"จะเป็นไปได้ยังไง? พี่เขยคุณเป็นใครคุณไม่รู้หรอ? คงไม่ใช่ผู้กำกับที่ถ่ายหนังติดเรทอะไรเหล่านั้นนะ..." ฉ่ายเสียวเจี่ยวพึมพำ กุมหัวของเธอ
ซูหยูผงะเล็กน้อย ลังเลสักพัก แต่ไม่ได้ตอบอะไร
เธอเชื่อในคำพูดของฉ๋ายเสียวเจี่ยว
ด้วยคนแบบหลินหยาง ผู้กำกับที่เขารู้จักจะเป็นใครไปได้
แต่เพราะคำขอของหลินหยาง ซูหยูจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
"เสียวเจี่ยว ลองไปดูก่อนไหม อย่างน้อยก็เป็นความหวังดีของพี่เขยฉัน ถ้าเป็นผู้กำกับที่ดีจริงๆ นี่ก็เป็นโอกาสใช่ไหม?" ซูหยูพูด
"เฮ้อ เธอไม่ได้คิดหรอว่าพวกเราไปทำให้ใครขุ่นเคือง ต่งซ่านะ! ผู้กำกับต่งที่ยิ่งใหญ่นะ! แม้ว่าพวเราจะโด่งดัง เธอคิดว่าพวกเราจะอยู่ในวงการบันเทิงได้หรอ? รู้ไหมว่าเบื้องหลังของต่งซ่าคือบริษัทไหน? บริษัทหวงหยูนะ! ! อันดับหนึ่งในประเทศ ต่งซ่าเป็นบุคคลใหญ่โตในวงการบันเทิง ตราบใดที่เขาพูดออกมาสักประโยคหนึ่ง พวกเราก็คงไม่ได้มีโอกาสที่โด่งดังหรอกในชีวิตนี้ อย่าไปคิดมากขนาดนั้นเลย ใช้ชีวิตสองปีของพวกเราอย่างสงบๆ เถอะ หาใครสักคนแต่งงาน ใช้ชีวิตที่เหลือกับสามีและลูกๆ..." ฉ๋ายเสียวเจี่ยวพูดอย่างขมขื่น
อันที่จริงเธอเสียใจอย่างมาก
ท้ายที่สุดนั่นเป็นอนาคตที่สดใส
เธอยังคงมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของเธอมาก หากเธอสามารถเดบิวต์ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถโด่งดังจากทักษะการแสดงของเธอได้ แต่เธอก็อยากอาศัยหน้าตาของตัวเองเพื่อหาหาเงินให้ตัวเอง ถึงเวลานั้นถ้าไม่ต้องการมีชื่อเสียง แค่ต้องการเปลี่ยนคุณค่าของตัวเองและแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย ก็จะสามารถหาเงินได้โดยไม่ต้องเสียอะไร
แต่ ณ เวลานี้เกรงว่าเธอจะเป็นแค่คนทำงานธรรมดา
ฉ๋ายเสียวเจี่ยวหลบอยู่ใต้ผ้าห่มและซ่อนตัว
ซูหยูไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ เธอลงจากเตียงและลากเสียวเจี่ยวออกจากเตียง
"เอ้ย หยูหยู...เธอทำอะไรหน่ะ?" ฉ๋ายเสียวเจี่ยวตะโกน
"ไปเถอะ ไปเถอะ เสียวเจี่ยว คิดว่าไปเป็นเพื่อนฉันก็ได้ ถ้าเกิดไม่ชอบ พวกเราก็กลับกันก็ได้!" ซูหยูร้องขอ
"เธอ...เฮ้อ เอาเถอะ ฉันยอมแพ้ เมื่อคืนไปกับฉัน งั้นวันนี้ฉันไปกับเธอก็ได้" ฉ๋ายเสียวเจี่ยวทำได้เพียงลงมาจากเตียง
สองสาวไปอาบน้ำ แต่งหน้า 2 ชั่วโมง และแต่งตัวสวย จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่นั่งไปยังร้านอาหารอ้ายฉินไห่
