สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2524

สรุปบท บทที่ 2524 สิ่งที่ฉันฝึกฝน คือความรู้ทางด้านการแพทย์: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา

อ่านสรุป บทที่ 2524 สิ่งที่ฉันฝึกฝน คือความรู้ทางด้านการแพทย์ จาก สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา โดย เฮยเย่เต๋ถอง

บทที่ บทที่ 2524 สิ่งที่ฉันฝึกฝน คือความรู้ทางด้านการแพทย์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายปัจจุบัน สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฮยเย่เต๋ถอง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ผู้คนในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึง สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็มองไปที่หลินหยางด้วยความงุนงง

แม้แต่จงเจิ้นกับเฉินจ้าน สายตาของคนทั้งสองต่างก็มองตรงเข้ามา

"แม่ทัพหลิน ทำ....ทำไมคุณถึงแปลงร่างเป็นเงาได้ด้วยล่ะ?"

เฉินจ้านตะโกนเสียงหลง

"ฉันเคยบอกว่าฉันทำไม่ได้เหรอ?"

หลินหยางกล่าวอย่างเย็นชา

เห็นเพียงภาพลวงตาบนตัวเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นาน ภาพลวงตากิเลนที่ดูมีพลังและน่าเกรงขามได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น

นี่คือการแปลงร่างเป็นกิเลน!

เดิมที การแปลงร่างเป็นกิเลนของสำนักฉีหลิน ก็คือเทคนิคการ《แปลงร่างเป็นเงา》! เพียงแต่ความแข็งแกร่งของหลินหยางก่อนหน้านี้ไม่ได้สมบูรณ์ จึงไม่สามารถแสดงพลานุภาพที่แท้จริงออกมาได้ และไม่อาจทำให้การแปลงร่างเป็นกิเลนนี้กลายเป็นการแปลงร่างเป็นเงาภายใต้สถานการณ์นี้ได้

แต่หลินหยางในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว การแปลงร่างเป็นกิเลน ก็คือวิธีการในระดับของการแปลงร่างเป็นเงา

บรรดาผู้คนจึงรู้สึกตกใจ

"ฉันเห็นว่า พรสวรรค์ของแม่ทัพหลินนี้ที่มีตัวจับยากในโลกใบนี้ อาจจะเทียบไม่ได้กับเทียนเจียวสูงสุด แต่เมื่อมองไปที่แดนมังกร ก็เกรงว่าจะมีไม่กี่คนที่แข็งแกร่งกว่าเขา" เมื่อจงเจิ้นได้สติกลับมา จึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว

เฉินจ้านพยักหน้าอย่างเงียบๆ : "บางทีทั้งแดนมังกร นอกจากเทียนเจียวสูงสุด แม่ทัพหลินก็ถือเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่ดีที่สุด! เพียงแต่น่าเสียดายที่แม่ทันหลินเกิดผิดเวลาไปหน่อย เพราะถ้าหากไม่มีเทียนเจียวสูงสุดละก็ เขาก็จะต้องกลายเป็นดาวที่เปล่งประกายบนท้องฟ้า ทำใช้ชาวโลกเคารพและศรัทธาอย่างแน่นอน เฮ้อ ในเมื่อฟ้าส่งแม่ทัพหลินมาเกิด เหตุไฉนถึงส่งเทียนเจียวสูงสุดมาเกิดด้วยนะ......"

"ใช่แล้ว...."

จงเจิ้นก็รู้สึกเสียดาย

พรสวรรค์ของหลินหยางนั้นช่างน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง แต่เทียนเจียวสูงสุดที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเขา เมื่อเป็นเช่นนี้ พรสวรรค์อันเปล่งประกายของเขาก็ชัดเจนว่าไม่ค่อยสว่างไสวขนาดนั้น

"ที่หลินหยางฝึกฝนคือศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์ แต่ที่เทียนเจียวสูงสุดฝึกฝนคือศิลปะการต่อสู้ระดับสูง คนหนึ่งทำเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนใกล้ตายและดูแลรักษาคนที่บาดเจ็บ ส่วนอีกคนหนึ่งคือเพื่อสังหารเพียงอย่างเดียว ในแง่ของคุณสมบัติการต่อสู้ แม่ทัพหลินก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทียนเจียวสูงสุดโดยสิ้นเชิง อีกอย่างแหล่งทรัพยากรและดวงชะตา รวมทั้งพรสวรรค์ของเทียนเจียวสูงสุด ล้วนสูงกว่าแม่ทัพหลินทั้งสิ้น แม่ทัพหลินมีโอกาสสูงมากที่จะพ่ายแพ้การต่อสู้ในครั้งนี้! คุณคอยจับตาดูเอาไว้ก็แล้วกัน ถ้าหากสถานการณ์ผิดปกติ ก็ลงมือได้ทันที ไม่ต้องเกรงใจ จะต้องแน่ใจว่าแม่ทัพหลินปลอดภัย!"

