หลินหยาง จ้องไปที่ค่ายกลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นและใช้ไฟประหลาดจุดไฟให้ท่วมเนื้อสัตว์ประหลาด
ฉู่ ฉู่ ฉู่...
เนื้อสัตว์ประหลาดถูกเผาไหม้และส่งเสียงโหยหวนไม่หยุด
ราวกับว่าเป็นคนมีชีวิตที่ถูกทรมานในเปลวเพลิงทั้งเป็น
แต่ไม่นานเสียงนั้นก็เงียบลง
เนื้อสัตว์ประหลาดก็ค่อยๆตายไป
เมื่อผู้คนเห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ครื่นน....
ในตอนนั้นเอง พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน
เห็นเพียงผู้นำอาวุโสนำกองกำลังจากทางเหนือจำนวนมากมาที่สถานที่แห่งนี้
“แม่ทัพหลิน!”
ผู้อาวุโสลงจากรถแล้วรีบถามไถ่อย่างกระตือรือร้น: "เจ้าไม่เป์นไรใช่ไหม?"
“ท่านผู้นำอาวุโส ข้าสบายดี อันชิงหนีไปทางฝั่งขวาแล้ว! โปรดรีบไล่ตามเขาไปเร็วๆ!”
หลินหยางตะโกน
"ได้!"
ผู้อาวุโสเฉิงซานเหอพยักหน้าและนำกองทัพขนาดใหญ่มุ่งหน้าไปหาอันชิงทันที
หลินหยางหมอบลงและเพ่งมองไปที่ค่ายกลเลือดด้วยสายตาที่ให้ความสนใจ
“แม่ทัพหลิน หรือว่าพบอะไรงั้นเหรอ?”
สวี่จือซวงวิ่งเหยาะๆมาและถาม
“ค่ายกลเลือดมันแปลกๆ นะ”
หลินหยางใช้มือปิดค่ายกลเลือด จากนั้นก็ออกแรงเล็กน้อย
ฟู่ว!
ไฟประหลาดอันน่าสะพรึงกลัวจุดขึ้นมาจากฝ่ามือของเขาอีกครั้ง เผาค่ายกลเลือดและพื้นดินที่ปกคลุมตรงค่ายกลเลือดให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
“ค่ายกลเลือดชนิดนี้ชำระล้างยากมาก ด้วยความสามารถของพวกเจ้า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายมัน! และถ้ามันไม่แตก มันก็จะยังคงกลืนกินและหลอมรวมเข้ากับซากศพที่อยู่รอบๆเพื่อเติบโตอีกเรื่อยๆ หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ มันก็จะเติบโตจนมีขนาดเท่าสัตว์ประหลาดอันน่าสะพรึงกลัว! ข้าคิดว่าถ้าไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร อาจจะถึงขั้นไม่สามารถฆ่ามันได้!"
หลินหยางลดเสียงลงและพูดเสียงแหบ
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ไล่ตามอันชิงต่อไป
ชายชราในชุดเสื้อคลุมคนนั้นดูเหมือนจะหว่านเมล็ดพืชลงที่นี่แล้ว
ตราบใดที่ไม่ให้ความสนใจ เมล็ดพืชนี้ก็จะงอกเงยออกมาจนอยู่เหนือการควบคุม
หลินหยางหายใจเข้าลึกๆ มองดูเนื้อเน่าที่ถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้า ดวงตาของเขากระชับขึ้น
วิธีการเช่นนี้ มีคุณค่าทางการวิจัยอย่างมาก
แต่พวกเขากลับถูกคนนำไปใช้อย่างผิดๆ แบบนี้เท่ากับว่าเสียหายไม่ใช่เหรอ?
“ ทิ้งที่เหลือไว้ที่ผู้อาวุโส แล้วพวกเราก็กลับกันเถอะ”
หลินหยางพูดเสียงแหบแห้ง
“ขอรับ แม่ทัพหลิน!”
ทุกคนพยักหน้าและติดตามหลินหยางไปยังฐานที่มั่นที่สาม
หลังจากที่อันชิงพ่ายแพ้และหนีไปที่หุบเขาม้า เขาก็นำกองทัพอพยพไปยังชายแดนของประเทศฟาโป
เฉิงซานเหอนำกองทหารของเขาไล่ตามจนเกือบจะถึงชายแดน แต่ในที่สุดก็ถูกหยุดไว้โดยกำลังเสริมจากประเทศฟาโปที่กรูมาจากทั้งซ้ายและขวา จึงต้องล่าถอยกลับไปยังฐานที่มั่น
ในการรบครั้งนี้ กองทัพของอันชิงสูญกำลังคนไปมากกว่าครึ่งและเสียอุปกรณ์ไปเกือบทั้งหมด นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่
ทันทีที่มีข่าวออกมา ทั่วทั้งโลกก็ตกอยู่ในความโกลาหล
คนทั้งประเทศฟาโปต่างก็ตกตะลึง
ต้องรู้ก่อนว่าอันชิงเป็นทหารผ่านศึกผู้มีความสามารถมากล้นจากประเทศฟาโป นับตั้งแต่เข้าสู่สนามรบทางตอนเหนือ เขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้เลยสักครั้ง
ความล้มเหลวเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ส่วนกองทัพชายแดนภาคเหนือก็ส่งเสียงเชียร์ยินดีไปทั่วตั้งแตบนลงล่าง
การยึดหุบเขาม้ากลับคืนมาได้ก็หมายความว่ากองทัพภาคเหนือได้อำนาจในการเริ่มลงมือแล้ว
นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในสงครามฝั่งภาคเหนือทั้งหมด
ภายในฐานที่มั่นของหุบเขาม้า
“แม่ทัพหลิน!”
เฉิงซานเหอเดินเข้ามาพร้อมกับกองทหารของเขาอย่างเต็มกำลัง
หลินหยางกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ เมื่อเขาได้ยินเสียงของเฉิงซานเหอก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น
“ผู้อาวุโส เก็บกวาดเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลินหยางยิ้มเบาๆ
"ชัยชนะอันยิ่งใหญ่!"


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...