ผู้เฒ่าห้าก็ชะงักงัน มองหลินหยางที่เดินมาด้วยความตื่นตะลึง
“พ่อหนุ่ม คุณ…คุณเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียนเหรอ?”
“มีปัญหาอะไรไหม?”หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ
ก่อนหน้านี้หลินหยางเคยประลองฝีมือกับเจี่ยนเทาแล้วที่ตระกูลอวี่ คนตระกูลอวี่ก็ต่างเห็นเป็นประจักษ์พยาน แม้ว่าเจี่ยนเทาจะเป็นมือเทพ เป็นลูกศิษย์ของเซียนเก้าชีวิต แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยาง เขาเอาเปรียบหลินหยางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ในสายตาของตระกูลอวี่ เจี่ยนเทาก็คือแพ้ในมือหลินหยางแล้ว ถ้าหลินหยางเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียน ทางด้านของตระกูลอวี่ไม่มีโอกาสชนะแน่นอน
แต่เจี่ยนเทากลับหัวเราะเสียงดังลั่น“โลกกลมจริงๆ! คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นตัวแทนของสำนักชิงเซวียน! เมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็สามารถแบ่งระดับกันได้แล้ว!”
“แบ่งระดับได้เหรอ? ยังไง? ครั้งก่อนยังแบ่งไม่ชัดเจน?”หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ
“ครั้งก่อนผมแค่เตรียมตัวไม่ดี ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน! ผมรายงานเรื่องของคุณกับท่านอาจารย์แล้ว ท่านอาจารย์มอบโชคอันยิ่งใหญ่ให้ผม!คุณเอาอดีตมาเปรียบเทียบไม่ได้แล้ว ฆ่าคุณนะเหรอ? ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”เจี่ยนเทาจ้องหลินหยาง หัวเราะอย่างเยือกเย็น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
“พูดไม่เลว! คุณหลิน ตระกูลอวี่ของพวกเรามีทางเลือกที่ดี! ไม่ได้เลือกคุณ คุณก็อย่าโกรธเลย ความจริงพวกเราก็ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับคุณ ถ้าคุณตกลงที่จะละทิ้งการแข่งขันนี้ แสดงให้เห็นว่าคุณจะไม่ยุ่งเรื่องตระกูลอวี่ เช่นนั้นตระกูลอวี่จะตกลงเป็นเพื่อนกับคุณ คุณคิดว่ายังไง?”ผู้เฒ่าห้ามองไปทางหลินหยางและพูดอย่างราบเรียบ
หลินหยางส่ายหน้าพูดขึ้นว่า“ผมจะรอคุณที่การแข่งขันรอบแรก”
“คุณว่าอะไรนะ?”ผู้เฒ่าห้าขมวดคิ้วเป็นปม
“เชอะ ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเรามาดูกัน!”เจี่ยนเทาหงุดหงิด จ้องมองหลินหยางด้วยความเหี้ยมโหด ถ้าสายตาสามารถกินคนได้ เกรงว่าแม้แต่กระดูกของหลินหยางก็ไม่เหลือแล้ว
“ที่นี่คือดินแดนสุเมรุ พวกผมไม่สะดวกลงมือ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามหาว ยุแหย่ตระกูลอวี่ได้! คุณหลิน ผมให้โอกาสคุณ คุณไม่รักษาไว้ อย่ามาเสียใจภายหลังละกัน!”ผู้เฒ่าห้าตระกูลอวี่พูดขึ้นอย่างเย็นชา
“ผมเวลาทำอะไร ไม่เคยเสียใจภายหลัง”
“ดี!! คุณหลิน คุณพูดเองนะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ปมยากจะแก้แล้ว!”ผู้เฒ่าห้าหัวเราะ พยักหน้าจ้องมองผู้นำสำนักชิงเซวียน”จ้าวเจียงอั้น คุณก็อย่าคิดว่าจะหนีได้ รอจัดการคนบ้าคลั่งเหล่านี้เสร็จ การแข่งขันจบ ก็ถึงตอนที่ตระกูลอวี่ไปคิดบัญชีกับคุณแล้ว!”
พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อออกไป
นัยน์ตาอ้ายหร่านซับซ้อน เป็นเวลานานถึงได้ทอดถอนใจออกมา
“เด็กน้อย ไม่ต้องคิดมาก อดทนไว้ สักวันมันก็จะผ่านไปด้วยดี”ผู้นำสำนักชิงเซวียนพูดปลอบโยน
“อาจารย์ ครั้งนี้กลัวว่าจะต้องทำให้สำนักชิงเซวียนกับคุณหลินหยางลำบากแล้ว”อ้ายหร่านพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“สำนักชิงเซวียนของพวกเราไม่เป็นไร แต่คุณหลิน…..จะต้องระวังมากๆนะครับ ถ้าเขาพูดว่าจะตอบโต้คุณหลิน เกรงว่า….”สำนักชิงเซวียนพูดแล้วก็หยุด
หลินหยางยิ้มจางๆ พูดว่า“ทุกท่านไม่ต้องห่วง แค่เจี่ยนเทากระจอกจิ๊บจ๊อย ผมไม่เห็นในสายตาหรอก”
“คุณหลิน ระวังหน่อยก็ดีนะคะ”อ้ายหร่านรีบพูดขึ้น
หลินหยางยิ้มๆ
เวลานี้ มีเสียงตื่นตะลึงดังมา
“คนของตระกูลเสินกงมาแล้ว!”
เสียงนี้ดึงดูดสายตาของทุกคน
หลินหยางเองก็อดไม่ได้ที่จะมองไป
เขาเห็นเพียงด้านนอกดินแดนสุเมรุมีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาท่าทางองอาจ
กองกำลังอึกทึกครึกโครมเข้ามา แถมยังแบกเกี้ยวมาด้วย บริเวณหน้าต่าง สามารถมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านใน
“เป็นผู้ชายอะไรนั่งเกี้ยวมา”
“ทำอะไรกันเนี่ย? ส่งตัวออกเรือนเหรอ?”
คนสำนักชิงเซวียนอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำขึ้นมา
แต่ผู้นำสำนักชิงเซวียนสีหน้าเปลี่ยน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“พวกคุณเงียบๆ อย่าพูดซี้ซั้ว!ระวังจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้!”
พอพูดคำนี้ออกมา ทุกคนต่างตกใจ
“อาจารย์ คนผู้นี้….มีความเป็นมายังไงครับ?”หนานเฟิงถามอย่างระมัดระวัง
การแข่งขันนี้ครอบคลุมทั่วดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน ตระกูลดังเลยมากันเยอะ
แต่สิ่งที่ทำให้คนแปลกใจคือเจ็ดอัจฉริยะดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ไม่ได้มากันทั้งหมด มาก็แค่อันดับหกเสินกงชางและอันดับเจ็ดหลาวยิง!
ลำดับที่หนึ่งถึงห้าไม่ได้เข้าร่วม
แต่พอคิดอย่างรอบคอบแล้ว ผู้จัดการแข่งขันคือคนของเหลยเจ๋อ และผลประโยชน์ที่มอบให้จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กและขนาดกลางเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มที่มาจากกลุ่มที่มีอำนาจจะเข้าร่วมก็เพื่อจุดประสงค์ในการเลือกพรสวรรค์เพื่อดูดซับพลัง ผลประโยชน์ที่ได้รับจากเหลยเจ๋อให้นั้นไม่สำคัญสำหรับพวกเขาหรอก และสำหรับเจ็ดอัจฉริยะก็ไม่สำคัญเช่นกัน
เสินกงชางกับหลาวยิงมาที่นี่ ส่วนมากคือมาฝึกฝนหาประสบการณ์ให้ตัวเองเท่านั้น
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ หลายคนก็ยังมีความกังวลใจ ภายในใจภาวนาอยู่เงียบๆว่าหวังว่าอยู่บนดินแดนแห่งความเงียบและความตายนี้จะไม่ประสบพบเจอสองคนนี้ ไม่อย่างนั้นจะต้องตกรอบแน่นอน
คนมามากมาย พอคำนวนเวลาแล้ว ก็ถึงเวลาจะเริ่มการแข่งขันละ
แต่เวลานี้ จู่ๆสถานที่ไม่ไกลจากตรงนี้ก็มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมา
สายตาของหลายคนมองไป รวมถึงหลินหยางด้วย
“เหมือนเป็นทางตระกูลฉีนะ?”หลินหยางขมวดคิ้วเป็นปม อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
อ้ายหร่านจ้องมองอยู่สักพักหนึ่ง จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยน พูดว่า“แย่แล้ว เกิดเรื่องกับน้องสุ่ยเยว่แล้ว!”
พูดจบก็รีบวิ่งไปทางด้านนั้น
“เกิดเรื่อง?”
หลินหยางตะลึง รีบตามไปดู
กลับได้เห็นหลาวยิงพาคนมาบริเวณหน้าที่พักของหมู่บ้านฉีเฟิง จ้องมองฉีสุ่ยเยว่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยท่าทางสนใจ
เมื่อเห็นฉากนี้ หลินหยางก็เข้าใจได้ทันที
หลาวยิงคนนี้คือมาหาเรื่องวุ่นวายฉีสุ่ยเยว่นั่นเอง!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...