หลังจากผ่านเรื่องครั้งนี้ไป สำนักทุ่งน้ำแข็งห้าทิศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
กลุ่มผู้มีอำนาจล่างสุดฉวยโอกาสในเวลานี้ออกจากสำนักทุ่งน้ำแข็ง
อย่างไรเสียพันธมิตรของสำนักทุ่งน้ำแข็งได้แบ่งออกเป็นสามหกเก้าระดับ กลุ่มผู้มีอำนาจล่างสุดล่างสุดเหล่าจะเต็มใจเป้ากระสุนปืนใหญ่ให้กลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดได้อย่างไร? พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้เพื่อหลบหนี
ในตอนแรกคนของสำนักทุ่งน้ำแข็งพยายามที่จะขัดขวาง แต่เมื่อกลุ่มผู้มีอำนาจออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจึงทำได้เพียงปล่อยมันไปเท่านั้น
เพล้ง!
เก้าอี้แกะสลักน้ำแข็งกลิ้งลงมาตามบันได ตกลงมาอยู่ในห้องโถงใหญ่ และแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ส้าวชวนและคนอื่นๆ เดินเข้ามาเห็นฉากนี้ แต่ละคนต่างมีสีหน้าซีดเผือด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
"คารวะเจ้าสำนัก! เจ้าสำนักได้โปรดระงับอารมณ์ด้วย!"
"เจ้าสำนักได้โปรดระงับอารมณ์ด้วย!"
ส้าวชวนคุกเข่าลง และกล่าวอย่างเคารพนบนอบ
"แกมันไร้ประโยชน์จริงๆ!"
หัวเทียนไห่จับตะเกียงเคลือบลายที่อยู่ข้างๆ และขว้างไปที่ส้าวชวนอย่างแรง
เพล้ง!
ตะเกียงเคลือบลายกระแทกลงบนตัวส้าวชวน และแตกออกเป็นชิ้นๆ ใบหน้าของส้าวชวนเต็มไปด้วยน้ำมันตะเกียง ดูน่าสมเพชอย่างมาก
"บอกให้แกไปฆ่าต้วนเทียนเฉียง แกไปอยู่ไหน? แต่กลับให้พวกเขาแปลงโฉม และกลับมาหลอกฉันอีก! แกมันไอ้ไร้ประโยชน์?"
หัวเทียนไห่ด่าทออย่างโมโห
ส้าวชวนคำนับลงกับพื้น และอธิบายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า : "เจ้าสำนัก ข้าน้อยได้ติดกับดักของอีกฝ่ายเข้าแล้ว เมื่อฉันได้ไปที่ทะเลสาบฉางเพื่อฆ่าต้วนเทียนเฉียงตามคำสั่งของท่าน จึงพบว่าเดิมทีที่นั่นไม่มีต้วนเทียนเฉียงอยู่ และลูกน้องคนนั้นของหลินหยางก็ได้ต่อสู้กันกับฉัน เพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเราไป! เมื่อพวกเรากลับมาได้ เจ้าสำนักก็....."
"พวกแกมีกันตั้งหลายคนขนาดนี้ ทำไมถุงจัดการลูกน้องเพียงคนเดียวของหลินหยางไม่ได้?" หัวเทียนไห่กล่าวอย่างเย็นชา
"เจ้าสำนักอย่าเพิ่งโมโหเลย คนคนนั้นได้กินยาเข้าไป ข้าน้อยเดาว่า ยาเม็ดนั้นจะต้องมีคุณภาพสูงอย่างยิ่ง ศักยภาพของเขาจึงถูกยกให้สูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถเอาชนะได้....."
"พอได้แล้ว! หยุดหาข้ออ้างให้กับความไร้ความสามารถของตนเองได้แล้ว!"
หัวเทียนไห่ด่าทอออกมา
กลุ่มของส้าวชวนรีบหมอบอยู่บนพื้น ไม่กล้าส่งเสียง
"เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยไปได้! ฟังนะ! ส่งคนไปจับตาดูหลินหยาง และหัวเวยเวยลูกอกตัญญูคนนั้นด้วย! รอจนกว่าคนของตระกูลเหล่านั้นจากเมืองต้าเหลียงออกไปแล้ว พวกเราค่อยลงมืออีกครั้งหนึ่ง! ชายที่ชื่อหลินหยางคนนี้ ฉันจะต้องทรมานให้จิตวิญญาณของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ จึงจะเลิกแล้วต่อกัน!"
หัวเทียนไห่คำรามออกมา ในดวงตามีความเคียดแค้นที่ลึกล้ำราวกับแอ่งน้ำที่ดำดิ่ง
"เจ้าสำนักวางใจเถอะ หลินหยางจะต้องหนีไม่รอดอย่างแน่นอน เพียงแต่....."
"เพียงแต่อะไร?"
หัวเทียนไห่จ้องมองเขาอย่างถมึงทึง
"เพียงแต่เจ้าสำนัก.....ตอนนี้ผู้คนมากกว่ายี่สิบคนจากกลุ่มผู้มีอำนาจได้ออกจากพันธมิตรไปแล้ว แนวหน้าที่พวกเราแต่งตั้ง ได้ออกไปแล้ว 70-80%"
ส้าวชวนลังเลเล็กน้อย และกล่าวอย่างระมัดระวัง
"อะไรนะ? หึ กลุ่มนี้เป็นพวกรักตัวกลัวตาย ศักยภาพของไอ้พวกไร้ประโยชน์กลุ่มนี้มันไม่เท่าไหร่นัก ถ้าพวกเขาต้องการออกไป ขอเพียงแค่กลุ่มผู้มีอำนาจหลักเหล่านั้นยังอยู่ก็พอ"
"เจ้าสำนัก ตอนนี้แนวหน้าได้ระส่ำระสายไปหมดแล้ว เช่นนั้นกองกำลังของกลุ่มผู้มีอำนาจระดับกลางควรที่จะแต่งตั้งเป็นแนวหน้าเลยไหมครับ?" ส้าวชวนคารวะและเอ่ยถามอีกครั้ง
"ไม่จำเป็น!"
หัวเทียนไห่กล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา : "คนเหล่านี้ที่ยอมอยู่ร่วมพันธมิตรด้วย เดิมทีมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะช่วยฉันต่อสู้กับตำหนักเทียนเสินด้วยใจจริง กลุ่มเหล่านี้ล้วนเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าแกแต่งตั้งคนเหล่านี้ไปเป็นแนวหน้าอีก เกรงว่าพวกเขาจะเหมือนกับกลุ่มคนเหล่านั้น ที่หลบหนี และแยกย้ายกันไป"
"เช่นนั้นเจ้าสำนัก เมื่อไม่มีแนวหน้าแล้ว พวกเราจะโจมตีตำหนักเทียนเสินได้อย่างไร?" ส้าวชวนกล่าวอย่างตกตะลึง
หัวเทียนไห่ไตร่ตรองเล็กน้อย เดินกลับไปกลับมา และหันไปเอ่ยถามอย่างเคร่งขรึม : "ฉันจัดการเองได้ ฉันอยากจะถามแกว่า ยังมีกลุ่มผู้มีอำนาจที่ยังตามมาไม่ถึงมีอีกเท่าไหร่?"
"สองวันมานี้จำนวนตระกูลที่เข้าร่วมพันธมิตรมีน้อยลงมากเลยครับ"
"เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องรอแล้ว สั่งออกไป ให้รวบรวมกองกำลัง อีกสามวันจะนำพันธมิตรออกเดินทางอย่างเป็นทางการ เพื่อไปยังตำหนักเทียนเสิน!"
"รับทราบ!"
หลินหยางก็ไม่ได้อยู่ที่ทุ่งน้ำแข็งห้าทิศเป็นเวลานาน และเขาได้พาหัวเวยเวยไปยังตระกูลอวี่ทันที
เธอรู้จักพ่อตนเองดี ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ต้องการจะฆ่าตนเอง แต่นั่นก็เป็นเพราะความโกรธ หากผ่านไปสักระยะหนึ่งให้ความโกรธของเขาคลายลง มันจะต้องดีกว่ากลับไปตอนนี้อย่างแน่นอน
"ท่านหลิน!"
กลุ่มคนเดินประมาณหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็เห็นคนตระกูลอวี่อยู่ด้านหน้าหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง
อ้ายหร่านเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว เธอโผเข้าไปในอ้อมกอดของหลินหยาง ในดวงตามีน้ำตาเล็กน้อย
เธอไม่พูดอะไร แต่การแสดงออกทุกอย่างนั้นชัดเจน
"ทุกๆ คนยังสบายดีใช่ไหม?"
หลอนหยางหัวเราะและตบๆ หลังอ้ายหร่าน และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ทุกคนสบายดี"
น้ำเสียงของอ้ายหร่านสั่นเครือเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น ดวงตากลับแดงก่ำ
หลินหยางไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงวิตกกังวลอย่างนี้ แต่มิตรภาพของอ้ายหร่านนั้น กลับไม่มีการปิดบังใดๆ
เขาไม่กล้ามองดวงตาที่ร้อนแรงคู่นั้น เขากำลังจะพูดอะไร ในเวลานี้อวี่เจิ้นเทียนก็เดินเข้ามา
"คุณหลิน คนของทุ่งน้ำแข็งห้าทิศไม่ได้ตามมาใช่ไหม?"
"เปล่า หลังจากที่เราประกาศความจริง ผู้ชอบธรรมจำนวนมากในพันธมิตรก็ทนดูการกระทำของหัวเทียนไห่ไม่ได้ แต่ละคนต่างยืดอกอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องเรา หัวเทียนไห่จึงไม่กล้าที่จะต่อสู้ และเลือกที่จะยุติชั่วคราว!" หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เป็นเช่นนี้เอง หลังจากที่เขาส่งคนมาฆ่าพวกเรา พวกเราก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป!"
"หัวหน้าตระกูลอวี่ คุณจะไปที่ไหนเหรอ?"
"คุณหลิน พวกเราไปที่หอเหลยเจ๋อเทียนดีไหม! ได้ยินมาว่าหอเหลยเจ๋อเทียนปฏิบัติต่อพันธมิตรใดๆ ที่หลบภัยมา อย่างเท่าเทียมกัน! เราไปหาพวกเขา มันจะต้องแข็งแกร่งกว่าสำนักทุ่งน้ำแข็งห้าทิศอย่างแน่นอน!"
อวี่เจิ้นเทียนกล่าวออกมา
แต่ทว่าหลินหยางเงียบไปชั่วขณะ และส่ายหัว
"ฉันไม่เห็นด้วยที่จะไปหอเหลยเจ๋อเทียน!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...