“ทำบ้าอะไรเนี่ย? เอาไปเอามา ที่แท้ครอบครัวนี้ก็มาเพื่อเสแสร้งทำตัวอวดรวยเหรอ?”
“หรือนี่ก็คือพวกเสแสร้งในตำนาน?”
“ผมว่าแล้ว หลินหยางคนนั้นเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลซู เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เอาแต่เกาะผู้หญิงกิน จะไปเจริญก้าวหน้าได้ยังไง?”
“ฮื่ม จางชิงหยู่นี่ก็จริงๆเลย ไม่มีเงินก็ไม่มีเงินสิ ยังจะอวดอะไรนักหนา! น่าขำสิ้นดี”
“ใช่ ที่นี้ได้ขายหน้าสมใจแล้วไหมล่ะ?”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่หยุด
สีหน้าของจางชิงหยู่แดงจนถึงขีดสุด
เธอในตอนนี้แทบอยากจะหารูที่ไหนสักแห่งแล้วมุดลงดินไปเลย
นี่มันเป็นการเสียหน้าที่น่าอับอายมาก!
“อากวง เรา…เราไปกันเถอะ…พวกเราไปกันเถอะ…” จางชิงหยู่ก้มหน้ากระตุกแขนเสื้อของสามี คิดจะไปจากที่นี่
เธอในตอนนี้คิดเพียงอยากจะกลับบ้าน
หลินหยางถอนหายใจไม่ได้พูดอะไร ตั้งใจจะกลับบ้านเหมือนกัน
แต่ในตอนนั้นเอง ประตูใหญ่กลับปิดลงอย่างกะทันหัน
จางชิงหยู่รู้สึกอึ้งเล็กน้อย หันไปมอง เห็นเพียงหลีเสี่ยวเหมยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“จางชิงหยู่ พวกคุณจะไปจากที่นี่ทั้งแบบนี้ไม่ได้!”
“เสี่ยวเหมย เธอคิดจะทำอะไร?” จางชิงหยู่มองเพื่อนสมัยเรียนที่ตัวเองรู้จักมานานหลายสิบปีคนนี้ด้วยความตกใจ
เธอจำได้ผู้หญิงคนนี้เป็นหัวหน้าห้องสมัยเรียนมัธยม เธอเป็นคนนิสัยดีและฉลาด ได้ใจของนักเรียนทุกคน รวมไปถึงจางชิงหยู่ก็รู้สึกชอบเธอมากเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้รู้จักกันนานวันเข้า จางชิงหยู่เริ่มพบว่าหลีเสี่ยวเหมยคนนี้เป็นคนทะเยอทะยานก้าวอยู่บนเส้นทางที่ดีที่สุดเสมอ แม้วันนี้ชีวิตของเธอจะเป็นไปได้อย่างสวยงาม แต่ไม่รู้ทำไม จางชิงหยู่รู้สึกว่าเธอและตัวเองมันอยู่กันคนละโลกไปแล้ว
หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะ หลีเสี่ยวเหมยไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนมาตั้งแต่แรก…
จางชิงหยู่หวังว่าหลีเสี่ยวเหมยจะเห็นแก่ในฐานะที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกัน ปล่อยให้เธอไปจากที่นี่ เธอจะได้สามารถรักษาความมั่นใจที่เหลือเพียงน้อยนิดของตัวเองไว้ได้
แต่เห็นได้ชัด…หลีเสี่ยวเหมยไม่คิดจะทำแบบนั้น…
“จางชิงหยู่ คุณมาก่อปัญหาที่งานเลี้ยงของฉันฉันไม่ว่าอะไร แต่นี่คุณยังสนับสนุนให้ลูกเขยของตัวเองทำร้ายคุณแดนมัวร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสั่งให้ลูกเขยของคุณใส่ของก็อปเดินไปเดินมา ถ้าหากเป็นชุดสูทธรรมดาฉันจะไม่ว่าอะไรเลย ฉันสามารถเห็นแก่ที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนทำเหมือนกับไม่เห็น แต่ชุดสูทที่เขาสวมใส่เป็นของก๊อปผลงานของคุณแดนมัวร์ ครอบครัวของคุณไม่ให้เกียรติคุณแดนมัวร์ คุณแดนมัวร์เป็นแขกคนสำคัญของฉัน พวกคุณไม่ให้เกียรติเขาก็เท่ากับไม่ให้เกียรติฉัน! ฉันต้องการให้พวกคุณขอโทษฉันและคุณแดนมัวร์! ไม่อย่างนั้น…พวกคุณอย่าหวังว่าจะได้เดินออกจากประตู!” หลีเสี่ยวเหมยพูดอย่างมีความชอบธรรม
คำพูดประโยคนี้ทำให้สีหน้าของจางชิงหยู่ซีดจนไม่เห็นเลือด
เธอถึงกับเซถอยหลัง เบิกตากว้างมองหลีเสี่ยวเหมยอย่างไม่เชื่อสายตา
ในขณะเดียวกัน เพื่อนนักเรียนคนอื่นก็เริ่มพูดขึ้น
“เสี่ยวเหมยพูดถูก ชิงหยู่ คุณทำแบบนี้มันไม่ถูก!”
“พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนสักหน่อย ทำไมพวกคุณต้องทำแบบนี้!”
“ชิงหยู่ นี่มันก็หลายปีแล้ว คุณยังแก้นิสัยเอาหน้าของตัวเองไม่ได้อีกเหรอ? เหอะเหอะ น่าขำสิ้นดี”
“ขายหน้ามาก ชิงหยู่ คุณคิดว่าคุณเสียหน้าคนเดียวเหรอ? สิ่งที่คุณทำมันทำให้ทุกคนเสียหน้าด้วย คุณรีบไปขอโทษเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นเรื่องมันไม่จบแน่นอน!”
“ใช่ รีบขอโทษเลย!”
“ขอโทษ!”
“จางชิงหยู่ ไม่ได้ยินเหรอ? ขอโทษเดี๋ยวนี้!”
...
มีเสียงพูดต่างๆนานาดังขึ้นภายในห้อง
ท่าทางของแต่ละคนดูโกรธมาก
จางชิงหยู่จมอยู่กับคำพูดตำหนิของทุกคนในทันที
เธอกัดริมฝีปาก น้ำตานองเบ้า สองมือเกี่ยวกันแน่น
มาจนถึงขั้นนี้เธอไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
เพื่อนสมัยเรียนพวกนี้สร้างแรงกดดันให้เธอมากเกินไป
ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว!
เธอรู้สึกว่าตัวเองแทบจะหายใจไม่ออก
เห็นเพียงเธอก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าว…
“ชิงหยู่…” ซูกวงรีบเรียกเธอ
จางชิงหยู่ไม่ได้พูดอะไร เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของแดนมัวร์และหลีเสี่ยวเหมย เธอมองคนทั้งสองอย่างไร้เรี่ยวแรงแล้วพูด
แต่วินาทีต่อมา…
เพี๊ยะ!
เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...