สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2702

คำพูดของหลินหยาง ทำให้ทุกคนในสนามเงียบลงทันที

ผู้คนต่างตะลึงงันและจ้องมองไปยังหลินหยางที่อยู่เวทีประลองข้างๆ ทุกคนต่างตะลึงอ้าปากค้างจนทำตัวไม่ถูก แถมยังคิดอีกด้วยว่าตัวเองได้ยินผิดไป

“เจ้าเด็กน้อย คำพูดเมื่อครู่นี้ แกเป็นคนพูดอย่างนั้นหรือ?”

เหวยหว่อมิ่งกลับไม่ได้รู้สึกตกใจกลัวแต่อย่างไร แถมยังจ้องมองหลินหยางด้วยท่าทีเฉยเมย และเอ่ยปากถาม

“ฉันพูดเองแหละ”

“หมายความว่า แกกำลังดูถูกฉันอย่างนั้นหรือ?” เหวยหว่อมิ่งพูดอย่างเรียบเฉย

“สิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง”

“เรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?”

“หรือว่าไม่ใช่หล่ะ? บุคคลผู้นี้สูญเสียพละกำลังในการต่อสู้ เดิมทีก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับเธอได้อยู่แล้ว แต่เธอกลับลงมือสังหารเขาอย่างโหดเหี้ยม หรือว่าเธอต้องการรีบขจัดหายนะที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้เร็วที่สุดกันแน่” หลินหยางตอบ

“หายนะในภายภาคหน้าอย่างนั้นหรือ?”

“แน่นอน ฉันรู้จักกับฉู่ชิว และเคยประลองกันมาก่อน พละกำลังของเขาคงไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ฉันคิดว่ามันต้องมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถแสดงพละกำลังจริงๆออกมาได้อย่างเต็มที่ ถ้าเป็นเช่นนั้นหล่ะก็ เรื่องที่เขาจะฆ่าเธอ มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!” หลินหยางพูด

เมื่อคำพูดนี้ออกจากปากมา คนของวิหารหยุนเซียวซานก็ตกใจไปตามๆ กัน

สำนักชิงเสวียน อ้ายหร่าน รวมถึงคนของหุบเขาฉีเฟิงต่างรู้สึกงุนงงกันไปเป็นแถว เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่เหวยหว่อมิ่งกลับเข้าใจอย่างถ่องแท้ เขาจ้องมองไปยังหลินหยางและจู่ๆ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้น “ไอ้เด็กน้อย แกคิดว่าฉันไม่รู้หรือว่าแกกำลังให้ความสนใจกับอะไรอยู่? แกแค่ใช้วิธียั่วยุกระตุ้นไม่ให้ฉันฆ่าเขาก็เท่านั้นเอง!นี่มันแค่ลูกไม้ตื้นๆ คิดว่าฉันรู้ไม่ทันหรือไง? ”

“ฉันบอกแล้วนะ ว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง พละกำลังของฉันกับฉู่ชิวพอๆ กัน และพวกเรารู้จักกันมานานแล้วด้วย มีหรือที่ฉันจะไม่รู้ความสามารถของเขา? ไม่ต้องถึงขั้นเขาหรอก อันที่จริงแล้วแม้แต่ฉัน เธอยังเอาชนะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” หลินหยางพูดอย่างเรียบเฉย

“เหอะ! คำพูดรุนแรงดีจัง! ถ้าเช่นนั้น ฉันจะเชื่อคำยั่วยุของเธอก็แล้วกัน ฉันจะไม่ฆ่าเขา แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่รอดอยู่ดี! ส่วนแก ในเมื่อแกพูดออกมาเองว่าแม้แต่ฉัน แกเองก็สามารถจัดการได้อย่างสบายๆ ถ้างั้นในยกต่อไป แกก็คงจะจัดการได้อย่างง่ายดายเลยสินะ? ฉันจะไปรอแกในสนามที่สาม! หวังว่าความสามารถของแกจะเก่งเหมือนอย่างที่ปากว่ามาหล่ะ!” เหวยหว่อมิ่งกล่าวจากนั้นก็คลายมือออก

ร่างของฉู่ชิวอ่อนปวกเปียกและทรุดลงไปอยู่กับพื้นทันที

จากนั้นเขาก็หมดสติไป

เมื่อกรรมการผู้ตัดสินเห็นสถานการณ์เช่นนั้นแล้ว จึงรีบตะโกนขึ้นว่า “การแข่งขันในสนามที่สองจบลงแล้ว ผู้ที่ได้รับชัยชนะก็คือ เหวยหว่อมิ่ง!”