ว่านจิ้นซงเอียงหน้ามา แล้วกล่าวด้วยเสียงอันเคร่งขรึม

"ครับ!"

คนทั้งสองพยักหน้า

คนโดยรอบถอยห่างออกไป

ทหารแต่ละพื้นที่ได้สร้างป้อมปราการขึ้นมา แล้วล้อมรอบคนทั้งสองเอาไว้

คนทั้งสองในเวลานี้ คล้ายกับอยู่ในสนามประลองขนาดใหญ่

เทียนเจียวสูงสุดมองด้วยสายตาอันเย็นชา ในดวงตาทั้งคู่แฝงไปด้วยความสมเพชเวทนา

"ความโง่เขลาและความอ่อนแอไม่เคยเป็นอุปสรรคในการอยู่รอด แต่เย่อหยิ่งนั่นแหละที่เป็น! คุณไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่ามีความแตกต่างกับฉันมากแค่ไหน การท้าประลองอย่างเปิดเผย ก็เป็นเพียงแค่การฆ่าตัวตายเท่านั้น!" เทียนเจียวสูงสุดกล่าวอย่างนิ่งๆ

"ฉันคงต้องมอบประโยคนี้ให้คุณมากกว่า! คุณไม่ได้รู้ซึ้งถึงศักยภาพของฉัน แล้วมาพูดเช่นนี้ ก็เพียงแค่ทำให้คนหัวเราะเยาะเอาเปล่าๆ" หลินหยางส่ายหน้า

"ฉันไม่รู้ซึ้งถึงศักยภาพของคุณอย่างนั้นเหรอ? ช่างน่าหัวเราะ คุณยังจำหญิงชุดแดงคนนั้นที่ถูกคนโจมตีจนพ่ายแพ้ในตอนนั้นได้ไหม?" เทียนเจียวสูงสุดส่ายหน้าแล้วกล่าว

"หญิงในหลุมฝังศพนักปราชญ์ฝานเทียนผู้คนนะเหรอ?"

"ใช่แล้ว ก็คือเธอ เธอชื่อหวู่เฉิงเหม่ย ด้วยทักษะทางศิลปะการต่อสู้ กระทั่งเธอคุณก็เทียบไม่ได้ ถ้าหากไม่ได้อาศัยทักษะที่สืบทอดของนักปราชญ์ฝานเทียน คุณคงไม่อาจเอาชนะเธอได้โดยสิ้นเชิง แต่ในขณะนี้ คุณไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้มาพูดกับฉันเช่นนี้เหรอ? หรือคุณคิดว่าศักยภาพของฉันเทียบไม่ได้แม้กระทั่งเธอ? ?"

ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเผยสถานะของตัวเอง แต่เทียนเจียวสูงสุดก็รู้ว่าทุกคนคาดเดาสถานะของเขาได้ เพียงแต่ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ไม่มีหลักฐาน ใครๆ ต่างก็จนปัญญาที่จะล่วงรู้ได้

"ศักยภาพของคุณ แน่นอนว่าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่า เพียงแต่.....วิธีการของฉัน มันมากเกินกว่าที่คุณเห็นนัก" หลินหยางกล่าวอย่างนิ่งๆ

"เหรอ? หรือว่า ฉันยังเห็นไม่ครอบคลุมทุกด้าน?"

"แน่นอน"

"เช่นนั้น ฉันพลาดตรงไหนไปเหรอ?" เทียนเจียวสูงสุดกล่าวถามอย่างนิ่งๆ

"ฉัน ไม่ใช่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง สิ่งที่ฉันแสวงหานั้น แตกต่างกับคุณโดยสิ้นเชิง! ตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่ได้มีความสนใจทักษะทางศิลปะการต่อสู้เลย! หรือว่าคุณไม่ได้สังเกตเห็น?" หลินหยางกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า

เทียนเจียวสูงสุด จ้องมองหลินหยางด้วยความงุนงง

แต่ก็เห็นหลินหยางค่อยๆ ยกมือของมาอย่างช้าๆ พร้อมกับแสงสีทองระยิบระยับมากมายที่ปลายนิ้วของเขา

นั่นก็คือเข็มจำนวนหลายเล่ม

"สิ่งที่ฉันฝึกฝน คือความรู้ทางด้านการแพทย์!"

เทียนเจียวสูงสุดไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรู้ทางด้านการแพทย์มากนัก

ถึงแม้จะเคยได้ยินจากแวดวงศิลปะการต่อสู้ว่า ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์นั้นมีความแข็งแกร่งกว่ามาก แต่ในสายตาของเขา สิ่งที่เรียกว่าศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์นั้น ก็เป็นเพียงแค่กลุ่มคนที่มีลู่ทางเบี่ยงเบนกลุ่มหนึ่ง และเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจังแล้ว ก็ยังคงมีความแตกต่าง

เพียงแต่เขาก็ไม่กล้าประมาท

ในเมื่อหลินหยางกล้าที่จะก้าวออกมา แน่นอนว่าจะต้องมีความมั่นใจของเขา

"ฉันเข้าใจแล้ว!"

เทียนเจียวสูงสุดพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า: "ก็ดี หมอเทวดาหลิน พวกเรามาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเถอะ หากคุณตายด้วยน้ำมือของฉัน บางทีคนเหล่านั้นที่อยู่ข้างกายคุณ ก็ยังสามารถเก็บศพได้"

"ฉันบอกแล้วไง วันนี้ที่นี่จะไม่มีคนตาย และรวมถึงฉันด้วย" หลินหยางกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม

"เช่นนั้นก็ทำให้ฉันได้เห็นฝีมือของคุณหน่อยสิ"

เทียนเจียงสูงสุดไม่พูดไร้สาระอีก และสะบัดแขนออกเล็กน้อย

ย๊า!

ทันใดภาพลวงตาบนร่างของเขาก็ดึงดาบออกมาจากในความว่างเปล่า แล้วฟันเข้าไปที่หลินหยางอย่างโหดเหี้ยม

สีหน้าของทุกคนตึงเครียด และหยุดการเคลื่อนไหว

แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ของหลินหยางในเวลานี้แล้ว ขืนสู้ต่อไป ก็เกรงว่าจะไม่เป็นผล

"ไม่เป็นโล้เป็นพายเลย!"

เทียนเจียวสูงสุดส่ายหน้า ในสายตาแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม และขี้เกียจจะชักช้าอีก ต่อไป จึงกระโดดขึ้น และคนก็คล้ายกับจะพุ่งเข้าไปยังหลินหยางในชั่วพริบตา

ภาพเงาอันบ้าคลั่งนั้นถือดาบขนาดใหญ่อันน่าสะพรึงกลัว และโจมตีลงมาจากด้านบนศีรษะ

ดาบเล่มนี้ เพียงพอที่จะตัดแบ่งผืนดินอันกว้างใหญ่ไพศาลออกจากกันได้

กิเลนที่แตกสลายเป็นชิ้นไ ไม่อาจรับดาบนี้ได้ไหวโดยสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าเทียนเจียวสูงสุดต้องการใช้ดาบนี้เพื่อจัดการคู่ต่อสู้

ถึงอย่างไรเขาก็รู้ดีกว่า ไม่อาจใช้พลังมากเกินไปกับหลินหยางได้ ไม่เช่นนั้นหากพลังหมดลง ผู้แข็งแกร่งโดยรอบก็จะเข้าโจมตี และถึงแม้ว่าเขาจะติดปีกก็บินหนีไปไม่รอด

ฉะนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ เขาจะต้องเผด็จศึกอย่างฉับไว

แต่ทว่าในชั่วพริบตาที่ดาบเล่มนี้กดลงมา

โฮกกกก!!

จู่ๆ กิเลนที่แตกสลายนั้นก็ส่งเสียงคำรามขึ้นไปยังท้องฟ้า จากนั้นร่างกายของกิเลนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมา และพลังอันโหดเหี้ยมก็ขยายออกจากในร่างของกิเลน

"ระเบิดตัวเอง?"

เทียนเจียวสูงสุดหายใจถี่ แล้วมองหลินหยางอย่างตะลึงงัน

แต่ก็เห็นเพียงใบหน้าของหลินหยางที่เต็มไปด้วยความดุร้าย จ้องเขม็งมายังเขา

"หมอเทวดาหลิน! คุณบ้าไปแล้วเหรอ?" เทียนเจียวสูงสุดตะโกนกล่าว

"ฉันรู้ดีว่า ไม่ว่าวิธีไหนของฉันก็ล้วนยากที่จะทำอันตรายคุณได้ ทางด้านของทักษะศิลปะการต่อสู้ ฉันแตกต่างกับคุณราวฟ้ากับเหว แต่ทางด้านความเป็นความตาย คุณไม่อาจเทียบฉันได้ตลอดไป! ฉะนั้น ตอนนี้ฉันมีเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถเอาชนะคุณได้ ซึ่งมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้น!"

หลินหยางคำรามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด และพุ่งเข้าใส่เทียนเจียวสูงสุดอย่างไม่สนอะไรทั้งสิ้น

เทียนเจียวสูงสุดตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เก็บสะสมพลังป้องกันการรุกรานจากทั่วทั้งร่างกายไปพลาง เท้าทั้งคู่ก็ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วไปพลาง

แต่ทว่า....ท้ายที่สุดมันก็ช้าเกินไป!

ในชั่วพริบตาหลินหยางก็เข้ามาใกล้เขา

ตูม!!

เกิดเสียงระเบิดอันสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นในสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา