เข้าสู่ระบบผ่าน

สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 3123

สมาชิกของมังกรฟ้าต่างพากันวิ่งหนีกันอย่างตื่นตระหนกโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ชวี่เทียนขมวดคิ้วและกล่าวกระซิบ "ประธานหลิน ทำไมต้องปล่อยพวกเขาไปด้วย? หากจัดการพวกเขาที่นี่ มังกรฟ้าจะต้องเกิดความโกลาหลอย่างมากแน่ ถึงตอนนั้นเราต้องสามารถจัดการมังกรฟ้าได้อย่างง่ายดายแน่?"

"การจัดการมังกรฟ้าเป็นเรื่องง่ายดายก็จริง แต่สำนักอื่นๆ ล่ะ?"

หลินหยางถาม

ชวี่เทียนสะดุ้ง

"ผมให้คุณถล่มภูเขาเพื่อทำให้เสือตื่นตระหนกก็เพราะต้องการใช้มังกรฟ้าเป็นเครื่องมือ หากเราจัดการกำจัดหัวหน้าแก๊งมังกรฟ้าที่นี่ คนนอกจะมองหยางหัวของเรายังไง? และเช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อแผนการเมื่อสักครู่นี้ของผมอย่างมาก พวกเขาจะคิดว่าเราไม่มีความสามารถพอก็เลยต้องลงมือวิธีนี้ แต่หากคุณจัดการแก๊งมังกรฟ้าด้วยความโกรธ แน่นอนว่าต้องไม่มีใครกล้าต้านทานหยางหัว ถึงตอนนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปจัดการสำนักอำนาจอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ พวกเขาจะเป็นฝ่ายสงบไปเอง"

หลินหยางกล่าวออกมาอย่างชัดเจน

เมื่อได้ยินมาถึงขั้นนี้ ชวี่เทียนก็ตระหนักขึ้นได้ทันที

ที่แท้นี่เป็นเพียงบททดสอบบทหนึ่งเท่านั้น!

ชวี่เทียนถอนหายใจและกระซิบ "ประธานหลินวางใจได้ ผมไม่มีทางทำให้คุณผิดหวังแน่นอน"

"อืม"

หลินหยางพยักหน้าและเมื่อเห็นว่าทุกคนดื่มกันพอสมควรแล้วก็เตรียมตัวจากไป

แต่ขณะนี้เอง จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

หลินหยางหยิบโทรศัพท์ออกมามองแลัวจากนั้นก็ทำหน้าเคร่งเครียด

นั่นคือสายที่โทรมาจากหม่าไห่...

"เกิดอะไรขึ้น?"

"ประธานหลิน เมื่อสักครู่เมืองหลวงส่งข่าวมาว่า หานลั่วแห่งตระกูลหาน...ตายในสนามรบแล้วครับ!"

"อะไรนะ?"

หลินหยางสูดหายใจเข้าและเบิกตากว้าง

ผู้คนรอบๆ ต่างพากันตกตะลึงและเหลือเชื่อ

พวกเขาต่างไม่เคยเห็นหลินหยางแสดงสีหน้าท่าทางเช่นนี้มาก่อน

"ประธานหลิน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"

หลงโชถามขึ้นอย่างระมัดระวัง

หลินหยางเงียบอยู่นานโดยไม่ตอบและจากนั้นก็กำโทรศัพท์แน่นและถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม "ตั้งแต่เมื่อไร?"

"เมื่อวานครับ!"

หม่าไห่กล่าวแผ่วเบา "หานลั่วและคนอื่นอยู่ในกองกำลังกลุ่มเล็กที่ถูกถล่มและเสียชีวิตลงเกือบทั้งหมด มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้ คนอื่นๆ ล้วนถูกเผาเป็นผุยผง วันนี้ศพของหานลั่วจะถูกส่งกลับมาถึงเมืองหลวง นี่เป็นข่าวที่ตระกูลหานเพิ่งจะแจ้งมา..."

"ผมจะรีบเดินทางไปที่เมืองหลวง"

หลินหยางกล่าวเสียงแหบแห้ง

"ประธานหลิน เอ่อ..."

หม่าไห่หยุดชะงักและสุดท้ายก็พยักหน้ากล่าว "ผมจะรีบไปจัดการเรื่องเครื่องบินครับ

"อืม!"

หลินหยางสูดหายใจเข้าและวางโทรศัพท์ในมือลงพร้อมกับรีบออกเดินทาง

เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาก็นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวเพื่อมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง

ขณะนี้คนของตระกูลหานต่างพากันร้องไห้เสียงดังระงม

โถงพิธีไว้ทุกข์ของหานลั่วได้ถูกจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

คนที่อายุน้อยของตระกูลหานต่างพากันนั่งคุกเข่าร้องไห้อย่างโศกเศร้าอยู่เต็มสองข้างของโถงไว้ทุกข์

แม้ว่าอายุและศักดิ์ของหานลั่วในตระกูลจะไม่สูง แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดที่อายุน้อยของอาณาจักรมังกร ทำให้เขามีความสำคัญต่อตระกูลหานเป็นอย่างมาก

ทำให้ตระกูลหานร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำขึ้นได้เพราะเขา

ตอนนี้กลับต้องสูญเสียหานลั่วไป ทำให้ตำแหน่งสถานะของตระกูลหานในเมืองหลวงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ผู้นำตระกูลหานนั่งอยู่ข้างโลงศพทางด้านขวาพร้อมกับจ้องมองไปที่กระดาษสีเหลืองด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

ผมของเขาเป็นสีหงอกและใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น

ราวกับว่าเขาได้แก่ลงนับสิบปีเพียงชั่วข้ามคืน

"คุณพ่อ!"

