เห็นท่าทางที่ก้มหัวลดเอวต่ำของลูกชาย จูเฟยเฟยรู้สึกโมโหจนหน้าแดงและแทบจะหายใจไม่ทัน
“หลิงจือห่าว ไสหัวกลับมานี่เลย!”
จูเฟยเฟยทนไม่ไหวอีกแล้ว เธอเดินเข้าไปดึงหูของลูกชายตัวเองกลับมา
“โอ๊ย…แม่…แม่ทำอะไรของแม่เนี่ย? เบาหน่อย…เบาหน่อย!” หลิงจือห่าวถึงกับร้อง
ทุกคนที่อยู่ในห้องมองไปทางสองแม่ลูก
“เบาหน่อย? แกทำให้ฉันขายหน้าหมดแล้ว แค่นี้ยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ?” จูเฟยเฟยพูด
จางชิงหยู่ในตอนนี้รู้สึกสะใจจนขนลุก เธอหรี่ตาลงมองหลิงจือห่าว ยิ้มแล้วพูด “เฟยเฟย คุณอย่าไปโทษลูกชายของตัวเองเลย มันเป็นเพราะลูกเขยของฉันดีเกินไป ลูกชายของคุณรู้สึกนับถือมันก็เป็นเรื่องปกติ!”
“คุณ…คุณอย่าให้มันได้ใจมากเกินไป!” จูเฟยเฟยลากหลิงจือห่าวไปด้านหนึ่ง
“เฟยเฟย เธอจะรีบไปไหน…” จ้าวชิงหยู่ตั้งใจตะโกนเสียงดัง แต่บนใบหน้าของเธอมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สะใจ
ในเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากที่สุดของวันนี้แล้ว!
ในที่สุดก็ถือว่าได้ระบายความคับแค้นใจ!
“เสี่ยวหยาง แกรู้จักยี่ห้อแบรนด์เนมที่หลิงจือห่าวได้ยังไง?” ในตอนนั้นเอง ซูกวงถามออกมาอย่างกะทันหัน
แม้เขาเองก็รู้สึกมีความสุข แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามความสงสัยในใจออกมา
“ใช่แล้ว แกรู้ได้ยังไง?” จางชิงหยู่ที่ตั้งสติได้ก็ถามด้วยอีกคน
“อ๋อ ปกติเวลาที่ผมไม่มีอะไรทำก็ชอบเอานิตยสารมาอ่านเล่น แล้วบังเอิญมีนิตยสารเล่มหนึ่งกำลังพูดถึงชุดที่หลิงจือห่าวสวมใส่พอดี พ่อ แม่ พวกคุณอย่าเห็นว่าการแต่งตัวของหลิงจือห่าวดูดีมาก อันที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่มีรสนิยมค่อนข้างต่ำ ที่เขาใส่แบบนี้ล้วนแต่ทำตามคำแนะนำในนิตยสาร ดังนั้นผมจึงมองออกได้ในทันที” หลินหยางยิ้มแล้วยิ้มอีก
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!” ซูกวงเข้าใจทุกอย่างแล้ว
“ฮึ่ม ดูเหมือนวันๆแกเอาแต่อยู่บ้านก็พอจะทำอะไรที่มันมีประโยชน์เหมือนกัน!” จางชิงหยู่ส่งเสียงฮึ่ม มองไปทางหลินหยางแล้วพูด ท่าทางที่ดูใจร้ายของเธอลดลงไปมาก
แต่ในตอนนั้นเอง มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับสำเนียงภาษาจีนที่พูดไม่ชัดดังเข้าไปในหูของคนทั้งสาม
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นเพื่อนของคุณหลีหรือเปล่า?”
คนทั้งครอบครัวหันไปมองพร้อมกัน กลับเห็นผู้ชายไว้หนวดเคราผมสีทองคนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านข้างโต๊ะ เขากำลังมองมาทางหลินหยาง
“ใช่ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า?” หลินหยางถามกลับ
“อ๋อ คือแบบนี้คุณสุภาพบุรุษ ผมขออนุญาตสัมผัสเสื้อสูทที่คุณสวมใส่ได้หรือเปล่า?” ผู้ชายคนนั้นยิ้มแล้วพูด
“เรื่องนี้…” หลินหยางลังเล
แต่จางชิงหยู่กลับดูได้ใจมากอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มแล้วพูดออกไปโดยตรง “จับเลย! เหอะเหอะ คนบ้านนอกอย่างคุณคงจะไม่เคยเห็นเสื้อสูทราคาแพงขนาดนี้มั้ง? ฉันจะบอกอะไรคุณ เสื้อสูทตัวนี้ราคาตั้งหลายแสนเลยนะ! มีแต่ลูกเขยของฉันเท่านั้นแหละที่คู่ควรจะใส่ชุดแบบนี้!”
“ชิงหยู่!”
ซูกวงรีบตะคอกเสียงเบา
จางชิงหยู่สะดุ้ง เหมือนเพิ่งจะนึกอะไรบางอย่างได้
แต่…มันสายไปแล้ว!
ชายต่างชาติคนนั้นยื่นมือออกไปสัมผัสชุดสูทของหลินหยางโดยไม่คิดทันที
หลินหยางรีบยื่นมือออกไปจับข้อมือของผู้ชายคนนั้นเอาไว้
นิ้วมือทั้งห้าของเขาค้างอยู่บนหัวไหล่ของหลินหยาง…
“ฮืม? คุณกำลังจะทำอะไร?” ชายต่างชาติถามด้วยความประหลาดใจ
“ผมควรจะเป็นคนถามคุณมากกว่า? คุณทำอะไร?” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ผมก็แค่รู้สึกว่าค่อนข้างชอบชุดสูทที่คุณสวมใส่ อยากจะรู้ว่ามันทำจากวัสดุอะไรก็เท่านั้น!” ชายต่างชาติขมวดคิ้วแล้วพูด “คุณช่วยปล่อยมือของคุณได้หรือเปล่า? คุณทำให้ผมรู้สึกเจ็บแล้ว!”
“ปล่อยมือได้อยู่แล้ว แต่ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะต้องตัวผม หวังว่าคุณจะเข้าใจ!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแล้วปล่อยมือ
“โอ้พระเจ้า ที่นี่มีคนหยาบคายแบบคุณได้ยังไง? ”
ชายต่างชาติร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกินจริงไปมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...