มีผู้คนมากมายอดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินหยาง
“คนคนนี้ก็คือลูกเขยของจางชิงหยู่?”
“ทำไม? รู้จักเขาเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น? ดูเหมือนลูกเขยคนนี้จะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้ามาอยู่บ้านของเธอ และคนคนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงกิน! วันๆอยู่แต่บ้านไม่ทำอะไรเลย!”
“แหมแหมแหม…แบบนั้นก็ไม่เท่ากับว่าเป็นไอ้พวกเด็กหน้าขาวเหรอ? ผมเกลียดคนแบบนี้มากที่สุด!”
“แต่ดูจากท่าทางลูกเขยของเธอ ไม่เห็นเหมือนเลย! ดูแล้วก็เหมือนคนที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นการแต่งตัวของเขา…ดูเหมือนจะเป็นชุดสูทอาร์มานี่สั่งทำพิเศษ ผมได้ยินว่าชุดสูทตัวนี้ราคาหลายแสนเลยนะ!”
“น่าจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!”
แขนทุกคนเริ่มพากันกระซิบกระซาบ พวกเพื่อนสมัยเรียนงงเป็นไก่ตาแตก
หลิงจือห่าวและจูเฟยเฟยรู้สึกอึ้งเล็กน้อย คนทั้งสองมองหลินหยางตั้งแต่หัวจรดเท้า หลิงจือห่าวขมวดคิ้วแล้วพูด “ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณ ดูเหมือนคุณจะเป็นลูกเขยไร้ประโยชน์ที่แต่งเข้าบ้านคนนั้นใช่หรือเปล่า? คนที่เอาแต่เกาะผู้หญิงกินคนนั้น? ทำไม? ตอนนี้เจริญก้าวหน้าแล้วเหรอ? คิดจะมาทำอะไรเสแสร้งต่อหน้าผม?”
“เกาะผู้หญิงกินอะไร? ลูกเขยของฉันเก่งจะตาย! ตอนนี้เขาเป็นรองประธานบริษัทเยว่เหยียนกรุ๊ป! คุณเป็นใคร? ถึงกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้มาคุยกับลูกเขยของฉัน?” จางชิงหยู่มือเท้าเอวข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างชี้หน้าหลิงจือห่าว
“เยว่เหยียนกรุ๊ป” หลิงจือห่าวรู้สึกอึ้ง
“จือห่าว เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้หรือเปล่า?” จูเฟยเฟยที่อยู่ด้านข้างถามด้วยความสงสัย
“แม่ ผมอยู่ในเจียงเฉินมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินชื่อเยว่เหยียนกรุ๊ปอะไรนี่เลย” หลิงจือห่าวส่ายหัว
“คุณคงจะไม่ได้เอาชื่อของบริษัทที่มีแต่ชื่อมาขู่คนอื่นหรอกมั้ง?” จูเฟยเฟยยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
“มีแต่ชื่ออะไร? เยว่เหยียนกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เปิดอย่างเป็นทางการ!พวกคุณไม่เคยได้ยินก็คงต้องบอกว่าพวกคุณมันเป็นกบในกะลา!” จางชิงหยู่รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าไหร่
อันที่จริงเยว่เหยียนกรุ๊ปของซูเหยียนก็ถูกมองว่าเป็นบริษัทที่มีแต่ชื่อ…เพราะเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน
“แต่ว่า…รถที่พวกคนขับคือBMWซีรีส์5 มันหมายความว่ายังไง? ถ้าหากคุณเป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่อะไร ทำไมไม่ขับรถพวกาเซราติอะไรประเภทนี้?” หลิงจือห่าวยักไหล่แล้วพูด
“เรื่องนี้…” จางชิงหยู่พูดอะไรไม่ออก
“ใช่ มีเงินแล้วทำไมไม่ขับรถหรู? พวกคุณเลิกมาเสแสร้งได้แล้ว!” จูเฟยเฟยพูด
จางชิงหยู่ไม่รู้ควรจะตอบยังไง
แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางก้าวออกมา
“พอดีผมเป็นคนถ่อมตน สหาย นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว คุณยังใช้วิธีการมองจากราคารถมาตัดสินสถานะของคนอื่นอีกเหรอ? คุณจะหัวโบราณเกินไปหรือเปล่า?”
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ดวงตาของจางชิงหยู่ลุกวาวเป็นประกายทันที
“ถูกต้อง ลูกเขยของฉันก็แค่ถ่อมตน ที่บ้านลูกเขยของฉันมีรถหรูเป็นคลัง!” จางชิงหยู่พูดสนับสนุน
“ฮึ่ม จะเสแสร้งไปถึงไหน! คุณเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วคุณรู้หรือเปล่าเสื้อผ้าที่ผมสวมใส่เป็นแบรนด์อะไร? คุณรู้หรือเปล่านาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของผมเป็นนาฬิกาอะไร? คุณรู้หรือเปล่าว่ารองเท้าของผมเป็นยี่ห้ออะไร? คิดจะเสแสร้งไปถึงไหน!” หลิงจือห่าวเริ่มไม่สบอารมณ์ ตั้งคำถามออกมาเป็นชุด
เห็นได้ชัด เขาไม่เชื่อ
แม้ว่าเสื้อผ้าที่จางชิงหยู่และซูกวงสวมใส่จะดูสวยหรู แต่ผู้คนที่อยู่โดยรอบสามารถมองออกได้ในแวบเดียวว่ามันเป็นแค่ของระดับล่าง ถ้าหากหลินหยางคนนี้เป็นอย่างที่จางชิงหยู่พูด ทำไมการแต่งตัวของพ่อตาแม่ยายเขาถึงเกรดต่ำแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้นหลิงจือห่าวเคยได้ยินมาว่าหมอนี่เป็นคนไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ เป็นไปได้ยังไงที่อยู่ดีๆจะกลายเป็นประธานบริษัท?
คนคนนี้กำลังโกหกอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นหลิงจือห่าวจึงคิดจะทดสอบหลินหยางด้วยคำถามพวกนี้
ถ้าหากเป็นคนในวงการไฮโซจริงจะต้องรู้เรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากไม่ใช่ ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...