หานปู้เหว่ยเดินเข้ามาพร้อมกับกระซิบเรียก

"ปู้เหว่ย มีแขกมาเหรอยัง?"

ผู้นำตระกูลหานถามเสียงแหบแห้ง

หานปู้เหว่ยอ้าปากและได้แต่ส่ายหน้า

ผู้นำตระกูลหานเบิกตากว้างและจากนั้นก็หลับตาลง

เหมือนอย่างสำนวนที่ว่า เมื่อคนจากไปอะไรก็ไม่เหมือนเดิม

ตระกูลหานเมื่อไม่มีหานลั่วก็ไม่มีใครให้ความสำคัญอีกต่อไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้หานลั่วจะถูกลดตำแหน่งเพราะความผิดพลาดของเขา ทว่าความสามารถของเขายังคงมีอยู่อย่างเห็นได้ชัดและทุกคนก็ต่างรู้ดีว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลับขึ้นมายังตำแหน่งเดิม

แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

เขาไม่อยู่แล้ว....

ยังจะมีใครให้ความสำคัญต่อตระกูลหานอีกบ้าง?

"ช่างเถอะ!"

ผู้นำตระกูลถอนหายใจและกล่าวออกมา "ไม่มีใครมาก็ช่างเถอะ ตระกูลของเราก็ไม่ได้ต้องการพวกคนจอมปลอมเหล่านั้นเท่าไรหรอก!"

หานปู้เหว่ยไม่พูดอะไร

คนของตระกูลหานต่างสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน

"ถ้าเราไม่ให้ล่ะ?" ผู้นำตระกูลหานกล่าวอย่างเคร่งขรึม

"งั้นเกรงว่า...ตระกูลหานคงไม่สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อีกต่อไป"

หนิงหงส่ายหน้า

"ที่แท้คุณก็มาเพื่อขู่กรรโชกทรัพย์นี่เอง!"

ผู้นำตระกูลหานกล่าวด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

"ผู้นำหาน คุณอย่าพูดแบบนี้เลย ผมไม่ได้มาเพื่อขู่กรรโชกทรัพย์ แต่ผมมาเพื่อปกป้องพวกคุณต่างหาก!"

"ปกป้องตระกูลหาน?"

"ไม่ใช่เหรอ? คุณต้องรู้ว่าข่าวการตายของหานลั่วได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว ทุกคนต่างรับรู้แล้ว และหลายปีมานี้ตระกูลหานของพวกคุณก็มีเรื่องบาดหมางกับใครกี่คน? แถมยังมีศัตรูอีกตั้งเท่าไร พวกคุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี! ก่อนหน้านี้มีหานลั่วอยู่ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรตระกูลหาน แต่ตอนนี้หานลั่วตายไปแล้ว ใครจะยังกลัวตระกูลหานของพวกคุณอีก?"

"ผมคิดว่าอีกไม่นานศัตรูเหล่านั้นของตระกูลหานจะต้องเริ่มแผนการล้างแค้นต่อพวกคุณ หากไม่มีใครคอยปกป้องตระกูลหานของพวกคุณจะต้องไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน!"

"ฉะนั้น เพียงแค่ตระกูลหานของพวกคุณยอมรับเงื่อนไขที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่! ตระกูลหนิงของผมจะเป็นคนปกป้องพวกคุณไม่ให้ได้รับอันตรายใดๆ เลย!"

หนิงหงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อพูดจบ คนของตระกูลหานก็ต่างแสดงสีหน้าแข็งกร้าวและแววตาที่เผยให้เห็นความหวาดกลัวพร้อมกับต่างพากันเงียบลง

หนิงหงพูดถูก

นี่คือวิกฤติครั้งใหญ่ที่ตระกูลหานต้องเผชิญในขณะนี้!

ผู้นำตระกูลหานหลับตาลงและครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

แต่ขณะนี้เองก็มีเสียงดังขึ้น

จากนั้นก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในโถงไว้ทุกข์

"พวกคุณคิดจะทำอะไร? ใครบอกให้พวกคุณเข้ามา?"

"หยุดเดี๋ยวนี้! ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!"

ผู้ดูแลตระกูลอาวุโสพยายามเข้าไปขวาง แต่ก็ไม่เป็นผลและกลับถูกชายร่างกำยำผลักล้มลงกับพื้น

"สารเลว!"

หานปู้เหว่ยโกรธมากและรีบพุ่งตัวออกไปเตรียมลงมือ

แต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้มีร่างกายกำยำและมีความสามารถมาก ซึ่งสู้กันเพียงไม่นานหานปู้เหว่ยก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและถูกคุมตัวลงกับพื้น

"สารเลว!"

คนของตระกูลหานต่างพากันโกรธแค้นและต่างพากันเข้าไปปิดล้อม

"หยุดเดี๋ยวนี้!"

ผู้นำตระกูลหานตะคอกเสียงดัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา