เข้าสู่ระบบผ่าน

สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2667

ผู้เฒ่าห้าก็ชะงักงัน มองหลินหยางที่เดินมาด้วยความตื่นตะลึง

“พ่อหนุ่ม คุณ…คุณเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียนเหรอ?”

“มีปัญหาอะไรไหม?”หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ

ก่อนหน้านี้หลินหยางเคยประลองฝีมือกับเจี่ยนเทาแล้วที่ตระกูลอวี่ คนตระกูลอวี่ก็ต่างเห็นเป็นประจักษ์พยาน แม้ว่าเจี่ยนเทาจะเป็นมือเทพ เป็นลูกศิษย์ของเซียนเก้าชีวิต แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยาง เขาเอาเปรียบหลินหยางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ในสายตาของตระกูลอวี่ เจี่ยนเทาก็คือแพ้ในมือหลินหยางแล้ว ถ้าหลินหยางเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียน ทางด้านของตระกูลอวี่ไม่มีโอกาสชนะแน่นอน

แต่เจี่ยนเทากลับหัวเราะเสียงดังลั่น“โลกกลมจริงๆ! คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียน! เมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็สามารถแบ่งระดับกันได้แล้ว!”

“แบ่งระดับได้เหรอ? ยังไง? ครั้งก่อนยังแบ่งไม่ชัดเจน?”หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ

“ครั้งก่อนผมแค่เตรียมตัวไม่ดี ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน! ผมรายงานเรื่องของคุณกับท่านอาจารย์แล้ว ท่านอาจารย์มอบโชคอันยิ่งใหญ่ให้ผม!คุณเอาอดีตมาเปรียบเทียบไม่ได้แล้ว ฆ่าคุณนะเหรอ? ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”เจี่ยนเทาจ้องหลินหยาง หัวเราะอย่างเยือกเย็น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

“พูดไม่เลว! คุณหลิน ตระกูลอวี่ของพวกเรามีทางเลือกที่ดี! ไม่ได้เลือกคุณ คุณก็อย่าโกรธเลย ความจริงพวกเราก็ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับคุณ ถ้าคุณตกลงที่จะละทิ้งการแข่งขันนี้ แสดงให้เห็นว่าคุณจะไม่ยุ่งเรื่องตระกูลอวี่ เช่นนั้นตระกูลอวี่จะตกลงเป็นเพื่อนกับคุณ คุณคิดว่ายังไง?”ผู้เฒ่าห้ามองไปทางหลินหยางและพูดอย่างราบเรียบ

หลินหยางส่ายหน้าพูดขึ้นว่า“ผมจะรอคุณที่การแข่งขันรอบแรก”

“คุณว่าอะไรนะ?”ผู้เฒ่าห้าขมวดคิ้วเป็นปม

“เชอะ ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเรามาดูกัน!”เจี่ยนเทาหงุดหงิด จ้องมองหลินหยางด้วยความเหี้ยมโหด ถ้าสายตาสามารถกินคนได้ เกรงว่าแม้แต่กระดูกของหลินหยางก็ไม่เหลือแล้ว

“ที่นี่คือดินแดนสุเมรุ พวกผมไม่สะดวกลงมือ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามหาว ยุแหย่ตระกูลอวี่ได้! คุณหลิน ผมให้โอกาสคุณ คุณไม่รักษาไว้ อย่ามาเสียใจภายหลังละกัน!”ผู้เฒ่าห้าตระกูลอวี่พูดขึ้นอย่างเย็นชา

“ผมเวลาทำอะไร ไม่เคยเสียใจภายหลัง”

“ดี!! คุณหลิน คุณพูดเองนะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ปมยากจะแก้แล้ว!”ผู้เฒ่าห้าหัวเราะ พยักหน้าจ้องมองผู้นำสำนักชิงเซวียน”จ้าวเจียงอั้น คุณก็อย่าคิดว่าจะหนีได้ รอจัดการคนบ้าคลั่งเหล่านี้เสร็จ การแข่งขันจบ ก็ถึงตอนที่ตระกูลอวี่ไปคิดบัญชีกับคุณแล้ว!”

พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อออกไป

นัยน์ตาอ้ายหร่านซับซ้อน เป็นเวลานานถึงได้ทอดถอนใจออกมา

“เด็กน้อย ไม่ต้องคิดมาก อดทนไว้ สักวันมันก็จะผ่านไปด้วยดี”ผู้นำสำนักชิงเซวียนพูดปลอบโยน

“อาจารย์ ครั้งนี้กลัวว่าจะต้องทำให้สำนักชิงเซวียนกับคุณหลินหยางลำบากแล้ว”อ้ายหร่านพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“สำนักชิงเซวียนของพวกเราไม่เป็นไร แต่คุณหลิน…..จะต้องระวังมากๆนะครับ ถ้าเขาพูดว่าจะตอบโต้คุณหลิน เกรงว่า….”สำนักชิงเซวียนพูดแล้วก็หยุด

หลินหยางยิ้มจางๆ พูดว่า“ทุกท่านไม่ต้องห่วง แค่เจี่ยนเทากระจอกจิ๊บจ๊อย ผมไม่เห็นในสายตาหรอก”

“คุณหลิน ระวังหน่อยก็ดีนะคะ”อ้ายหร่านรีบพูดขึ้น

หลินหยางยิ้มๆ

เวลานี้ มีเสียงตื่นตะลึงดังมา

“คนของตระกูลเสินกงมาแล้ว!”

เสียงนี้ดึงดูดสายตาของทุกคน

หลินหยางเองก็อดไม่ได้ที่จะมองไป

เขาเห็นเพียงด้านนอกดินแดนสุเมรุมีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาท่าทางองอาจ

กองกำลังอึกทึกครึกโครมเข้ามา แถมยังแบกเกี้ยวมาด้วย บริเวณหน้าต่าง สามารถมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านใน

“เป็นผู้ชายอะไรนั่งเกี้ยวมา”

“ทำอะไรกันเนี่ย? ส่งตัวออกเรือนเหรอ?”

คนสำนักชิงเซวียนอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำขึ้นมา

แต่ผู้นำสำนักชิงเซวียนสีหน้าเปลี่ยน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“พวกคุณเงียบๆ อย่าพูดซี้ซั้ว!ระวังจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้!”

พอพูดคำนี้ออกมา ทุกคนต่างตกใจ

“อาจารย์ คนผู้นี้….มีความเป็นมายังไงครับ?”หนานเฟิงถามอย่างระมัดระวัง

การแข่งขันนี้ครอบคลุมทั่วดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน ตระกูลดังเลยมากันเยอะ

แต่สิ่งที่ทำให้คนแปลกใจคือเจ็ดอัจฉริยะดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ไม่ได้มากันทั้งหมด มาก็แค่อันดับหกเสินกงชางและอันดับเจ็ดหลาวยิง!

ลำดับที่หนึ่งถึงห้าไม่ได้เข้าร่วม

แต่พอคิดอย่างรอบคอบแล้ว ผู้จัดการแข่งขันคือคนของเหลยเจ๋อ และผลประโยชน์ที่มอบให้จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กและขนาดกลางเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มที่มาจากกลุ่มที่มีอำนาจจะเข้าร่วมก็เพื่อจุดประสงค์ในการเลือกพรสวรรค์เพื่อดูดซับพลัง ผลประโยชน์ที่ได้รับจากเหลยเจ๋อให้นั้นไม่สำคัญสำหรับพวกเขาหรอก และสำหรับเจ็ดอัจฉริยะก็ไม่สำคัญเช่นกัน

เสินกงชางกับหลาวยิงมาที่นี่ ส่วนมากคือมาฝึกฝนหาประสบการณ์ให้ตัวเองเท่านั้น

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ หลายคนก็ยังมีความกังวลใจ ภายในใจภาวนาอยู่เงียบๆว่าหวังว่าอยู่บนดินแดนแห่งความเงียบและความตายนี้จะไม่ประสบพบเจอสองคนนี้ ไม่อย่างนั้นจะต้องตกรอบแน่นอน

คนมามากมาย พอคำนวนเวลาแล้ว ก็ถึงเวลาจะเริ่มการแข่งขันละ

แต่เวลานี้ จู่ๆสถานที่ไม่ไกลจากตรงนี้ก็มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมา

สายตาของหลายคนมองไป รวมถึงหลินหยางด้วย

“เหมือนเป็นทางตระกูลฉีนะ?”หลินหยางขมวดคิ้วเป็นปม อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

อ้ายหร่านจ้องมองอยู่สักพักหนึ่ง จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยน พูดว่า“แย่แล้ว เกิดเรื่องกับน้องสุ่ยเยว่แล้ว!”

พูดจบก็รีบวิ่งไปทางด้านนั้น

“เกิดเรื่อง?”

หลินหยางตะลึง รีบตามไปดู

กลับได้เห็นหลาวยิงพาคนมาบริเวณหน้าที่พักของหมู่บ้านฉีเฟิง จ้องมองฉีสุ่ยเยว่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยท่าทางสนใจ

เมื่อเห็นฉากนี้ หลินหยางก็เข้าใจได้ทันที

หลาวยิงคนนี้คือมาหาเรื่องวุ่นวายฉีสุ่ยเยว่นั่นเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา