"รวมเข้ากับตำหนักพญามังกร?"
หลินหยางขมวดคิ้ว
คนอื่นที่อยู่รอบๆ ต่างตกใจ
ใครก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าตำหนักมังกรม่วงจะพูดอะไรเช่นนี้ออกมา
"เจ้าตำหนัก คุณมาที่นี่เป็นครั้งแรกใช่ไหม? ผมกับคุณก็เพิ่งจะเจอกันครั้งแรก! แถมยังไม่รู้จักกันดี ทำไมจู่ๆ คุณถึงต้องการให้หยางหัวรวมเข้ากันกับพวกคุณ?"
หลินหยางมองไปที่เธอและกล่าวออกมา "อีกอย่างผมก็ไม่เห็นว่าคุณจะให้ความสำคัญกับหยางหัวสักเท่าไร รวมเข้าด้วยกันก็น่าจะมีเหตุผลสักหน่อยไหม?"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงพยักหน้า "คุณพูดถูก อันที่จริงฉันก็ไม่ได้สนใจหยางหัวเท่าไรนักหรอก แม้ว่าฉันจะมาที่นี่ครั้งแรกและไม่รู้จักอะไรพวกคุณดีเท่าไรนัก อีกอย่างพวกคุณก็เป็นกลุ่มอำนาจทั่วไปของอาณาจักรมังกรเท่านั้น ตามหลักแล้วกลับไม่มีคุณสมบัติอะไรในการรวมเข้ากับตำหนักพญามังกรของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว"
คนของหยางหัวที่อยู่ข้างหลังได้ยินเข้าก็ต่างพากันโมโห
หลินหยางยิ้มอย่างเย็นชา "งั้นทำไมถึงยังเชิญเรารวมเข้ากับพวกคุณอีก?"
"เพราะคนของหมัวหลัวเทียนคอยจ้องจะจัดการพวกคุณอยู่!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงกล่าว "ฉันได้ยินมาว่าทักษะการแพทย์ของคุณไม่ธรรมดาและน่าทึ่ง หยางหัวเองก็เป็นกลุ่มบริษัทที่มีอำนาจและความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางการต่อสู้ แม้ว่าคุณสมบัติจะไม่เพียงพอที่จะรวมเข้ากับตำหนักพญามังกรของเราได้ แต่เราก็เป็นศัตรูกับหมัวหลัวเทียนมาโดยตลอด สิ่งที่พวกเขาต้องการ เราไม่มีทางยอมให้พวกเขาแน่นอน ฉะนั้นฉันจึงต้องการให้คุณรวมเข้ากันกับตำหนักพญามังกร! เข้าใจไหม?"
คำพูดนี้ฟังแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธมาก
ผู้คนของหยางหัวต่างรู้สึกโมโหจนควันออกหู
หากหลินหยางไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ พวกเขาคงตะโกนด่าทอเธอไปนานแล้ว
"ท่านแม่....ทักษะการแพทย์ของหมอเทวดาหลินนั้นสูงส่งอย่างมาก!"
โจวสืออวิ้นเห็นว่าบรรยากาศแย่ลง จึงได้รีบกระซิบเรียก
"จริงด้วยเจ้าตำหนัก ทักษะการแพทย์ของหยางหัวนั้นไม่ธรรมดา ผมคิดว่าอาจเทียบได้กับคนของตำหนักชิงหลงได้เลยล่ะ!"
จื่ออ้ายเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
"บังอาจ!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงตบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับจับจ้องไปที่จื่ออ้ายด้วยความโกรธ "อ้ายเอ๋อร์! หยุดพูดจาเหลวไหลเดี๋ยวนี้!"
"เจ้าตำหนัก...ผมพูดความจริง!" จื่ออ้ายกล่าวออกไปด้วยดวงตาแดงก่ำ
"ไร้สาระที่สุด! ฉันจะบอกอะไรให้ ถ้าคนของตำหนักชิงหลงได้ยินคำพูดนี้ละก็ แม้แต่ฉันก็ปกป้องไม่ได้! ระวังปากไว้ซะด้วยและอย่าพูดอะไรแบบนี้ออกมาอีก!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงตะโกนด่าทอ
จื่ออ้ายทำได้เพียงก้มหน้าลงและถอยกลับไปยืนเช็ดน้ำตา
โจวโม่และคนอื่นๆ ต่างก็ไม่กล้าพูดอะไร
"หมอเทวดาหลิน ฉันพูดไปหมดแล้ว คุณรีบออกคำสั่งไปตอนนี้เลยให้ทุกคนจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วนับจำนวนคนให้ฉันด้วยล่ะ!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงคิดว่าหลินหยางไม่มีทางปฏิเสธ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน
คิดไปแล้วก็ถูก มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการรวมเข้ากับตำหนักพญามังกร ทว่ากลับไม่มีหนทาง และวันนี้เจ้าตำหนักมังกรม่วงก็เป็นคนออกหน้ามาเชิญหลินหยางด้วยตัวเอง เช่นนี้แล้วจะปฏิเสธได้ยังไง?
สีหน้าของเธอเรียบเฉยและแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"อ้อใช่ คนที่เข้าร่วมกับตำหนักพญามังกรของฉันจะต้องเป็นสมาชิกคนสำคัญของหยางหัวเท่านั้น ใครที่ไม่ใช่ก็ไม่ต้องเลือกเข้ามา ตำหนักพญามังกรของเราไม่รับขยะไร้ค่า!"
เมื่อพูดจบ เจ้าตำหนักมังกรม่วงก็หันหลังเดินไปที่ประตู เสมือนกับไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้แล้ว
"ช้าก่อน!"
หลินหยางตะโกนเรียก
"หากมีข้อสงสัยอะไรก็พูดกับโจวโม่ได้เลย เวลาของฉันมีค่า ฉันไม่อยากเสียเวลากับคุณมากไปกว่านี้แล้ว!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงเดินก้าวเท้าออกไปโดยไม่หยุด
หลินหยางส่ายหน้า "ผมจะพูดอะไรกับเขา? ผมไม่ได้ตกลงว่าจะรวมเข้ากับตำหนักพญามังกรของพวกคุณเสียหน่อย"
ฝีเท้าของเจ้าตำหนักมังกรม่วงหยุดชะงักพร้อมกับหันกลับมาทันทีด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
"คุณว่ายังไงนะ?"
"ผมบอกว่า...ผมขอปฏิเสธที่จะรวมเข้ากับตำหนักพญามังกร!"
หลินหยางกล่าว
ทันใดนั้นเอง ภายในห้องรับรองก็เงียบกริบ
สีหน้าของเจ้าตำหนักมังกรม่วงแข็งทื่อเล็กน้อย เธอมองไปที่หลินหยางอย่างเหม่อลอยอยู่นาน
เธอคงคิดไม่ถึงว่าทำไมถึงมีคนกล้าปฏิเสธโอกาสดีๆ ที่ตำหนักพญามังกรหยิบยื่นให้เช่นนี้...
"คุณ..."
จื่อหลงอีเองก็รีบกล่าวออกมา
เจ้าตำหนักมังกรม่วงคลายมือออกจากคอของหลินหยางภายใต้การพยายามเกลี้ยกล่อมของทุกคน
หลินหยางยังคงจับจ้องไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
เจ้าตำหนักมังกรม่วงกล่าวอย่างเย็นชา "พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบ งั้นก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน! เรื่องนี้จะไม่จบลงเพราะการร้องขอของพวกนายหรอกนะ! ฉันจะให้เวลาคุณลองพิจารณาสามวัน! สามวันหลังจากนี้หากคุณไม่เข้าร่วม งั้นพวกคุณก็รอวันแตกซ่านของหยางหัวได้เลย! ไม่งั้นก็อย่าโทษว่าฉันใจร้ายแล้วกัน!"
เมื่อพูดจบก็เดินจากไปด้วยความโมโห
"ท่านแม่!"
"เจ้าตำหนัก!"
โจวโม่และคนอื่นๆ ต่างวิ่งตามไป
หลินหยางคอยมองออกไป
"ไร้กฎระเบียบที่สุด! ป่าเถื่อนมาก!"
"ประธานหลิน! เราอย่าไปสนใจพวกเขาเลย! ผู้หญิงคนนั้นต้องเสียสติแน่ๆ!"
ชวี่เทียนและคนอื่นๆ ต่างด่าทอและต่างระบายความโกรธออกมา
"ดูเหมือนว่าตำหนักมังกรม่วงไม่มีใครปกติเลยสักคน! อย่าไปสนใจเลย แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว!"
หลินหยางถอนหายใจและกล่าวออกมา
"ครับ"
"อาจารย์ แล้วสามวันหลังจากนี้ หากผู้หญิงเสียสติคนนี้มาอีก เราจะรับมือกับเธอยังไงดี?"
ฉินไป่ซงขมวดคิ้วถาม
"ถึงตอนนั้นก็ปิดล็อกประตูให้สนิทและอย่าให้เธอเข้ามาที่นี่ได้!"
"ประตูเหล็กบานเล็กแค่นี้จะห้ามเธอได้ยังไงกัน?"
"งั้นก็ไปเอาสิ่งนี้ไปแขวนไว้ที่หน้าประตูเหล็ก!"
หลินหยางหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาและกล่าวด้วยเสียงเรียบ
ทุกคนต่างมองไปที่สิ่งนั้นด้วยความตกตะลึง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...