะเป็นขโมยได้ยังไง? เขาพูดอะไรคุณก็เชื่อหมดเลยเหรอ?" จางชิงหยู่เริ่มร้อนรนแล้ว

"พวกคุณไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยของที่นี่แต่กลับมาปรากฏตัวที่นี่ ถ้าพวกคุณไม่ใช่ขโมยแล้วเป็นอะไร? กฎของที่นี่มีการระบุอย่างชัดเจนว่าคนนอกห้ามเข้าพวกคุณไม่รู้เหรอ?" ผู้จัดการพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

คนที่สามารถพักอยู่อาศัยในศูนย์กลางล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโต ทำให้ทางซื่อจี้ห๋าวชิงไม่พอใจก็ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเถ้าแก่ของซื่อจี้ห๋าวชิงก็บอกแล้ว จะต้องรักษาความสงบเรียบร้อยและสภาพแวดล้อมให้ดี ไม่ว่าใครก็ตามที่บุกรุกเข้ามาแจ้งตำรวจก่อนแล้วค่อยว่ากัน แน่นอน แจ้งตำรวจแล้วก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะจบ เพราะเถ้าแก่ของซื่อจี้ห๋าวชิงเห็นเจ้าของบ้านที่พักอยู่ในศูนย์กลางชุมชนเป็นเพื่อนของเขา และคนที่สร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนของเขา มักจะพบกับจุดจบที่ไม่สวยสักเท่าไหร่

คนกลุ่มนี้แต่งตัวดูธรรมดา เหมือนคนใหญ่คนโตอะไรที่ไหนหรือเปล่า? ผู้จัดการจึงเลือกที่จะเชื่อหม่านฟู่ซี

รปภวิ่งเข้ามาคิดจะลงมือจับคนทันที

"รอก่อน!"

ลั่วเฉียนรีบตะโกน

"มีอะไรไปพูดกันที่โรงพักดีกว่า" ฉางว่านเยว่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด

"พูดอะไรของเธอ? พวกเราเป็นเพื่อนของผู้พักอาศัยที่นี่ นี่คือกุญแจ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน?" ลั่วเฉียนรีบหยิบพวงกุญแจที่หลินหยางมอบให้เธอออกมา

ผู้จัดการกวาดสายมองอย่างไม่ใส่ใจ เขารู้สึกอึ้งก่อน หลังจากนั้นเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว มองกุญแจที่อยู่ในมือของลั่วเฉียนอย่างไม่เชื่อสายตา

"อะ…อะไร? กุญแจเบอร์001?"

ผู้จัดการพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา

"มันคืออะไรเหรอ?"

ฉางว่านเยว่และคนอื่นงงเป็นไก่ตาแตก

เธอไม่ได้มีบ้านที่นี่ แต่หม่านฟู่ซีมีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อบ้านที่นี่ เนื่องจากบ้านที่อยู่ศูนย์กลางชุมชนไม่รับการผ่อนจ่าย จำเป็นต้องจ่ายเต็มจำนวนอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเหตุนี้ฟู่หม่านซีจึงมาดูก่อนว่าคุ้มค่าที่จะซื้อหรือเปล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา