“ลูกพ่อ เรื่องนี้มันสำคัญมาก…ในมือของผู้จัดการจูคนนี้มีโครงการอยู่โครงการหนึ่ง และมันบังเอิญเป็นโครงการที่ที่ทำงานของพ่อต้องการ หัวหน้าเคยพูด ถ้าหากใครสามารถเอาโครงการนี้มาได้ ตำแหน่งผู้อำนวยการคนต่อไปก็จะเป็นของคนคนนั้น ลูกพ่อ พ่อทำงานเป็นลูกน้อยของคนอื่นมาทั้งชีวิตแล้ว มาจนถึงขั้นนี้แล้วลูกไม่คิดจะช่วยพ่อจริงเหรอ?” ซูกวงพูดอ้อนวอนขอร้อง
เดิมทีซูเหยียนก็รู้สึกโกรธ แต่หลังจากเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของพ่อตัวเอง ลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายกัดฟันแน่นแล้วพูดเสียงเบา “แค่กินข้าวอย่างเดียวใช่หรือเปล่า?”
“ใช่…”
“แต่หนูไปคนเดียวไม่สะดวก หรือไม่เรียกแม่หรือพ่อตามหนูไปด้วย?”
“ผู้จัดการจูสั่งให้พวกเราไปทำงาน พวกเราไปกับเธอไม่ได้…”
“แล้วจะทำยังไงดี…” ซูเหยียนขมวดคิ้ว
“ผมไปกับคุณก็แล้วกัน”
ในตอนนั้นเองประตูห้องถูกเปิดออก หลินหยางเดินออกมา
รถเก๋งสีแดงคันหนึ่งขับเข้าไปจอดในลานจอดรถของโรงแรมหนานชิง
หลินหยางลงจากรถเตรียมไปเอาไม้เท้าให้ซูเหยียน
ซูเหยียนต้องใช้ไม้เท้าค้ำในการช่วยประคองตัวเองเดิน ท่าทางของเธอดูไม่ถนัดเท่าไหร่
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาสังเกตเห็นใบหน้าที่สวยงามของซูเหยียนและผ้าพันแผลบนร่างกายแล้วรู้สึกปวดใจแทน
“ทำไมถึงมีแผลเต็มตัวบนตัวของผู้หญิงที่สวยขนาดนี้”
“คงไม่ได้โดนสามีของเธอทำร้ายหรอกมั้ง?”
“สมกับคำว่าหญิงงามมักมีหายนะตามมา!”
ผู้คนที่เดินผ่านพากันพูดกระซิบ
ซูเหยียนก้มหน้าลงทำเป็นไม่ได้ยินมองไม่เห็น
หลินหยางที่ช่วยประคองอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วแน่น
ผู้จัดการจูโครงการของหยางหัวกรุ๊ป?
อยู่ดีๆเขาเชิญซูเหยียนมากินข้าวทำไม?
ตอนนี้คนทั้งเมืองเจียงเฉินต่างก็รู้ว่าหมอเทวดาหลินสนใจซูเหยียน เขามาเชิญซูเหยียนกินข้าวแบบนี้ ไม่เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับเจ้านายตัวเองเหรอ รนหาที่ตาย?
เดิมทีหลินหยางที่จะโทรศัพท์ถามหม่าไห่ แต่หลังจากที่ครุ่นคิดสุดท้ายก็ไม่ได้โทร
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเจอผู้จัดการจู และไม่รู้ว่าตกลงเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ยิ่งไปกว่านั้น หลินหยางรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง
เกรงว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนของตระกูลหลิน
อย่างไรก็ตามตามกฎของตระกูลหลิน ตั้งแต่วินาทีที่คนคนนั้นเก็บบุหรี่ การลงโทษหลินหยางมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
การแก้แค้นของตระกูลหลินมันไม่ได้ง่ายแค่การตัดมือตัดแขนหรือกระทืบก็จบ ที่ผ่านมาการแก้แค้นของพวกเขามีเพียงอย่างเดียว
ทำให้อีกฝ่ายสูญเสียทุกอย่างและชีวิตพังทลาย!
จากร่างกายสู่จิตวิญญาณ!
เขาเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น
ซูเหยียนและหลินหยางเข้าไปในโรงแรม ผู้จัดการแผนกต้อนรับสังเกตเห็นทันที
“คุณซูเชิญทางนี้ คุณจูกำลังรอคุณอยู่ในห้องวัไอพีโกลด์”
“ได้”
ซูเหยียนพยักหน้า เดินไปพร้อมกับไม้เท้า
ห้องวีไอพีของโรงแรมหนานชิงแบ่งออกเป็นสามระดับ ห้องระดับทั่วไป ห้องระดับซิลเวอร์ ห้องระดับโกลด์
ส่วนห้องระดับโกลด์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่ใครก็สามารถจองได้ ว่ากันว่าถ้าไม่มีเงินหลักสิบล้านขึ้นไปไม่สามารถจองได้ ถึงจะสามารถจองได้ แต่ก็ต้องจองล่วงหน้าก่อนหนึ่งเดือน
ทำไมผู้จัดการจูคนนี้ถึงมีกำลังพอที่จะเปิดห้องแบบนี้?
เขาเป็นแค่ผู้จัดการที่ดูแลโครงการของบริษัท!
หลินหยางรู้สึกสงสัยและพอจะคาดเดาอะไรได้บ้างแล้ว
แคระ
บริกรที่ยืนอยู่ข้างประตูเปิดประตู
ทันใดนั้นมีเสียงที่แสบแก้วหูดังออกมาจากด้านใน
ภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองที่ริบหรี่
ซูเหยียนอ้าปากค้าง มองภาพบรรยากาศภายในห้องด้วยความประหลาดใจ
ห้องนี้ไม่สามารถบรรยายด้วยคำว่าหรูหราและสวยงาม ราวกับว่ามันเป็นห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมหาเศรษฐีใช้โดยเฉพาะ
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารต่างๆล้วนแต่เป็นสีเหลืองทอง ตั้งแต่พรมไปจนถึงโคมไฟ ล้วนเป็นงานแฮนด์เมดโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์จากต่างประเทศ ของพวกนี้ล้วนแต่สั่งทำพิเศษ ของทุกอย่างดูสวยงามมาก โดยรวมของทั้งห้องพูดได้เพียงคำเดียว อลังการ!
บางทีอาจจะเป็นเพราะซูเหยียนเพิ่งจะเคยเจอของแบบนี้ครั้งแรก เธออดไม่ได้ที่จะหันมองซ้ายมองขวา
ในขณะเดียวกัน ชายหัวล้านที่สวมแว่นตาและร่างอวบเล็กน้อยถัดจากโต๊ะกลมสีทองลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
“โอ้ คุณคงจะเป็นคุณซูใช่หรือเปล่า? มามามา คุณซู ขาของคุณไม่สะดวกเชิญนั่งก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...