สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 330

แต่ตัวเธอเองก็พอจะเข้าใจได้ เนื่องจากนิสัยที่ตรงไปตรงมาของเธอ ในสมัยเรียนจึงน่าจะทำให้คนอื่นไม่พอใจไม่น้อย แม้ว่าจะมีบางคนที่พูดแทนจางชิงหยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้คนส่วนใหญ่ยืนอยู่ฝั่งของหลีเสี่ยวเหมย

อย่างไรก็ตามทุกคนไม่ใช่เด็กแล้ว

มันไม่ใช่วัยที่จะมาพูดถึงเรื่องของความรู้สึก แต่มันถึงวัยที่ควรจะมาพูดถึงเรื่องของผลประโยชน์กันแล้ว…

จางชิงหยู่และซูกวงไม่รู้จะทำยังไง คนธรรมดาอย่างพวกเขาจะไปสู้รปภ.สองคนได้ยังไง?

แต่แล้วในช่วงเวลาที่คับขัน…

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

มีเสียงตะโกนดังขึ้น

หลังจากนั้นมีคนคนหนึ่งเดินออกมาผลักรปภ.ทั้งสองคนออกไป

“ไอ้ตัวเหม็น กล้าดียังไงมาอวดดีที่นี่?” หัวหน้ารปภ.ไม่สบอารมณ์คิดจะลงมือทันที

หลินหยางกลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ผมจำได้ว่าเถ้าแก่ของคุณคือปี้จือหยุนใช่หรือเปล่า? คุณอยากทำอะไรผมก็ได้ แต่คุณควรจะเตรียมใจรับผลที่ตามมาไว้ด้วย!”

ลมหายใจของหัวหน้ารปภ.หยุดชะงัก

เป็นเรื่องจริงที่เจ้าของภัตตาคารไค่เหมิงคือปี้จือหยุน แต่ผู้คนทั่วไปรู้จักแต่เติ้งหงเชาที่เป็นเถ้าแก่ในนาม ไม่มีใครรู้ว่าปี้หงเชาเป็นใคร

“คุณ…คุณเป็นใคร?” หัวหน้ารปภ.ถามด้วยความระมัดระวัง

“ก่อนหน้านี้ผมพูดไปแล้ว ผมคืนรองประธานบริษัทเยว่เหยียนกรุ๊ป!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“เยว่เหยียนกรุ๊ป?”

“ไม่เคยได้ยินเลย!”

“มีบริษัทนี้อยู่ด้วยเหรอ?”

แขกมากมายเริ่มพากันถกเถียง

ในตอนนั้นเอง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน

คนคนนั้นดันขอบแว่นของตัวเองแล้วพูดกับหลินหยาง “คุณหลิน เยว่เหยียนกรุ๊ปที่คุณพูดถึงชื่อเต็มคือเยว่เหยียนบิวตี้อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ปใช่หรือเปล่า?”

คำพูดประโยคนี้ทำให้จางชิงหยู่และซูกวงสะดุ้ง

“ถูกต้อง บริษัทนี้แหละ” หลินหยางพยักหน้า

“แล้วแบบนี้ บริษัทของคุณมันจะต่างอะไรกับบริษัทที่มีแต่ชื่อ?” คนคนนั้นส่ายหัวแล้วพูด

“ผู้จัดการหลิว คุณรู้จักเยว่เหยียนกรุ๊ปด้วยเหรอ?” คนที่อยู่ด้านข้างถาม

“รู้จัก ช่วงก่อนทางบริษัทของเราต้องการสั่งอุปกรณ์ความงามล็อตใหญ่ คุณซูของเยว่เหยียนกรุ๊ปมาหาทางเรา และได้เซ็นสัญญาการสั่งซื้อกับทางบริษัทเรา แต่ต่อมาเกิดเรื่องขึ้นกับคุณซูจนต้องเข้าโรงพยาบาล เรื่องนี้ก็เลยถูกระงับเอาไว้ชั่วคราว หลังจากที่ทางบริษัทของเราตรวจสอบ พบว่าเยว่เหยียนกรุ๊ปไม่มีกำลังพอที่จะรับโครงการนี้ ทางเราจึงยกเลิกโครงการนี้ไป”

“ไม่มีกำลังพอที่จะรับโครงการนี้? ผู้จัดการหลิว คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” มีคนถามขึ้นทันที

แต่แล้วผู้จัดการหลิวกลับส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ความหมายมันก็ง่ายมาก ทางเราคาดการณ์ว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเยว่เหยียนกรุ๊ปมีไม่เกินสิบล้าน”

“อะไรนะ?”

“สิบล้าน?”

ทุกคนเบิกตากว้าง

แม้ว่าเงินสิบล้านสำหรับคนทั่วไปแล้วถือว่ามากโขเลยทีเดียว แต่ในเจียงเฉิน เงินแค่นี้ยังไม่ได้ถือว่าเป็นบริษัทใหญ่

แล้วนับประสาอะไรกับ…รองประธานบริษัทแบบนี้?

“อะไรกันเนี่ย! เอาไปเอามาที่แท้ก็แบบนี้เองเหรอ?”

“ผมก็นึกว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติอะไรซะอีก! ที่แท้ก็บริษัทเล็กๆเอง!”

“จะเสแสร้งไปถึงไหนเนี่ย!”

“ตลก!”

ผู้คนที่อยู่โดยรอบพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

สีหน้าของซูกวงและจางชิงหยู่หน้าแดงก่ำ

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนรู้จักบริษัทของซูเหยียนด้วย

เดิมทีพวกเขาคิดจะไหลไปตามน้ำ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับมีคนกระโดดออกมาบอกว่ารู้จัก

“ไอ้หนู ที่แท้ก็มีสถานะแบบนี้เองเหรอ? ผมก็นึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนเสียอีก! ดูเหมือนคุณกำลังขู่ผมอยู่ใช่หรือเปล่า?” หัวหน้ารปภ.คนนั้นรู้สึกโกรธจนถึงขีดสุด เขาชี้หน้าหลินหยางแล้วพูด

แต่หลินหยางกลับส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ผู้จัดการหลิว ผมคิดว่าคุณไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเยว่เหยียนกรุ๊ปเลยสักนิด เยว่เหยียนกรุ๊ปได้เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทหยางหัวกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ทางหยางหัวกรุ๊ปเตรียมลงทุนเงินห้าร้อยล้านเพื่อพัฒนาเยว่เหยียนกรุ๊ป นอกจากนี้แล้ว ผลิตภัณฑ์ชุดแรกของเยว่เหยียนกรุ๊ปพัฒนสำเร็จแล้ว ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน พวกเราจะเปิดตัวในปีหน้า! ผมไม่คิดว่าบริษัทที่มีอนาคตแบบนี้จะเป็นบริษัทเล็กๆเหมือนกับที่คุณพูด”

“ยังจะปากแข็งอีก คุณสามารถหลอกทุกคนในที่นี้ แต่ไม่สามารถหลอกผม อย่างไรก็ตามผมเคยทำงานร่วมกับเยว่เหยียนกรุ๊ปมาแล้ว” ผู้จัดการหลิวคนนั้นส่ายหัวแล้วพูด “นอกเสียจากคุณจะสามารถยืนยันศักยภาพของเยว่เหยียนกรุ๊ปให้ผมเห็น ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่คำพูดของคุณ ไม่มีใครเชื่อหรอก!”

“แล้วคุณจะให้ผมยืนยันยังไง?” หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“เรื่องนี้…” ผู้จัดการหลิวครุ่นคิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา