หลินหยางขมวดคิ้วและจ้องมองหญิงคนนั้นอย่างระมัดระวัง
"เรายังไม่เริ่มเจรจากันเลย! คุณรู้ได้ยังไงว่าผมคิดจะร่วมมือทำอะไรกับคุณ?"
"เหมือนว่าคุณจะเข้าใจอะไรผิดไป ฉันต่างหากที่ต้องการร่วมมือกับคุณ คุณต้องการร่วมมืออะไรกับฉัน ฉันไม่สนใจที่จะรับรู้หรอก"
ผู้นำปิงกล่าว
หลินหยางได้ยินเข้าก็เข้าใจทุกอย่างได้ทันที
ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว
ผู้นำปิงเห็นความสำคัญของหลินหยางและคิดจะหลอกใช้ก็เลยแสร้งทำเป็นพูดดีกับเขา
หากหลินหยางไม่มีค่าไม่สำคัญ เขาคงไม่สามารถมาเจอผู้นำปิงได้แน่นอน!
แม้ว่าในใจหลินหยางจะรู้สึกไม่ดีอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออก
"งั้นก็เชิญคุณพูดรายละเอียดมาได้เลย!"
"เมื่อครู่ฉันเห็นคุณใช้ไฟประหลาด คาดว่าคุณต้องเชี่ยวชาญทักษะการใช้ไฟประหลาดอย่างแน่นอน อีกสามวันฉันและผู้นำอีกสองคนจะจัดการแข่งขันยอดปรมาจารย์ขึ้น! เนื้อหาที่เราจะนำมาแข่งขันกันก็คือการปรุงกลั่นยา! ในเมื่อคุณถนัดการใช้ไฟประหลาด เช่นนั้นคุณก็ต้องช่วยให้ฉันชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้ ฉะนั้นฉันต้องการให้คุณช่วยฉัน!"
ผู้นำปิงกล่าว
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง?"
หลินหยางพยักหน้า "ผมเองก็พอมีความรู้ด้านการปรุงกลั่นอยู่บ้าง เรื่องนี้เล็กน้อยมาก!"
"ดีมาก!"
ผู้นำปิงโบกมือ "จือหลาน พาพวกเขาออกไปพร้อมกับจัดหาที่พักและอาหารให้พวกเขา เสร็จแล้วก็รอฉันเรียกพบ!"
"รับทราบค่ะ!"
ผู้หญิงคนก่อนหน้าพยักหน้าและจากนั้นก็พาหลินหยางออกไป
"ช้าก่อน!"
หลินหยางตะโกนออกไปและมองไปที่ผู้นำปิง "การร่วมมือของเรามีเพียงเท่านี้เหรอ?"
"คุณยังมีปัญหาอะไรอีกเหรอ?" ผู้นำปิงขมวดคิ้วถาม
"ผู้นำปิง ผมช่วยคุณปรุงกลั่นยาเพื่อให้ชนะการแข่งขันยอดปรมาจารย์ครั้งนี้ คุณได้ประโยชน์ไปเต็มๆ แล้วผมล่ะ? ผมจะได้ประโยชน์อะไรมากสิ่งนี้บ้าง?"
หลินหยางถามกลับ
หมิงเต้าจื่อที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเข้าก็ตกใจจนแทบเป็นลม
"สารเลว! โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีโอกาสคอยสนับสนุนผู้นำปิง นี่ถือเป็นเกียรติและความสำเร็จสูงสุดของคุณแล้ว! ยังกล้าจะพูดถึงเงื่อนไขอะไรอีกเหรอ?"
ผู้หญิงที่ชื่อจือหลานจ้องมองหลินหยางด้วยความโกรธจัด ท่าทางของเธอเหมือนอยากจะถลกหนังเขาออกมาให้ได้ยังไงยังงั้น
"นี่คือผู้นำของคุณ ไม่ใช่ของผม!"
หลินหยางกล่าว "ผู้นำปิง ในเมื่อคุณพูดว่าเป็นการร่วมมือ เช่นนั้นทั้งสองฝ่ายก็ควรได้รับประโยชน์ ไม่ใช่มีเพียงฝ่ายเดียวที่ได้ประโยชน์ ไม่งั้นก็คงเรียกว่าความร่วมมือไม่ได้ แต่กลับเป็นการหลอกใช้! หากคุณคิดจะหลอกใช้ผมอย่างเดียวละก็! เกรงว่าผมคงไม่มีทางตอบตกลงอย่างแน่นอน!"
"คุณ...รนหาที่ตายหรือไง?"
จือหลานชักดาบที่เอวออกมาและชี้ไปที่คอของหลินหยาง
หลินหยางเองก็ไม่อยู่เฉย เขาพลิกฝ่ามือหยิบมีดเทียนเซิงออกมาจนทำให้ดาบนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ
จือหลานสูดหายใจเข้าและยังคิดจะลงมืออีก
"หยุด!"
ผู้นำปิงตะโกนออกไป
"ผู้นำ..."
"ถอยไปซะ!"
ผู้นำปิงกล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น
จือหลายเม้มริมฝีปากและก้มหน้ากล่าว "รับทราบค่ะ!"
"มีดนี้ของคุณน่าสนใจมาก..."