เมื่อเข้ามาในร้านอาหาร ทั้งสองคนก็เดินไปที่โต๊ะที่นัดเอาไว้
ในเวลานี้ ชายสวมหมวกยอดแหลมนั่งอยู่หน้าโต๊ะ
มีเอกสารจำนวนมากวางอยู่ตรงหน้าชายคนนี้ และเขากำลังดูมันอย่างจริงจัง
เมื่อฉ๋ายเสียวเจี่ยวเห็น เธอก็คว้าซูหยูไว้ทันที
"หยูหยู เธอเห็นใช่ไหม? ฉันว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ไม่ได้เรื่องแน่ๆ"
"เธอรู้ได้ยังไง?" ซูหยูถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ไร้สาระหน่ะ ถ้าเป็นผู้กำกับระดับประเทศ จะมารอพวกเราหรอ? อย่าว่าแต่เป็นผู้กำกับชื่อดังเลย แม้ว่าจะเป็นผู้กำกับตัวเล็กๆ ก็คงไม่มาเร็วขนาดนี้หรอก พวกเราเป็นใคร? เด็กนักเรียนที่ยังไม่จบนะ เขาจะให้เกียรติพวกเราได้ยังไง?"
"เอ่อ..."
"เอาไปหน่อยก็กลับละกัน ถือว่ากินข้าวละกัน"
ฉ๋ายเสียวเจี่ยวพูด และลากซูหยูเดินเข้าไป
"พวกคุณคือน้องสาวของคุณหลินใช่ไหม?"
เขาเห็นทั้งสองเดินเข้ามาจึงรีบลุกขึ้น ยื่นมือออกมาพร้อมใบหน้า
"สั่งอาหารแล้วหรือยัง?" ฉ๋ายเสียวเจี่ยวเบื่อที่จะมองคนนั้นและไม่ได้ยื่นมือออกไป
ชายคนนั้นยกมือขึ้นในอากาศ เขินอายมากและยิ้ม: "ทั้งสองคนกินอะไรแล้วรึยัง สั่งอะไรก็ได้ วันนี้ผมเลี้ยงเอง"
"งั้นพวกเราไม่เกรงใจนะ" ดวงตาของฉ๋ายเสียวเจี่ยวเป็นประกาย รีบหยิบเมนูขึ้นมาสั่ง
ซูหยูเก้ๆ กังๆ และยิ้มให้กับคนนั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอีกฝ่ายจะสวมหมวกทรงแหลม แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย
"คุณผู้หญิงทั้งสอง พวกเรามาคุยเรื่องภายยนต์กันเถอะ..." เขาเห็นฉ๋ายเสียวเจี่ยวสั่งอาหารตลอด จึงอดไม่ไหวที่จะถาม
"ถ่ายหนังหรอ? อะไร? คุณแน่ใจหรอว่าจะให้พวกเราเป็นนักแสดง? ยังไม่ได้ออดิชั่นเลยนะ" ฉ๋ายเสียวเจี่ยวถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ไม่ต้องออดิชั่นๆ พวกคุณเหมาะสม เหมาะสมอย่างมาก" เขารีบพูด
"เห็นไหมหยูหยู ฉันบอกว่า มันไม่ใช่ภาพยนต์ที่ทางการอะไร" ฉ๋ายเสียวเจี่ยวขมวดคิ้วพูด
อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะดูทักษะการแสดงของทั้งสองคน แต่แค่มองหน้าแล้วบอกว่าไม่ต้องพยายาม ซึ่งจะทำให้สาวสองคนนึกสงสัยอย่างแน่นอน
ซูหยูขมวดคิ้ว แต่ก็ยังถาม
"ขอโทษนะ นี่เรื่องอะไรหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...