หลินหยางกังวลมาก เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดตลอดทาง
ลี่หวู่จี๋ดูประหม่า
เขามองหลินหยางบางครั้งบางคราว จากนั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
อาจเป็นเพราะเขาคิดว่าบรรยากาศมันอึดอัดอย่างมาก หลินหยางเลยทำลายบรรยากาศ
"คุณชอบเจิ้งจื่อหยามากหรอ?"
เมื่อคำพูดนี้ออกมา สีหน้าของลี่หวู่จี๋ก็เปลี่ยนไป กลับมาเป็นปกติ
"เดิมทีก็ชอบมาก แต่เมื่อคิดดูดีๆ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าความชอบที่ว่า มันไม่คู่ควรกับเธอ"
"ความรักของคุณอยู่บนพื้นฐานของความคุ้มค่าและความไร้ค่าหรือเปล่า?"
"คุณไม่รู้ เมื่อผมลงมาจากเขา ผมก็รู้จักกับเจิ้งจื่อหยา" ลี่หวู่จี๋มองไปด้านนอกหน้าต่าง พูดเสียงแหบ: "ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจอะไรเลย อย่างรู้อยากเห็นกับทุกอย่างที่อยู่บนโลก เจิ้งจื่อหยานี่แหละพาผมเข้ามาในโลกแห่งนี้ ดังนั้นผมจึงรู้สึกดีกับเธอในรูปแบบที่แตกต่างออกไป"
หลินหยางได้ยินก็พยักหน้าเงียบๆ
มีผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบลี่หวู่จี๋เป็นจำนวนมากในประเทศจีน
คนส่วนใหญ่มาจากสำนักที่ลึกลับ พวกเขาฝึกฝนตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ได้เข้ามาเผชิญหน้ากับโลกภายนอก เมื่อลงเขามาเป็นครั้งแรกอะไรๆ ก็ไม่เข้าใจ
ถ้าในเวลานี้มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเขา พาพวกเขาไปดูสีสันของโลกนี้ งั้นพวกเขาก็จะมีความรู้สึกดีๆ ที่พิเศษด้วยกับคนคนนั้น
ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพหรือความเสน่หาเหนือมิตรภาพ
เห็นได้ชัดว่าลี่หวู่จี๋กำลังรู้สึกแบบนี้กับเจิ้งจื่อหยา
บางทีอาจจะมีความรักก็ได้
และเจิ้งจื่อหยาก็ใช้ประโยชน์ลี่หวู่จี๋เท่านั้น
"หลังจากลงเขามาแล้ว ผมก็ไปหลายที่มากและพบกับเจิ้งจื่อหยา ผมทำตามที่เธอบอก ท้าประลองทุกหนทุกแห่งเพื่อให้ได้ชื่อเสียง แม้กะทั่งแข่งกับผู้ปราดเปรื่องเพื่อให้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งในรายชื่อเทียนเจียว และเธอก็พาผมเข้าสมาคมศิลปะการต่อสู้ ทั้งยังตกลงเป็นแฟนสาวของผม เธอบอกว่า ถ้าผมสามารถเอาชนะคุณได้ เธอก็จะแต่งงานกับผม..." เมื่อพูดถึงตรงนี้ ลี่หวู่จี๋ก็หยุดพูด
"เหมือนว่าผมไปทำลายงานแต่งของคุณ" หลินหยางพูด
"จะพูดอย่างงั้นไม่ได้ อันที่จริง ผมต้องขอบคุณคุณ อย่างน้อยก็ทำให้ผมได้เข้าใจเจิ้งจื่อหยาที่ต้องการใช้ประโยชน์ผมเท่านั้น ถ้าเธอรักผมจริงจะทิ้งผมไปได้ยังไง? ถ้าไปแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้ เกรงว่าในอนาคตคงจะแย่กว่านี้เสียอีก!" ลี่หวู่จี๋ยิ้มและพูดอย่างขมขื่น
หลินหยางไม่พูดอะไร
หลินหยางคิดว่าบางทีเขาอาจจะผิดหวังในตัวเจิ้งจื่อหยาจริงๆ
แต่ในใจก็ยังคงรักเจิ้งจื่อหยาอยู่...
แค่เขาต้องปล่อยวางเท่านั้น
"แล้วทำไมคุณถึงยอมบอกว่าหญ้าเทียนซวนอยู่ที่ไหนกับผม? และยังยอมพาผมมาด้วย?" หลินหยางถาม
"ผมแค่เข้าใจอะไรต่างๆ เท่านั้น"
ลี่หวู่จี๋มองไปยังไกลๆ และพูด: "ผมไม่สามารถหนีไปไหนได้ ผมอยากที่จะชดใช้บาปของตัวเอง!"
"ชดใช้บาปหรอ?"
หลินหยางตกใจ
"อันท่จริงผมทำผิดตั้งแต่ออกมาจากสำนักฉี๋หลินแล้ว แม้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของผม อาจารย์อยากให้ผมออกมาจากสำนักชั่วคราวเพื่อเปิดโลก ดังนั้นผมจึงออกมา และทิ้งอาจารย์ไว้รับโทษคนเดียว พอตอนนี้มาคิดดู ผมไม่กตัญญูจริงๆ" ลี่หวู่จี๋ถอนหายใจและพูด
หลินหยางไม่ส่งเสียงอะไร
เรื่องของสำนักอื่น เขาไม่อยากเข้าไปยุ่ง เขาแค่ต้องการได้หญ้าเทียนซวนมาและกลับไปช่วยเหลียงซวนเหม่ย
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเขาเทียนคุนในไม่ช้า
หม่าไห่จัดรถไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทั้งสองขึ้นเขาแล้ว
หลินหยางไม่ได้พาคนอื่นไปด้วย สำนักอย่างสำนักฉี๋หลินเป็นสำนักที่ลึกลับ เป็นเรื่องที่ห้ามที่ผู้คนจากภายนอกจะมารบกวนพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...