สมาชิกของมังกรฟ้าต่างพากันวิ่งหนีกันอย่างตื่นตระหนกโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ชวี่เทียนขมวดคิ้วและกล่าวกระซิบ "ประธานหลิน ทำไมต้องปล่อยพวกเขาไปด้วย? หากจัดการพวกเขาที่นี่ มังกรฟ้าจะต้องเกิดความโกลาหลอย่างมากแน่ ถึงตอนนั้นเราต้องสามารถจัดการมังกรฟ้าได้อย่างง่ายดายแน่?"
"การจัดการมังกรฟ้าเป็นเรื่องง่ายดายก็จริง แต่สำนักอื่นๆ ล่ะ?"
หลินหยางถาม
ชวี่เทียนสะดุ้ง
"ผมให้คุณถล่มภูเขาเพื่อทำให้เสือตื่นตระหนกก็เพราะต้องการใช้มังกรฟ้าเป็นเครื่องมือ หากเราจัดการกำจัดหัวหน้าแก๊งมังกรฟ้าที่นี่ คนนอกจะมองหยางหัวของเรายังไง? และเช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อแผนการเมื่อสักครู่นี้ของผมอย่างมาก พวกเขาจะคิดว่าเราไม่มีความสามารถพอก็เลยต้องลงมือวิธีนี้ แต่หากคุณจัดการแก๊งมังกรฟ้าด้วยความโกรธ แน่นอนว่าต้องไม่มีใครกล้าต้านทานหยางหัว ถึงตอนนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปจัดการสำนักอำนาจอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ พวกเขาจะเป็นฝ่ายสงบไปเอง"
หลินหยางกล่าวออกมาอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินมาถึงขั้นนี้ ชวี่เทียนก็ตระหนักขึ้นได้ทันที
ที่แท้นี่เป็นเพียงบททดสอบบทหนึ่งเท่านั้น!
ชวี่เทียนถอนหายใจและกระซิบ "ประธานหลินวางใจได้ ผมไม่มีทางทำให้คุณผิดหวังแน่นอน"
"อืม"
หลินหยางพยักหน้าและเมื่อเห็นว่าทุกคนดื่มกันพอสมควรแล้วก็เตรียมตัวจากไป
แต่ขณะนี้เอง จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
หลินหยางหยิบโทรศัพท์ออกมามองแลัวจากนั้นก็ทำหน้าเคร่งเครียด
นั่นคือสายที่โทรมาจากหม่าไห่...
"เกิดอะไรขึ้น?"
"ประธานหลิน เมื่อสักครู่เมืองหลวงส่งข่าวมาว่า หานลั่วแห่งตระกูลหาน...ตายในสนามรบแล้วครับ!"
"อะไรนะ?"
หลินหยางสูดหายใจเข้าและเบิกตากว้าง
ผู้คนรอบๆ ต่างพากันตกตะลึงและเหลือเชื่อ
พวกเขาต่างไม่เคยเห็นหลินหยางแสดงสีหน้าท่าทางเช่นนี้มาก่อน
"ประธานหลิน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
หลงโชถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
หลินหยางเงียบอยู่นานโดยไม่ตอบและจากนั้นก็กำโทรศัพท์แน่นและถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม "ตั้งแต่เมื่อไร?"
"เมื่อวานครับ!"
หม่าไห่กล่าวแผ่วเบา "หานลั่วและคนอื่นอยู่ในกองกำลังกลุ่มเล็กที่ถูกถล่มและเสียชีวิตลงเกือบทั้งหมด มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้ คนอื่นๆ ล้วนถูกเผาเป็นผุยผง วันนี้ศพของหานลั่วจะถูกส่งกลับมาถึงเมืองหลวง นี่เป็นข่าวที่ตระกูลหานเพิ่งจะแจ้งมา..."
"ผมจะรีบเดินทางไปที่เมืองหลวง"
หลินหยางกล่าวเสียงแหบแห้ง
"ประธานหลิน เอ่อ..."
หม่าไห่หยุดชะงักและสุดท้ายก็พยักหน้ากล่าว "ผมจะรีบไปจัดการเรื่องเครื่องบินครับ
"อืม!"
หลินหยางสูดหายใจเข้าและวางโทรศัพท์ในมือลงพร้อมกับรีบออกเดินทาง
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาก็นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวเพื่อมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง
ขณะนี้คนของตระกูลหานต่างพากันร้องไห้เสียงดังระงม
โถงพิธีไว้ทุกข์ของหานลั่วได้ถูกจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
คนที่อายุน้อยของตระกูลหานต่างพากันนั่งคุกเข่าร้องไห้อย่างโศกเศร้าอยู่เต็มสองข้างของโถงไว้ทุกข์
แม้ว่าอายุและศักดิ์ของหานลั่วในตระกูลจะไม่สูง แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดที่อายุน้อยของอาณาจักรมังกร ทำให้เขามีความสำคัญต่อตระกูลหานเป็นอย่างมาก
ทำให้ตระกูลหานร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำขึ้นได้เพราะเขา
ตอนนี้กลับต้องสูญเสียหานลั่วไป ทำให้ตำแหน่งสถานะของตระกูลหานในเมืองหลวงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ผู้นำตระกูลหานนั่งอยู่ข้างโลงศพทางด้านขวาพร้อมกับจ้องมองไปที่กระดาษสีเหลืองด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ผมของเขาเป็นสีหงอกและใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
ราวกับว่าเขาได้แก่ลงนับสิบปีเพียงชั่วข้ามคืน
"คุณพ่อ!"
หานปู้เหว่ยเดินเข้ามาพร้อมกับกระซิบเรียก
"ปู้เหว่ย มีแขกมาเหรอยัง?"
ผู้นำตระกูลหานถามเสียงแหบแห้ง
หานปู้เหว่ยอ้าปากและได้แต่ส่ายหน้า
ผู้นำตระกูลหานเบิกตากว้างและจากนั้นก็หลับตาลง
เหมือนอย่างสำนวนที่ว่า เมื่อคนจากไปอะไรก็ไม่เหมือนเดิม
ตระกูลหานเมื่อไม่มีหานลั่วก็ไม่มีใครให้ความสำคัญอีกต่อไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้หานลั่วจะถูกลดตำแหน่งเพราะความผิดพลาดของเขา ทว่าความสามารถของเขายังคงมีอยู่อย่างเห็นได้ชัดและทุกคนก็ต่างรู้ดีว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลับขึ้นมายังตำแหน่งเดิม
แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่อยู่แล้ว....
ยังจะมีใครให้ความสำคัญต่อตระกูลหานอีกบ้าง?
"ช่างเถอะ!"
ผู้นำตระกูลถอนหายใจและกล่าวออกมา "ไม่มีใครมาก็ช่างเถอะ ตระกูลของเราก็ไม่ได้ต้องการพวกคนจอมปลอมเหล่านั้นเท่าไรหรอก!"
หานปู้เหว่ยไม่พูดอะไร
คนของตระกูลหานต่างสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน
"ถ้าเราไม่ให้ล่ะ?" ผู้นำตระกูลหานกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"งั้นเกรงว่า...ตระกูลหานคงไม่สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อีกต่อไป"
หนิงหงส่ายหน้า
"ที่แท้คุณก็มาเพื่อขู่กรรโชกทรัพย์นี่เอง!"
ผู้นำตระกูลหานกล่าวด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"ผู้นำหาน คุณอย่าพูดแบบนี้เลย ผมไม่ได้มาเพื่อขู่กรรโชกทรัพย์ แต่ผมมาเพื่อปกป้องพวกคุณต่างหาก!"
"ปกป้องตระกูลหาน?"
"ไม่ใช่เหรอ? คุณต้องรู้ว่าข่าวการตายของหานลั่วได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว ทุกคนต่างรับรู้แล้ว และหลายปีมานี้ตระกูลหานของพวกคุณก็มีเรื่องบาดหมางกับใครกี่คน? แถมยังมีศัตรูอีกตั้งเท่าไร พวกคุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี! ก่อนหน้านี้มีหานลั่วอยู่ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรตระกูลหาน แต่ตอนนี้หานลั่วตายไปแล้ว ใครจะยังกลัวตระกูลหานของพวกคุณอีก?"
"ผมคิดว่าอีกไม่นานศัตรูเหล่านั้นของตระกูลหานจะต้องเริ่มแผนการล้างแค้นต่อพวกคุณ หากไม่มีใครคอยปกป้องตระกูลหานของพวกคุณจะต้องไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน!"
"ฉะนั้น เพียงแค่ตระกูลหานของพวกคุณยอมรับเงื่อนไขที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่! ตระกูลหนิงของผมจะเป็นคนปกป้องพวกคุณไม่ให้ได้รับอันตรายใดๆ เลย!"
หนิงหงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อพูดจบ คนของตระกูลหานก็ต่างแสดงสีหน้าแข็งกร้าวและแววตาที่เผยให้เห็นความหวาดกลัวพร้อมกับต่างพากันเงียบลง
หนิงหงพูดถูก
นี่คือวิกฤติครั้งใหญ่ที่ตระกูลหานต้องเผชิญในขณะนี้!
ผู้นำตระกูลหานหลับตาลงและครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
แต่ขณะนี้เองก็มีเสียงดังขึ้น
จากนั้นก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในโถงไว้ทุกข์
"พวกคุณคิดจะทำอะไร? ใครบอกให้พวกคุณเข้ามา?"
"หยุดเดี๋ยวนี้! ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!"
ผู้ดูแลตระกูลอาวุโสพยายามเข้าไปขวาง แต่ก็ไม่เป็นผลและกลับถูกชายร่างกำยำผลักล้มลงกับพื้น
"สารเลว!"
หานปู้เหว่ยโกรธมากและรีบพุ่งตัวออกไปเตรียมลงมือ
แต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้มีร่างกายกำยำและมีความสามารถมาก ซึ่งสู้กันเพียงไม่นานหานปู้เหว่ยก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและถูกคุมตัวลงกับพื้น
"สารเลว!"
คนของตระกูลหานต่างพากันโกรธแค้นและต่างพากันเข้าไปปิดล้อม
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
ผู้นำตระกูลหานตะคอกเสียงดัง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...