ผู้นำปิงกวาดสายตามองมีดเทียนเซิงและกล่าวออกไป "คุณต้องการอะไร?"
"คนของผมถูกคนของหุบเขาเทพเซียนจับตัวไปและกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมหวังว่าคุณจะสามารถช่วยคนของผมออกมาได้!"
หลินหยางกล่าว
"อ้อ?"
ผู้นำปิงมองไปที่หลินหยางด้วยความประหลาดใจพร้อมกับส่ายหน้า "แม้ว่าคนของเราจะขัดแย้งกับคนของหุบเขาเทพเซียนมาตลอด แต่เราก็ไม่ได้คิดสร้างปัญหา เป้าหมายของเราคือตามหาความเป็นอมตะนิรันดร์และพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเส้นทางนี้จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างมีสมาธิ แม้ว่าฉันยอม แต่คนในเผ่าจะต้องไม่มีใครยอมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้อย่างแน่นอน"
"จริงเหรอ?"
หลินหยางแสดงทีท่าเคร่งขรึม
"แต่ฉันจะช่วยคุณ"
ผู้นำปิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง "ฉันเป็นตัวแทนของเผ่าไปเจรจากับหุบเขาเทพเซียนได้ ในมือของฉันมีคนของหุบเขาเทพเซียนอยู่บ้าง หากคุณทำให้ฉันชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้ ฉันสามารถใช้คนของหุบเขาเทพเซียนแลกกับคนของคุณได้!"
เมื่อพูดออกไป แววตาของหลินหยางก็เปล่งประกาย
"งั้นผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้าก่อนเลย!"
"ไม่ต้องรีบขอบคุณหรอก วันแข่งขันใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!"
ผู้นำปิงกล่าวและจากนั้นก็ค่อยๆ หลับตาลง
"เร็วเข้า ทำให้มันเร็วๆ หน่อย ถ้าทำให้คุณชวี่เจิ้งเสียเวลาขึ้นมาละก็ พวกคุณไม่มีทางรับผิดชอบได้แน่!"
ณ บนหุบเขาเทียนเสิน อวี่ซือชงกำลังยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่และคอยพยายามตะโกนสั่งให้คนงานทำงาน
หลังจากที่การต่อสู้จบลง กลุ่มพันธมิตรชิงเซวียนก็เข้ามาบริหารดูแลหุบเขาเทียนเสิน
และสิ่งที่ทำให้หลินหยางดีใจก็คือ แม้ว่าหลายกลุ่มพันธมิตรจะบุกเข้ามาปล้นตำหนักเทียนเสิน ทำให้พันธมิตรชิงเซวียนไม่ได้อะไรเลย ทว่าถึงอย่างไรหุบเขาเทียนเสินก็ตกเป็นของพันธมิตรชิงเซวียนจนได้
และหุบเขาขนาดใหญ่มหึมานี้ก็กลับเป็นหุบเขาแห่งสมบัติ!
ตอนแรกที่หลินหยางพยายามที่จะครอบครองหุบเขาแห่งนี้ก้เป็นเพราะภายในหุบเขาแห่งนี้มีตำหนักนั้นที่มีเส้นทางมุ่งไปสู่ประตูใต้ดินดินแดนชีพจรมังกร แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าหุบเขานี้ไม่เพียงจะมีตำหนัก แต่ยังมีแร่ชนิดพิเศษอีกจำนวนมากมายมหาศาล
แร่ธาติชนิดนี้มีประโยชน์และสำคัญต่อนักต่อสู้ทางการแพทย์อย่างมาก หากใช้มันทำเป็นอุปกรณ์เครื่องมือจะทำให้สามารถเพิ่มพละกำลังปราณในร่างกายได้ แถมยังสามารถช่วยในการปรุงกลั่นยาได้อีกด้วย
ฉะนั้นพันธมิตรชิงเซวียนจึงคิดขุดค้นหุบขาเทียนเสิน
ชวี่เจิ้งรู้สึกให้ความสนใจต่อแร่ธาติชนิดนี้อย่างมาก เขาคิดจะศึกษาวิจัยอย่างเจาะลึก
แต่เพราะความต้องการที่มากเกินไป ทำให้ตอนนี้แร่ธาตุเกือบครึ่งที่ถูกขุดเจาะได้ถูกวางกองอยู่ในห้องวิจัยของเขาจำนวนมาก
ทว่าหลินหยางได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก
เขาเชื่อในความสามารถของชวี่เจิ้ง โปรเจ็คที่ชวี่เจิ้งหมกมุ่นศึกษาวิจัยอย่างคลุ้มคลั่งนี้ หากได้เรื่องขึ้นมาละก็จะต้องเป็นอะไรที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกอย่างแน่นอน
ฉะนั้นพันธมิตรชิงเซวียนได้ส่งคนไปกว่าหนึ่งหมื่นคนเพื่อเข้าไปทำการขุดค้นในหุบเขาเทียนเสินโดยมีตระกูลอ่าวเป็นผู้รับผิดชอบดูแล
เมื่อเห็นการทำงานเบื้องหน้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อวี่ซือชงก็จุดบุหรี่เพื่อสูบอย่างสำราญใจ
"คุณครับ คุณครับ!"

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...