สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2523

“นี่คือพูดจริงจัง”เทียนเจียวสูงสุดพูดขึ้น

“แล้วคุณคิดจะเอายังไง?”หลินหยางย้อนถาม

“ผมก็จะไม่ทำให้คุณลำบากใจ คุณมาสู้กับผมสามหมาก ถ้าสามหมากนี้คุณไม่ตาย ผมจะเป็นคนไปเอง!”

“ถ้าผมไม่เห็นด้วยล่ะ?”

“อย่างนั้น….ผมอาจจะฆ่าคุณไม่ได้ แต่ผมรับรองได้เลย คนที่นี่จะต้องตายเพราะคุณอย่างน้อยสามสิบคน!”เทียนเจียวสูงสุดพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

พอพูดคำนี้ออกมา ทุกคนถึงกับหายใจถี่ยิบ

“บัดซบ คุณดูถูกใครนี่?”

“จับกุมคุณ?ไม่ช้าก็เร็วก็จับได้!”

“อวดดี! !”

“จะต้องทำให้คุณก้มหัวให้ได้!”

ทุกคนเดือดดาล

ทหารสองคนทนไม่ไหว ตะคอกเสียงทุ้มต่ำหมายจะเข้าไปสังหาร จัดการกับเทียนเจียวสูงสุด

แต่วินาทีถัดมา

โฮก!

พลังความเดือดดาลปะทุออกมาจากร่างกายของเทียนเจียวสูงสุด ตามด้วยมีเงาร่างหนึ่งสีน้ำเงินออกมา หมัดเมาอันน่ากลัวพุ่งโจมตีไปทางทหารสองคนนั้น

ปัง! ปัง!

ทหารสองคนนั้นยังไม่ทันตั้งตัว กระเด็นกระดอนลอยออกไปกระแทกอยู่บนพื้น แต่ละคนกระอักอาเจียนออกมาเป็นเลือดพร้อมกับสลบเหมือดไปทันที

ทุกคนตื่นตะลึงรีบมองไป

สิ่งที่ได้เห็นคือชุดเกราะป้องกันที่อยู่บนร่างกายของทหารทั้งสองคนแตกออกหมดแล้ว พลังถูกทำลาย เนื้อหนังมังสาเหวอะหวะแทบจะเสียชีวิต

“อะไร?”

ทุกคนไม่อยากจะเชื่อมองไปทางเทียนเจียวสูงสุด

เวลานี้เทียนเจียวสูงสุดยังคงยืนอยู่ไกลๆ แต่ร่างกายของเขากลับมีเงาร่างใหญ่สูงถึงสามเมตรเดินออกมา

“แปลงร่างเป็นเงา?”จงเจิ้นพลั้งปากพูดออกมา

“เป็นไปไม่ได้….”เฉินจ้านพูดพึมพำ

ทุกคนตื่นตะลึงกับฝีมือกลยุทธ์ของเทียนเจียวสูงสุด

แปลงร่างเป็นเงา?

นั่นคือฝีมือขั้นเทพระดับสูงขนาดไหนกันนะ

แม้แต่หลินหยางเอง ยังขมวดคิ้วเป็นปม

เขาเคยได้ยินเรื่องแปลงร่างเป็นเงา

ฝีมือระดับนี้จะต้องมีพลังมหาศาลบรรลุระดับต้าเฉิง ในขณะเดียวกันก็จะต้องได้รับความเกื้อกูลจากเทคนิคที่หายากอย่างการแปลงร่างเป็นเงามาช่วยด้วยจึงจะฝึกฝนประสบความสำเร็จ

ทั้งสองเงื่อนไขนั้นยากมาก

พลังความแข็งแกร่งต้าเฉิงไม่ใช่ว่าฝึกก็ได้เป็นเลย มีหลายคนฝึกฝนพลังต้าเฉิง แต่มีคนน้อยมากที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นพลังลึกลับยากที่จะสัมผัสได้ มันก็เหมือนหยินและหยางนั่นแหละซึ่งยากที่จะเข้าใจ อยากจะบรรลุต้าเฉิง ไม่ใช่อาศัยความขยันก็ทำได้ พรสวรรค์ต่างหากที่เป็นหลัก

ส่วนเทคนิคแปลงร่างเป็นเงานั้นหายากมากจนใคร ๆ ก็สงสัยว่ามีเทคนิคดังกล่าวอยู่หรือไม่

หลายคนเคยได้ยินเรื่องแปลงร่างเป็นเงา แต่ยังไม่เคยเห็นกันเลย

ต่อให้เป็นเฉินจ้านเองที่รบมาหลายครา วันนี้ก็เพิ่งเคยเห็น

“คิดไม่ถึงเลยว่าเทียนเจียวสูงสุดจะมีฝีมือนี้ เขา…..เหมือนดวงดาวที่ส่องสกาวจริงๆ”เฉินจ้านพูดพึมพำขึ้น

“อย่าบุ่มบ่าม!”

จงเจิ้นเห็นยังมีทหารจะลงมือ เลยรีบตะคอกขึ้น

ทุกคนชะงักงันฝีเท้าไว้

“จัดค่ายกล เอาชนะศัตรูด้วยค่ายกล!” จงเจิ้นกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ใช้ค่ายกลมารับมือกับผม? มันก็แค่เรื่องเพ้อเจ้อ จะต้องบีบบังคับให้ผมฆ่าใช่ไหม! พวกคุณถึงจะรู้จักถอย? ”เทียนเจียวสูงสุดพูดอย่างราบเรียบ แต่ในน้ำเสียงนั้นมีความอำมหิตแฝงอยู่

รู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้เขาออมมือมาโดยตลอด!

“แบบนี้ ผมยังต่อสู้ได้ไหม?”หลินหยางถามอย่างราบเรียบ

“ดี! เยี่ยม! ดี….คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่าพรสวรรค์ของแม่ทัพหลินจะโดดเด่นมาก ว้าว!" ว่านจิ้นซงอดไม่ได้ที่จะชมเชย และดวงตาที่แก่ชราของเขาก็เปล่งประกายออกมา

เฉินจ้านกับจงเจิ้นก็พากันมองไป ถึงได้พบว่าตำแหน่งที่หลินหยางวางทำลายกลอุบายของว่านจิ้นซงได้

อัจฉริยะจริงๆ

แต่ใบหน้าชราของว่านจิ้นซงยังไม่ผ่อนคลายลง

“แม่ทัพหลิน อนาคตของคุณไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน แต่การต่อสู้กับเขา... ผมยังมีความกังวลอยู่ ดังนั้นปล่อยให้ผมทำเถอะ" ว่านจิ้นซงพูดด้วยรอยยิ้ม

แต่หลินหยางกลับปฏิเสธ ส่ายหน้าแล้วเดินไปข้างหน้า

“แม่ทัพว่านเป็นห่วงทหาร และพวกคุณเรียกผมว่าแม่ทัพหลิน แล้วผมจะทนดูทหารพวกนี้ตายอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง แหวกออกจากกลุ่มคนมายืนอยู่ด้านหน้าสุดเพื่อเผชิญหน้ากับเทียนเจียวสูงสุด พูดอย่างราบเรียบว่า“วันนี้คุณฆ่าใครตายไม่ได้แม้แต่คนเดียว!”

“บางทีนะ ผมฆ่าคุณแค่คนเดียวก็พอละ”เทียนเจียวสูงสุดพูดอย่างราบเรียบ

หลินหยางไม่ตอบโต้ แต่หยิบเข็มมังกรหงเหมิงออกมา แล้วฝังเข้าไป

ชั่วพริบตาเดียว พลังกลิ่นอายของเขาก็เพิ่มขึ้น

เทียนเจียวสูงสุดเดินมาข้างหน้า และความรู้สึกกดก็แผ่ซ่านมาที่หลินหยาง

แต่เวลานี้

ครืน!

กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวกระจายพลังความน่ากลัวของเทียนเจียวสูงสุดออก

ในขณะเดียวกัน สายตาของทุกคนก็หยุดนิ่ง

บริเวณรอบตัวหลินหยางมีเงาร่างที่น่ากลัวปรากฎ

“คือแปลงร่างเป็นเงาอีกแล้วเหรอ?”จงเจิ้นเผลอพูดออกมา

เทียนเจียวสูงสุดที่กำลังสาวเท้าเดินมาชะงักงัน เขามองไปทางเงาร่างที่กระเพื่อมอยู่ของหลินหยาง…..