คนคนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงใจกล้าและเสียมารยาทแบบนี้?
ผู้คนส่วนใหญ่คิดในใจ
แต่หลินหยางไม่สนใจบรรยากาศที่แปลกประหลาดโดยรอบ เขาพูดขึ้นอีกครั้ง
“มีใครช่วยบอกผมได้หรือเปล่าว่าตกลง…เจ้าลัทธิฉงจงเป็นใคร!”
เหวินโม่ซินดื่มเหล้าที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองหมดแก้ว หลังจากนั้นลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์อย่างเชื่องช้า
“คุณมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
เหวินโม่ซินพูด ทำให้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงเหมือนถูกแช่แข็งทันที
ทุกคนมองไปทางชายหนุ่มคนนั้นพร้อมกัน บนใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าคนคนนี้โผล่ออกมาจากไหน แต่เขากล้ามาก่อกวนงานแต่งของลูกชายเจ้าลัทธิฉงจง ไม่ว่ายังไงจุดจบของเขาต้องไม่สวยแน่นอน
ส่วนฮั่วเจี้ยนกั๋วที่อยู่ด้านข้างทำหน้าตกตะลึง
“ไอ้หมอนี่กลับมาอีกแล้ว?” ซีหลิวเซียงพูดด้วยความประหลาดใจ
“นี่เขาบ้าไปแล้วเหรอ? ถึงขั้นก็มาก่อกวนที่นี่เลยเหรอ?” คนที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยเช่นกัน
“ฮ่าฮ่า หมอนี่น่าสนใจใช้ได้ แค่ก่อนเรื่องในสำนักฉางหวู่ก็มากพอแล้ว ตอนนี้ถึงขั้นกล้ามาทำเรื่องแบบนี้ในลัทธิฉงจง! น่าสนใจ! น่าสนใจ! พ่อ คราวนี้จะออกหน้าไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสำนักฉางหวู่ของเราต้องงานเข้าแน่นอน!” บนใบหน้าของฮั่วอ้าวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขามองไปทางหลินหยางด้วยสายตาที่ติดตลก
“ออกหน้า? ฮึ่ม เรื่องแบบนี้ฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปออก? อย่าว่าแต่ฉันไม่สนใจเลย ถึงเขามาขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์ มันรนหาที่ตายเองจะโทษใครได้!” ฮั่วเจี้ยนกั๋วพูด
คำพูดของฮั่วอ้าวมันเป็นแค่ส่วนเกินเท่านั้น
เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อกี้ขึ้น ฮั่วเจี้ยนกั๋วก็ไม่มีทางไปสนใจหลินหยางอีกแล้ว
อย่างไรก็ตามในมุมมองของเขา หลินหยางและเฟิงเลี่ยเป็นพวกเดียวกัน เฟิงเลี่ยเป็นศัตรูของเขาในสำนักฉางหวู่ พฤติกรรมของหลินหยางเกือบจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นกบฏ
ส่วนเฟิงเลี่ยยืนตกตะลึงอยู่ตรงที่เดิม
เขารู้สถานะของหลินหยาง
คนคนนี้คือหมอเทวดาหลินที่มีชื่อเสียงของเมืองเจียงเฉิน
เขาคิดว่าหลินหยางจะมาคุยกับลัทธิฉงจงเรื่องของเพื่อนเขาในฐานะหมอเทวดาหลิน และช่วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับตัวเอง ถึงแม้หมอเทวดาหลินและลัทธิฉงจงจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่ด้วยชื่อเสียงและทักษะการแพทย์ของหมอเทวดาหลิน ไม่มีทางที่ลัทธิฉงจงจะไม่ไว้หน้าเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน
แต่สิ่งที่เฟิงเลี่ยคิดไม่ถึงก็คือหลินหยางจะบุกเข้ามาทั้งแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังท้าทายเจ้าลัทธิฉงจงโดยตรง!
หมอนี่…คงจะไม่ได้เป็นพวกบ้าบิ่นหรอกมั้ง?
ปรมาจารย์เฟิงเลี่ยครุ่นคิดพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว
แต่คนบ้าก็ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้…
ลูกศิษย์ของลัทธิฉงจงที่อยู่โดยรอบก้าวออกมาด้วยความโกรธ มีคนคิดจะเข้ามาสั่งสอนคนไร้มารยาทคนนี้โดยตรง แต่โดนเหวินโม่ซินห้ามเอาไว้
“ผมรู้สึกว่าพวกเราจะไม่รู้จักกัน?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ไม่รู้จักผมไม่เป็นไร แต่ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะรู้จักลั่วเฉียนมั้ง?” หลินหยางถามด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนถึงขีดสุด
“ลั่วเฉียน?” เหวินโม่ซินขมวดคิ้ว
“เป็นเด็กผู้หญิงที่ฉี่ซู่พากลับมา พูดให้ถูกเธอถือว่าเป็นญาติห่างๆของคุณด้วย” คนที่อยู่ด้านข้างพูดกับเหวินโม่ซินด้วยความระมัดระวัง
เหวินโม่ซินเพิ่งจะเข้าใจ
เพียงแต่ว่าสำหรับญาติห่างๆพวกนี้เขาไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจ
“ลั่วเฉียนทำไม?” เหวินโม่ซินถามอีกครั้ง
อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นมีความอดทนสูง แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาจำเป็นต้องแสดงท่าทีของความใจกว้างออกมา
กลับเห็นหลินหยางสองมือไขว้หลัง มองมาทางเหวินโม่ซินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ลั่วเฉียนเป็นเพื่อนของผม เมื่อกี้ผมพึ่งเห็นเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉี่ซู่อยู่ไหน? ผมน่าจะเคยพูดกับเธอเอาไว้แล้ว ผมจะมารับเธอที่ลัทธิฉงจง ทำไม? พวกคุณไม่ได้รับข่าวเรื่องนี้เหรอ?”
คำพูดประโยคนี้ไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว
มีผู้คนไม่น้อยที่สุดอากาศที่เย็นวูบเข้าปอด
คนคนนี้คิดจะทำอะไร?
สงสัยในตัวของเหวินโม่ซิน?
ตกลงเขาคิดจะทำอะไรกันแน่? ในหัวมีแต่ขี้หรือยังไง?
ทุกคนถึงกับเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแทนหลินหยาง
เหวินโม่ซินกรอกตาไปมาด้วยความสงสัย หลังจากนั้นหันไปพูดกับเหวินไห่ที่อยู่ด้านข้าง “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“ไม่เคยได้ยิน” เหวินไห่ส่ายหัว
อันที่จริงเหวินไห่รู้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้
“แบบนี้นี่เอง คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?” เหวินโม่ซินมองไปทางหลินหยาง บนใบหน้าปรากฏให้เห็นถึงความเคร่งขรึม “ถ้าหากคุณมาเพื่อดื่มเหล้ามงคลเชิญนั่งได้เลย วันนี้เป็นวันมงคลของลูกชายผม ผมไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ แต่ถ้าคุณไม่ได้มาเพื่อดื่มเหล้ามงคล ประตูอยู่ทางนั้น ถ้าคุณออกไปด้วยตัวเอง ผมจะไม่ถือสาเรื่องนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...