การหายตัวไปของเทพอัคคี ทำให้เกิดลางสังหรณ์ขึ้นในใจของหลินหยาง
อีกฝ่ายเป็นใครกัน?
ทำไมต้องจับตัวเทพอัคคีไปด้วย?
จุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร?
หรือเพราะต้องการจัดการกับตัวเอง?
คนของลัทธิปีศาจสวรรค์เป็นคนทำ?
หรือว่า...เป็นการกระทำของแดนมรณะ?
เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้หลินหยางกระวนกระวายใจอย่างมาก
ศัตรูที่มีความเก่งกาจและแข็งแกร่งทำให้ยากที่จะป้องกันได้....
"ดูเหมือนว่าต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ"
หลินหยางพึมพำและสั่งให้เฉาซงหยางและหยวนซิงจัดการเรื่องการตรวจสอบ ส่วนตัวเองนั้นก็หมกมุ่นกับการทำยาอายุวัฒนะอย่างตั้งใจ
ตอนนี้ก็มีหินวิเศษเทียนฟางมาครองแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้หินวิเศษนี้เพื่อนำไปปรุงกลั่นอาอายุวัฒนะพิเศษจำนวนหนึ่งในยามฉุกเฉิน
เขาสังหรณ์ใจว่าจะมีพายุที่โหมกระหน่ำมาเยือนในไม่ช้า!
ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงได้เวลาลองตัวยาเหล่านั้นแล้ว....
...
เมืองหลงชวน ตระกูลเย่
เย่ซินอวี่กลับไปถึงบ้านด้วยความหดหู่
ตระกูลเย่ในตอนนี้ก็เหมือนกับปกติที่มีคนเข้าออกจำนวนมากและไม่ขาดสาย
ทุกคนต่างมารวมกันที่ห้องโถงเพื่อปรึกษาหารือกัน
สีหน้าของทุกคนต่างเศร้าหมองและวิตกกังวล
ต่อให้ไม่ได้ไปนั่งฟัง เย่ซินอวี่เองก็รู้ว่าพวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องอะไร
"สุดท้ายแล้วฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยเหรอ?" เย่ซินอวี่ล้มตัวนอนลงและพึมพำกับตัวเอง
"ซินอวี่ เธออยู่บ้านไหม? ซินอวี่?"
ขณะนี้เอง เสียงร้องเรียกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
เย่ซินอวี่ลุกขึ้นทันทีและรีบผลักประตูวิ่งออกไป
"จาวเอ๋อร์! เธอมาที่นี่?" ในที่สุดใบหน้าที่เศร้าสร้อยของเย่ซินอวี่ก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง
ผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็นผู้หญิงที่สง่างามในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ผู้หญิงคนนี้รูปร่างหน้าตาดีและแต่งหน้าจัดจ้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์อย่างมาก
นี่คือเพื่อนสนิทของเย่ซินอวี่
หญิงคนนั้นเดินเข้ามาและจับมือของเย่ซินอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "ซินอวี่ ฉันได้ยินว่าเธอบุกไปขโมยดอกบัวขาวล้างโลกถึงเจียงเฉิน เป็นยังไงบ้าง? ได้ดอกบัวขาวล้างโลกมาไหม?"
ตระกูลสุ่ยในเมืองหลงชวนนั้นถือเป็นผู้นำและมีอำนาจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอำนาจที่ว่านี้ก็เพิ่งจะได้รับการยอมรับมากว่าสิบปีมาแล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่มีใครกล้าเทียบได้
เหตุผลง่ายมาก!
ตระกูลสุ่ยมีบุคคลที่มีความสามารถและแข็งแกร่งอย่างมากคนหนึ่ง!
เพียงแค่มีบุคคลนี้อยู่ใครก็ไม่สามารถทำอะไรตระกูลสุ่ยได้! ซึ่งถือเป็นการครองงำเมืองหลงชวนโดยตรง แม้แต่ตระกูลเย่ก็ไม่อาจรับมือได้...
และบุคคลนี้คือพี่ชายของสุ่ยไท่จื่อ
แม้ว่าพี่ชายของเขาจะเดินทางและฝึกฝนอยู่ภายนอกตลอดเวลาและแทบไม่ได้กลับไปที่ตระกูลเลย ดังนั้นตำแหน่งผู้นำตระกูลจึงตกไปอยู่ที่สุ่ยไท่จื่อโดยปริยาย
"หากได้รับความช่วยเหลือจากสุ่ยไท่จื่อ นั่นก็หมายความว่าพี่ชายของสุ่ยไท่จื่อก็ยืนข้างตระกูลเย่ พี่ชายเขาแข็งแกร่งและน่าเกรงขามมากแค่ไหน เธอคงรู้ดีใช่ไหม? หากทำให้เขาคนนั้นมายืนข้างตระกูลเย่ได้ ทั้งอาณาจักรมังกรจะยังมีใครกล้าลงมือกับตระกูลเย่ของเธออีก?" หลิ่วจาวเอ๋อร์กล่าวอย่างระมัดระวัง
"จาวเอ๋อร์ เธอรู้ความคิดของสุ่ยไท่จื่อ ก่อนหน้านี้เขาก็แสดงออกให้เห็นว่าเขารู้สึกดีกับฉัน คราวก่อนเขายังวางแผนคิดจะ....หากพี่สาวของฉันมาไม่ทัน ฉันเกรงว่า....เกรงว่า....เฮ้อ จาวเอ๋อร์ ผู้ชายคนนี้ไม่ต่างกับงูพิษ ถ้าฉันไปขอความช่วยเหลือจากเขา...ฉันไม่ถูกเขากลืนกินไปทั้งตัวหรอกเหรอ? แบบนั้นก็เท่ากับส่งตัวเองไปเข้าปากเสือน่ะสิ" เย่ซินอวี่กล่าวอย่างลำบากใจ
"เฮ้อ เรื่องนี้จะโทษสุ่ยไท่จื่อก็ไม่ได้ เรื่องคราวก่อนเขาไม่ได้เป็นคนวางแผน แต่เพราะลูกน้องของเรารู้ถึงความคิดของเขาที่มีต่อเธอ ก็เลยตัดสินใจด้วยตัวเอง สุ่ยไท่จื่อเคยบอกให้ฉันมาอธิบายให้ธอฟัง แต่เธอก็ไม่เชื่อ"
"แต่...."
"ปัดโธ่ ซินอวี่ เธออยากช่วยตระกูลเย่จริงหรือเปล่า? ถ้าอยากละก็รีบไปหาสุ่ยไท่จื่อดู ลองดูว่าเขาจะว่ายังไง หากสุ่ยไท่จื่อยังคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเธออีก หรือใช้เรื่องนี้เพื่อบีบบังคับให้เธอทำเรื่องที่ไม่อยากทำ งั้นเธอก็เดินออกมาแค่นั้นเอง เธอเป็นคุณหนูของตระกูลเย่นะ ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก เขาจะกล้าทำอะไรเธอได้ยังไง? ถ้าเราไปแล้วเขาสามารถช่วยเราได้ นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีมากเลยนะ" หลิ่วจาวเอ๋อร์กล่าว
เพียงแค่คำพูดนี้ก็ทำให้เย่ซินอวี่รู้สึกกดดัน
เธอเม้มปากและกัดฟันด้วยแววตามุ่งมั่น "ตกลง! งั้นเราลองดูสักตั้งแล้วกัน!"
หลิ่วจาวเอ๋อร์หรี่ตาลงด้วยแววตาที่เปล่งประกายอันน่าประหลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...