กล่องไม้กล่องนี้เป็นของเพียงหนึ่งเดียวที่เขานำมาจากเยี้ยนจิน และเป็นสมบัติทั้งหมดที่เขามี
"ฉันก็แค่ดูว่าแกมีอะไรที่มีค่าหรือเปล่า?"จางชิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนขัดสนเรื่องเงิน ถ้าแกมีเงินส่วนตัวที่แอบซ่อนเอาไว้อะไรก็เอาออกมาให้หมดเลย"
"ผมจะไปมีเงินแบบนั้นได้ยังไง?"หลินหยางลองตรวจดูสักพัก เขาพบว่าหนังสือที่อยู่ในกล่องไม้ไม่มีเล่มไหนหายไปจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
"แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? แกเป็นลูกผู้ชายทั้งคนแต่กลับไม่มีเงินส่วนตัว ที่แกพูดมาเนี่ยอายคนอื่นเขาบ้างหรือเปล่า? วันๆเอาแต่อ่านหนังสือการแพทย์ที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้ นี่แกเห็นว่าตัวเองเป็นหมอจริงเหรอ? ถ้าเก่งจริงก็ไปสอบใบรับรองแพทย์มาแล้วออกไปหาเงินสิ!"จางชิงหยู่ส่งเสียงฮึ่มยังไม่สบอารมณ์ สายตาที่มองมาทางหลินหยางเต็มไปด้วยความขยะแขยง
หลินหยางไม่รู้จะโต้ตอบกลับยังไง จึงทำได้แต่ถาม "ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนขัดสนเรื่องเงิน? เธอกำลังจะทำอะไร?"
"ฮึ่ม ยังจะทำอะไรได้อีก? สร้างเนื้อสร้างตัวไง! หาเงินไง! ไม่งั้นแกจะเลี้ยงเธอเหรอ?"จางชิงหยู่มือเท้าเอวพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ตอนนี้ซูเหยียนและซูกวงโดนคนของตระกูลซูไล่ออกจากบริษัท ซูเหยียนตกงาน ทั้งครอบครัวทำได้แต่พึ่งพาเงินเดือนตำแหน่งงานเล็กๆของซูกวงในการเลี้ยงชีพ หลินหยางเป็นคนไร้ประโยชน์ ทั้งครอบครัวไม่มีใครคาดหวังในตัวเขา ดังนั้นซูเหยียนจึงเตรียมตัวสร้างธุรกิจของตัวเอง
แน่นอนว่าก็เพราะเรื่องนี้ จางชิงหยู่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจหลินหยางมากขึ้นไปอีก
ในมุมมองของเธอ การที่ซูเหยียนตกงานล้วนแต่เป็นเพราะหลินหยางคนเดียว!
หลินหยางขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด
"แม่ ความจริงผมยังมีเงินอยู่นิดหน่อย พวกคุณไม่ต้องคิดมากแล้ว เอาเงินจากผมไปก็แล้วกัน"
"จริงเหรอ?"จางชิงหยู่เงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน "แกมีเงินประมาณเท่าไหร่?"
"ก็ประมาณหลายสิบ…"
ติงริงริง ติงริงริง
หลินหยางพูดยังไม่ทันจบ มีเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน
จางชิงหยู่รีบวิ่งไปรับสาย พูดอะไรไม่กี่คำแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
ผ่านไปสักพัก จางชิงหยู่วิ่งออกมาพร้อมกับถุงกระดาษ
"เร็วเข้า รีบไปที่แวนด้า เอาถุงนี้ไปให้เสี่ยวเหยียน เธอรอแกอยู่ที่นั่นแหละ ใช่แล้ว ไอ้เงินไม่กี่หยวนของแกก็ใส่ลงไปด้วยเลย ถึงแม้จะมีไม่มาก แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะมีประโยชน์ต่อเสี่ยวเหยียน"
"แม่ ผม…"
หลินหยางยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
"เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! รีบไปเร็วเข้า!"
จางชิงหยู่ผลักเขาออกจากประตู
ปัง!
ประตูปิดสนิท
หลินหยางรู้สึกอึ้ง
"ผมกำลังจะบอกว่า…ที่ผมยังมีเงินอยู่หลายสิบล้าน…"
หลินหยางพูดพึมพำ หลังจากนั้นเดินลงไปข้างล่างอย่างช่วยไม่ได้
เขาไม่ได้ขับรถเฟอร์รารี่ 918 ไป เพราะกลัวจะทำให้ซูเหยียนตกใจ สุดท้ายจึงตัดสินใจขับรถจักรยานไฟฟ้าสาธารณะตรงไปที่ห้างแวนด้า
ตอนนี้ มีสาวสวยคนหนึ่งสวมชุดลำลองยืนอยู่หน้าประตูห้าง
ชายหญิงสองข้างทางที่เดินผ่านอดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง ต่างก็พากันคิดในใจนี่มันสาวสวยของตระกูลไหน…
เธอมองซ้ายมองขวา หลังจากที่มองเห็นหลินหยางมาถึงแล้ว เธอรีบวิ่งเหยาะๆเข้าไปหาทันที
"เอาของมาหรือยัง?"ซูเหยียนถามอย่างเร่งรีบ
"เอามาแล้ว"
หลินหยางหยิบถุงกระดาษที่อยู่ตรงหว่างขาออกมา
"หา?"
ซูเหยียนอุทานเสียงเบา หลังจากที่เปิดถุงกระดาษออกมาดู สีหน้าของเธอมืดมนลงทันที
"นี่มันเป็นเสื้อที่ฉันใช้เงินสองพันกว่าหยวนซื้อเลยนะ ทำไมมันยับยู่ยี่แบบนี้?"
"ก็แค่เสื้อตัวเดียวเอง"
"คุณรู้หรือเปล่าว่าเสื้อตัวนี้มันสำคัญกับฉันมากแค่ไหน?"ดวงตาของซูเหยียนเริ่มแดง เธอจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์
หลินหยางรู้สึกอึ้งเล็กน้อย เขาพูด "ได้ยินมาว่าคุณขาดสนเรื่องเงิน"
"มันไม่เกี่ยวกับคุณ ตอนนี้คลีนิคของเฉียนเฉียนปิดไปแล้ว คุณลองคิดดูว่าจะทำอะไรดีกว่า ฉันว่าอย่างคุณไปเป็นพนักงานส่งอาหารก็ดีเหมือนกันนะ ได้ยินมาว่าลำบากหน่อยแต่รายได้ก็สูงถึงหลักหมื่นเลย!"
"เรื่องนี้…"
ติ๊ดติ๊ด!
มีเสียงแตรของรถดังขึ้นอย่างกะทันหัน
หลังจากนั้นมีรถปอร์เช่ 718 คันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่ข้างทาง
หลินหยางมองไปตามทิศทางของรถ
เขาพบว่าคนที่นั่งอยู่ในรถเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งหน้าจัดมาก เธอยื่นหัวออกมาแล้วตะโกน "เสี่ยวเหยียน ขึ้นรถได้แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันนะ!"
"ได้เลยพี่เหมย!"
ซูเหยียนเดินขึ้นรถปอร์เช่ 718 อย่างเร่งรีบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...