อย่างไรก็ตาม ผู้คนในสนามราวกับไม่ได้ยินเสียงของกรรมการผู้ตัดสิน ทุกคนต่างถลึงตาจ้องมองไปยังหลินหยาง

น่าทึ่งเกินไปแล้ว!

ทุกคนต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

เหวยหว่อมิ่งเกือบจะฆ่าฉู่ชิวได้อยู่แล้วเชียว แต่กลับถูกคนไม่กลัวตาย กล้ามากระตุกหนวดเสือเชียวหรือนี้?

“เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงช่างกล้าดีไม่กลัวตายเช่นนี้?”

“เธอไม่รู้จักเขาหรือ? ตัวแทนของสำนักชิงเสวียน เป็นคนนอก ก่อนหน้านี้ในการแข่งขันอวี่เจวี๋ย เขาโชคดีที่เอาชนะหลาวยิงที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมสู้ไปได้!”

คนของวิหารหยุนเซียวซานนำเอาปลาสเตอร์ยาที่ดีที่สุดมาด้วย ท่านอาวุโสหลายท่านต่างช่วยกันลงมือฝังเข็ม เพื่อยื้อลมหายใจสุดท้ายของฉู่ชิว

จากนั้นไม่นาน ท่านอาวุโสก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ลมปราณนี้มัน....จบแล้ว! นี้คือพลังปีศาจชั่วร้าย! เป็นพลังปีศาจอันชั่วร้าย!”

“อะไรนะ?”

ทุกคนต่างตกใจกลัวจนหน้าถอดสี

เมื่อผู้นำหมู่บ้านยวินเสี้ยวได้ยินดังนั้น เขาก็รีบผลักคนข้างๆ และเข้ามาตรวจอาการของลูกชายด้วยตัวเอง

ไม่นานนัก เขาก็ขาอ่อนนั่งพับลงไปกับพื้น สีหน้าซึมกะทือ แววตาไร้ความรู้สึก ปากบ่นพึมพำไม่หยุด “เป็นไปได้ยังไง...มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”

“มิน่าหล่ะเหวยหว่อมิ่งถึงได้บอกว่านายน้อยหมู่บ้านหมดทางรักษาแล้ว อันที่จริงทุกฝีเข็มของเขาล้วนมีแต่พลังปีศาจอันชั่วร้าย หากไม่กำจัดพลังปีศาจอันชั่วร้ายนั้นหล่ะก็ ต่อให้มีเข็มเงินหรือยาใดๆ ของพวกเราก็ตาม แต่นั่นก็ไม่สามารถออกฤทธิ์บนร่างของนายน้อยหมู่บ้านได้ อาการบาดเจ็บของเขาจะไม่มีทางดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย”

“อาการของนายน้อยหมู่บ้าน จะคุมไว้ได้อีกนานเท่าไร?”

คนของวิหารหยุนเซียวซานต่างพากันร้องไห้ระงม พวกเขาต่างรู้สึกเป็นกังวลและรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ

“ผู้นำหมู่บ้าน พวกเราไปขอให้เหวยหว่อมิ่ง ช่วยกำจัดพลังปีศาจอันชั่วร้ายในตัวของนายน้อยหมู่บ้านกันเถอะ….” ชาวบ้านคนหนึ่งรีบเอ่ยปากขึ้น

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย พูดไปแล้วเหวยหว่อมิ่งจะสนใจฉันหรือไง? ต่อให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าเขา เขาก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยหรอก ในสายตาของเขา พวกเราเป็นแค่กลุ่มคนที่ยังมีค่าไม่เท่ากับมดเลยด้วยซ้ำ เขาไม่เหลียวตามองพวกเราหรอก” ผู้นำหมู่บ้านยวินเสี้ยวพูดเสียงแหบแห้ง สองมือกำหมัดแน่น และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ

“ช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้วหล่ะ! ไอ้เด็กน้อย ฉันจะไปรอแกในสนามที่สาม ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนนะว่า อย่าคิดที่จะสละสิทธิ์ เพราะต่อให้แกสละสิทธิ์ ออกจากการแข่งขันและไปจากดินแดนสุเมรุ ยังไงซะฉันก็ต้องตามล่าคิดบัญชีกับแกอยู่ดี สำหรับคำพูดของแกที่ดูถูกเหยียดหยามฉันเมื่อครู่นี้ ฉันรับรองได้เลยว่า แกได้ตายอย่างอนาถมากกว่าฉู่ชิวแน่นอน” เหวยหว่อมิ่งพูดจาเย้ยหยัน จากนั้นก็หันหลังและเดินขึ้นเวทีไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา