การกลับไปเมืองเจียงเฉินก็เป็นเรื่องของอีกสองสามวัน
ถึงแม้ว่าหลินหยางจะกระตือรือร้นที่จะกลับเมืองเจียงเฉิน แต่ก็ยังมีเรื่องอีกมากมายให้ต้องจัดการ
สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรชิงเซวียนได้จัดตั้งเป็นการชั่วคราวที่หนานหลี่เฉิง
ถึงแม้ว่าพันธมิตรชิงเซวียนจะได้รับการตั้งชื่อตามสำนักชิงเซวียน แต่สำนักชิงเซวียนในตอนนี้นั้นยากจนเป็นอย่างยิ่ง และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแต่อย่างใด ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการก่อตั้งพันธมิตรโดยสิ้นเชิง
แต่หลังจากที่พันธมิตรเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สำนักเซียงหยุนก็มาเข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ก่อนหน้านี้สำนักเซียงหยุนเคยติดตามสำนักเฉียนคุนเทียนตี้ แต่เพราะสำนักเฉียนคุนเทียนตี้ไม่สามารถนำกำลังเข้าร่วมยุทธการโจมตีตำหนักเทียนเสินได้ ด้วยเหตุนี้จึงพลาดโอกาสไป
และที่พลาดไปอีกก็คือตระกูลตู๋กู แต่ตระกูลตู๋กูไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว
หลังจากการต่อสู้กับตำหนักเทียนเสินจบสิ้นลง พันธมิตรส่วนใหญ่ของดินแดนแห่งความเงียบและความตายก็ล้มเลิกกันไปเอง
มีเพียงพันธมิตรชิงเซวียนที่ยังคงอยู่ต่อไป
สาเหตุที่ผู้นำพันธมิตรเหล่านี้เต็มใจที่จะโจมตีตำหนักเทียนเสิน ล้วนทำไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทั้งสิ้น ใครจะเต็มใจที่จะไปเป็นน้องของคนอื่น?
แต่ตามการคงอยู่ของพันธมิตรชิงเซวียน ตระกูลที่มาเข้าร่วมพันธมิตรจึงมีไม่น้อย
ในตอนนี้นอกจากหนานหลี่เฉิงกับวิหารหยุนเซียวซานแล้ว ก็ยังมีหุบเขาอูซาน สำนักเซียงหยุน สำนักทุ่งน้ำแข็งห้าทิศ ตระกูลอวี่และอื่นๆ นอกจากนี้ประชาชนคนธรรมดาหลายแสนคนยังคงรักษาสถานะของตนในฐานะสมาชิกของพันธมิตรด้วย
แม้แต่หยูซานสุ่ยกับหวางอี้เซิงก็มีสถานะเป็นสมาชิกของพันธมิตร ในตำแหน่งผู้อาวุโส
สถานการณ์ของพันธมิตรชิงเซวียน ได้มาถึงมาตรฐานของตระกูลเจ้าแห่งสำนักแล้ว
หลังจากที่หลินหยางได้กำหนดกฎเกณฑ์ของพันธมิตรแล้ว ก็ได้มอบหมายหน้าที่ให้กับสมาชิกพันธมิตร
นั่นก็คือการเก็บรวบรวมวัตถุดิบสมุนไพรให้กับเขา
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบสมุนไพรในระดับขั้นไหน หลินหยางล้วนต้องการทั้งสิ้น
สถานที่ของดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ที่นี่เหมาะสมที่จะปลูกพืชสมุนไพรเป็นอย่างยิ่ง มีพืชสมุนไพรจำนวนมากที่ไม่สามารถเติบโตได้ในแดนมังกร อีกทั้งยังมีบางสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
สิ่งเหล่านี้สามารถเห็นได้ทุกที่ของดินแดนแห่งความเงียบและความตาย แต่สำหรับหลินหยางแล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่ล้ำค่า
ด้วยเหตุนี้เขาจึงขอให้พันธมิตรชิงเซวียนนำสมุนไพรจำนวนหนึ่งไปที่เมืองเจียงเฉินทุกสัปดาห์ และเขาก็ยังส่งทีมก่อสร้างไปยังหยางหัว เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่พันธมิตรแห่งใหม่ในดินแดนแห่งความเงียบและความตาย
พอถึงเวลาที่หลินหยางพาหยูซานสุ่ยและหวางอี้เซิงกลับเมืองเจียงเฉิน ก็ผ่านไปห้าวันแล้ว
"อ้าว? คุณหลิน กลับมาแล้วเหรอครับ? ช่วงนี้คุณไปอยู่ที่ไหนมาเหรอ? ถึงไม่เห็นเงาของคุณเลย!"
เพียงแค่เดินเข้าสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี ก็มีเสียงหัวเราะหนึ่งดังขึ้นมา
หลินหยางมองไปตามเสียง แต่ก็เห็นเพียงชายรูปร่างอ้วนท้วนเกือบหนึ่งร้อยกิโลกรัมกำลังทักทายเขาอยู่
"คุณเป็นใคร?'
หลินหยางเต็มไปด้วยความงุนงง
ชายอ้วนตกตะลึง แล้วรีบกล่าวว่า: "คุณหลิน ทำไมกระทั่งฉันคุณก็ไม่รู้จักเหรอ? ฉันคือโจวสืออวิ้นไง!"
"อะไรนะ?"
หลินหยางตกใจจนหน้าถอดสี แล้วพิจารณาชายอ้วนอีกครั้งหนึ่ง และกล่าวอย่างงุนงงว่า: "คุณ....คุณคือโจวสืออวิ้นจริงๆ เหรอ? เป็นไปไม่ได้! โจวสืออวิ้นอ้วนแบบคุณซะที่ไหน?"
"เอ่อ....เอ่อคือ...."
โจวสืออวิ้นค่อนข้างอาย เกาศีรษะแล้วกล่าวว่า: "ช่วงนี้ทานค่อนข้างเยอะ เลยอ้วนไปหน่อย"
"นี่คือคุณนิดหน่อยเหรอ?"
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ถึงเวลาฉันก็จะขอยาลดน้ำหนักกับราชามังกรของพวกเรา รับรองได้เลยว่าจะต้องลดน้ำหนักได้ภายในครึ่งเดือน!"
โจวสืออวิ้นหัวเราะเสียงดัง อย่างไม่สนใจแม้แต่น้อย
หลินหยางจึงเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ก่อนที่เขาจะไป เคยบอกอี้ฉีหลินและคนอื่นๆ เอาไว้ว่า มีอาหารบำรุงสุขภาพให้โจวสืออวิ้นและคนอื่นๆ อย่างไม่จำกัด
เกรงว่าโจวสืออวิ้นคงจะติดการกิน ในช่วงเวลาที่ดื่มกินมากเกินไปนี้ จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นสูงมาก
"ถึงแม้ว่าอาหารบำรุงสุขภาพจะมีประโยชน์มาก แต่หากกินมากเกินไปก็ไม่มีผลดี ดังนั้นจึงควบคุมปริมาณให้พอเหมาะจะดีกว่า"
หลินหยางกล่าว
"ใช่....ใช่...ถูกต้องเลยครับ คุณหลิน อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของแม่ของฉัน ฉันวางแผนที่จะกลับไปตำหนักมังกรม่วงเพื่อฉลองวันเกิดแม่ของฉัน ไม่ทราบว่าคุณหลินสนใจที่จะไปด้วยไหมครับ?"
โจวสืออวิ้นยิ้มแล้วกล่าว
"ฉันยุ่งมากเลย"
หลินหยางกล่าวอย่างนิ่งๆ
เพียงโจวสืออวิ้นได้ฟัง ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง
"เฮ้อ น่าเสียดายจริงๆ เลย แม่ตั้งใจจัดนิทรรศการชมดอกไม้ เดิมทีคิดว่าคุณหลินจะให้ความสนใจ....."
"นิทรรศการชมดอกไม้?"
"ใช่ครับ เป็นพวกดอกไม้และพืชแปลกๆ ที่แม่ของฉันเก็บสะสมมานานหลายปี และตั้งใจจะเอาออกมาให้ทุกคนได้ชื่นชม" โจวสืออวิ้นกล่าว
เพียงหลินหยางได้ฟัง ก็ใจเต้น จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรได้ จึงเอ่ยปากกล่าวถามว่า: "มีดอกกระดูกมังกรไหม?"
"อะไรคือดอกกระดูกมังกรเหรอครับ?"
โจวสืออวิ้นมีสีหน้างุนงง
"ก็คือดอกไม้ที่มีกลีบสีขาวเงิน ลวดลายของดอกคล้ายกับกระดูก มีรากสีเทามีขอบสีดำ...."
หลินหยางสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน
โจวสืออวิ้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยปากทันทีว่า
"ดอกนั้นไม่ได้เรียกว่าดอกกระดูกมังกรไม่ใช่เหรอ? ดอกนั้นต้องเรียกว่าดอกหัวใจสีเงินถึงจะถูก!"
เขากล่าวอย่างเต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า: "สิ่งนี้มีอยู่ในห้องของแม่ฉันกระถางหนึ่ง!"
ชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ หลินหยางก็รู้ดี
แต่ถ้าหากสิ่งที่ตนเองอธิบายโจวสืออวิ้นสามารถเข้าใจได้ เช่นนั้นดอกที่เรียกว่าดอกหัวใจสีเงินนี้ ก็จะต้องเป็นดอกกระดูกมังกรที่เขาพูดอย่างแน่นอน!
"ของสิ่งนี้ ฉันกำลังต้องการอยู่พอดี เมื่อเป็นเช่นนี้ละก็ งานนิทรรศการชมดอกไม้นี้ ฉันก็สามารถไปชมงานนี้ได้!"
หลินหยางเอ่ยปาก
โจวสืออวิ้นได้ยินเช่นนี้ ก็ดีอกดีใจขึ้นมาทันที: "ฉันคิดว่าแม่ของฉันจะต้องยินดีต้อนรับการมาถึงของคุณหลินอย่างแน่นอนครับ!"
"เอ่อ....เกรงว่าคงจะไม่แน่นะสิ.....ฉันคิดว่าทางที่ดีคุณแจ้งกับแม่ของคุณล่วงหน้าสักหน่อยดีกว่า ถ้าหากว่าเธอไม่ต้อนรับ ฉันก็จะไม่ดึงดัน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...