เข้าสู่ระบบผ่าน

สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2978

หลินหยางเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

เขารีบพุ่งออกไปและเข้าไปในห้องธุรการที่อยู่ข้างหลัง

สถานที่ตั้งของห้องธุรการที่อยู่ข้างหลังนั้นอยู่ไม่ไกลมากนัก

และห้องธุรการที่ว่านี้ก็เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อใช้จัดการอุปกรณ์เครื่องมือโดยเฉพาะ

หากต้องทำการยึดครองตำหนักเทียนเสิน ฉะนั้นยาและเครื่องมืออุปกรณ์ของแต่ละคนล้วนเป็นปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น ทำให้ทุ่งน้ำแข็งห้าทิศขอให้บรรดากลุ่มสำนักต่างๆ ที่มาเข้าร่วมจำเป็นต้องนำทรัพยากรเสบียงทั้งหมดของตัวเองมามอบให้พวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้นำมาบริหารจัดการได้อย่างสะดวก

จึงทำให้ทรัพยากรเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ถูกวางอยู่วางกองเป็นภูเขา

มากกว่าครึ่งของจำนวนทรัพยากรเครื่องมือเครื่องใช้เสบียงต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นของกลุ่มสำนักต่างๆ ที่เข้ามา

แต่เมื่อพวกมันถูกส่งมอบเข้ามายังห้องธุรการนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่มีใครได้แตะต้องของเหล่านี้อีกต่อไป และของทุกอย่างจะถูกจัดสรรโดยคนของทุ่งน้ำแข็งห้าทิศทั้งหมด

ทว่าเมื่อหลินหยางเข้าใกล้ห้องธุรการนี้ก็ดันเกิดเรื่องราวโกลาหลขึ้นมา

หนึ่งในนั้นมีเสียงฆ่าฟัน และยังมีเสียงกรีดร้องและร้องไห้โอดครวญอย่างทุกข์ทรมาน

หลินหยางตกใจและรีบวิ่งเข้าไปด้วยความเร็ว

และก็ได้เห็นคนของทุ่งน้ำแข็งห้าทิศจำนวนมากก็วิ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน

เขารีบวิ่งพุ่งเข้าไปข้างในทันที

ไม่นานสิ่งที่ทำให้เขาโมโหอย่างมากก็ปรากฏขึ้นกับตา

จากนั้นเขาก็เห็นว่าห้องธุรการนี้เละเทะไม่เป็นระเบียบ บนพื้นเต็มไปด้วยซากศพและส่วนใหญ่ก็เป็นศพของคนตระกูลอวี่

อ้ายหร่านถือดาบอยู่ในมือและร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยบาดแผล เธอยืนตัวสั่นสะท้านอยู่กับที่

และรอบตัวของพวกเขาก็เต็มไปด้วยยอดฝีมือของทุ่งน้ำแข็งห้าทิศ

ส้าวปิงหยวนที่แต่งกายด้วยชุดราคาแพงยืนถือดาบและมืออีกข้างหนึ่งก็ถือแส้กำลังเดินไปหาอ้ายหร่าน

แส้นั้นมีคราบเลือดแปดเปื้อนอยู่

"อวี่อ้ายหร่าน พูดดีๆ ด้วยไม่ชอบใช่ไหม คิดว่าฉันไม่กล้าจัดการเธอหรือไง? ฉันจะบอกให้นะ ก่อนหน้านี้ที่ฉันเกรงใจเธอ ก็เป็นเพราะกลัวจะทำให้ชื่อเสียงของสำนักเสียหาย แต่เธอกลับคอยยั่วยุฉันตลอดเวลาและไม่เคยให้เกียรติฉันเลย ฉะนั้นฉันจะไม่เกรงใจเธออีกต่อไปแล้ว!"

ไม่พูดเปล่า ส้าวปิงหยวนยกแส้ขึ้นและฟาดไปที่อ้ายหร่านอย่างโหดเหี้ยม

วอี่อ้ายหร่านสูดหายใจเข้าและรีบยกดาบขึ้นป้องกัน

แต่เมื่อเธอยกดาบขึ้นมาก็ถูกยอดฝีมือที่อยู่ข้างๆ ใช้พลังปราณเพื่อกดควบคุม ทำให้เธอไม่สามารถหลบแส้เส้นนั้นได้

"หยุดเดี๋ยวนี้!"

หลินหยางสูดหายใจเข้าและตะโกนออกไปพร้อมกับวิ่งพุ่งเข้าไปทันที

ทว่าแส้เส้นนั้นได้ฟาดเข้าไปที่ร่างกายของอ้ายหร่านแล้ว

ทันใดนั้นเอง รอยแส้ฟาดก็ขึ้นมาจนแทบเห็นกระดูกและเลือดก็ไหลออกมาเปื้อนไปทั่วเสื้อผ้าของอ้ายหร่าน ส่วนคนอื่นๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบเป็นลมหมดสติไป

ส้าวปิงหยวนยกดาบขึ้นอีกครั้งและฟาดไปที่อ้ายหร่าน

หลินหยางคว้าไปที่แส้นั้นได้อย่างรวดเร็ว

และเขาก็พบว่าบนแส้นั้นได้ทายาน้ำชนิดพิเศษขึ้นเพื่อสามารถหลบเลี่ยงพลังปราณได้อย่างง่ายดาย

หากถูกฟาดด้วยแส้นี้ไม่เพียงไม่กี่ครั้ง ก็เหมือนการถูกฟันด้วยดาบ!

ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก!

"หลินหยาง?"

อ้าหยร่านร้องเสียงด้วยเสียงอ่อนล้าและแผ่วเบา

"คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?"

หลินหยางหันไปถามอย่างเคร่งขรึม

อ้ายหร่านยิ้มออกมาและส่ายหน้า จากนั้นก็ทรุดตัวลงและกุมไปที่บริเวณบาดแผลของตัวเองอย่างไม่อาจทนได้อีกต่อไป

หลินหยางรีบหยิบยาออกมาและยัดใส่ปากให้เธอกินอย่างรวดเร็ว

ทำให้อ้ายหร่านค่อยๆ มีอาการดีขึ้น

"แกเป็นใครกัน?"

ส้าวปิงหยวนเห็นมีคนกล้าเข้ามาขัดขวางเขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาและตะคอกออกไปอย่างหงุดหงิด

หลินหยางจับมือเขาทันที

ปัง!

แส้เส้นนั้นที่อยู่ในมือของส้าวปิงหยวนก็แตกละเอียดและกระเด็นลอยไปทั่วทุกทิศ

เขาสูดหายใจเข้าและจากนั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว

ส้าวปิงหยวนเองก็รีบแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม

"ปิงหยวน นายก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ?"

หัวเฟิงยินขมวดคิ้วมองไปยังคนของตระกูลอวี่ที่นอนเกลื่อนอยู่เต็มพื้นและถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม

"พี่หัว ผมไม่ได้ก่อเรื่อง แต่คนของตระกูลอวี่ไม่เชื่อฟัง ผมก็เลยต้องอบรมสั่งสอนพวกเขาเท่านั้นเอง!"

ส้าวปิงหยวนกล่าวและจากนั้นก็ชี้ไปยังอ้ายหร่านที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล "ผมตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ และรู้สึกว่าเธอมีร่างกายที่พิเศษสามารถใช้เป็นเพื่อนในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้ แต่คนเหล่านี้กลับกล้าปฏิเสธผมอย่างไม่ยำเกรง แถมยังคอยทำให้ผมรู้สึกถูกดูถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ผมจะทนได้ยังไง?"

หัวเฟิงยินเองก็ไม่จะว่าไม่รู้นิสัยของส้าวปิงหยวน จะต้องเป็นเพราะเขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้น แต่ตระกูลอวี่ไม่ยอม ก็เลยทำให้เกิดเรื่องบาดหมางขัดแย้งกันขึ้นมา

แต่เพราะความยิ่งใหญ่มีหน้ามีตาของส้าวปิงหยวน ฉะนั้นจะมีใครกล้าปฏิเสธเขาอีกอย่างนั้นเหรอ?

หัวเฟิงยินส่ายหน้าและสังเกตมองอ้ายหร่านและอดไม่ได้ที่จะแสดงแววตาเปล่งประกายพร้อมกับพยักหน้า "เป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆ!"

"แต่พี่หัว...เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้"

ส้าวปิงหยวนรู้สึกไม่ยอม

แต่หัวเฟิงยินกลับแสดงสีหน้าเคร่งขรึม "แล้วนายคิดจะทำยังไง? ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เหรอ? ที่นี่ที่ไหน? สถานที่สำคัญมากขนาดนี้ จะปล่อยให้นายก่อเรื่องทะเลาะวิวาทได้ยังไง? รีบพาคนของนายออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!"

ส้าวปิงหยวนแอบกัดฟันกรอด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของหัวเฟิงยิน และทำได้เพียงพาคนของเขาออกไป

แต่ขณะนี้เอง หลินหยางก็กล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น "ทำไม? คิดจะจบเรื่องนี้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ?"

เมื่อพูดจบ ส้าวปิงหยวนและพวกก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

"เป็นแค่ตระกูลอวี่ก็กล้าคิดจะลองดีกับเรางั้นเหรอ? อยากตายหรือไง?" ส้าวปิงหยวนตะคอกเสียงดัง

"ปิงหยวน!"

หัวเฟิงยินหันไปตวาดใส่เพื่อให้เขาหุบปากและจากนั้นก็หันไปกล่าวกับหลินหยาง "ประเดี๋ยวคุณส่งคนไปรับยาที่ห้องยา แล้วผมจะส่งคนจำนวนหนึ่งไปรักษาให้พวกคุณ! แล้วเรื่องนี้ก็จบกัน! เข้าใจไหม?"

สำหรับกลุ่มอำนาจเล็กๆ นั้น การจัดการของหัวเฟิงยินเช่นนี้ถือเป็นวิธีการที่ดีมากที่สุดแล้ว

แต่ในสายตาของหลินหยางเองกลับรู้สึกไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่นิดเดียว

"แล้วเขาคนนี้ล่ะ?"

เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่ส้าวปิงหยวน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา