"ชื่อนามสกุล!"
"ยี่กุ้ยหลิน"
"เพศ!"
"ชาย…"
"อาชีพ!"
"อา…อาชีพ?"
"หมายถึงปัจจุบันคุณกำลังทำอะไร?"
"เจ้าสำนักฉี๋หลิน…ถือเป็นอาชีพหรือเปล่า?"
"เจ้าสำนักด้วย? อย่างคุณเนี่ยนะ! พูดมา! ทำไมถึงมารวมตัวกันสร้างปัญหา?"
"พวกเราแค่กำลังประลองศิลปะการต่อสู้…ไม่ได้รวมตัวกันสร้างปัญหา!"
"ประลองศิลปะการต่อสู้จนถึงขั้นมีคนตายไปหลายคน?" เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ตรงหน้าตบโต๊ะแล้วถามเจ้าสำนักฉี๋หลิน
เจ้าสำนักฉี๋หลินกัดฟันแน่น สีหน้าแดงก่ำ
ทั้งชีวิตของเขาไม่เคยมาสถานที่แบบนี้ ยิ่งไม่เคยโดนตะคอกเสียงดังแบบนี้ ความโกรธที่อยู่ภายในใจเกือบจะปะทุออกมา แต่ท้ายที่สุดก็โดนสติของเขาควบคุมเอาไว้
ถึงแม้สำนักฉี๋หลินจะเป็นสำนักที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาตัดขาดจากโลกทั้งใบ และเขาก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกภายนอกอยู่บ้าง
ถึงเขาจะเป็นผู้ฝึกยุทธ แต่เขายังไม่ถึงขั้นมีสิทธิ์เป็นศัตรูกับตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ถึงสำนักแห่งหนึ่งจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่จะสามารถสู้ทั้งประเทศได้เหรอ?
เจ้าสำนักฉี๋หลินสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดเสียงเบา "พวกลูกศิษย์ของผม พวกเขาแค่ไม่ทันระวังพลัดตกจากหน้าผา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา"
"จริงเหรอ? งั้นเรื่องนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ยังไงพวกคุณก็หนีไม่พ้นเรื่องที่รวมตัวกันก่อความวุ่นวายไปทั่ว ตามกฎหมาย พวกคุณต้องถูกคุมขังที่นี่เจ็ดวัน!" ตำรวจคนนั้นพูด
"อะไรนะ? ผมเป็นถึงเจ้าสำนักฉี๋หลิน! จะให้พวกคุณขังผมไว้ที่นี่ได้ยังไง?" เจ้าสำนักฉี๋หลินเริ่มหัวเสียแล้ว เขาตบโต๊ะแล้วกระโดดลุกขึ้น
"ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นเจ้าสำนักอะไรทั้งนั้น! คุณมีบัตรประจำตัว คุณก็คือพลเมืองของประเทศเรา ต้องทำตามกฎหมาย!"
ตำรวจคนนั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาโบกมือสั่งให้พาตัวเจ้าสำนักฉี๋หลินไป
"พวกคุณ…" เจ้าสำนักฉี๋หลินรู้สึกโกรธมาก
แต่มันไม่มีประโยชน์
ไม่นาน เขาถูกพาตัวไปคุมขังในห้องขัง
ส่วนหลินหยางโทรศัพท์หาหม่าไห่ หม่าไห่รีบส่งคนมาประกันตัวทันที
ในขณะเดียวกัน หลินหยางถือว่าทำไปเพราะป้องกันตัว หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันก็สามารถกลับไปได้
แต่เขาไม่ได้รีบร้อน แต่ไปพบเจ้าสำนักฉี๋หลินภายใต้การควบคุมของตำรวจ
คนในวงการศิลปะทั่วทั้งประเทศคงจะไม่มีใครเคยคิด คนของสำนักฉี๋หลินถูกตำรวจจับตัวมาคุมขัง…
ถ้าหากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เกรงว่าทุกคนคงหัวเราะจนฟันหลุดแน่
เจ้าสำนักฉี๋หลินรู้สึกแค้นใจมาก
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเจอคนที่ไร้ยางอายแบบหลินหยางมาก่อน
การต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ…เขากลับโทรแจ้งตำรวจ…
"คุณมาทำอะไร?" เจ้าสำนักฉี๋หลินมองหลินหยางด้วยสายตาที่เย็นชา
"มาช่วยคุณ"
"คุณใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"ดูเจ้าสำนักพูดเข้า ผมเป็นหมอคนหนึ่งนะ!" หลินหยางยิ้มเล็กน้อย หลังจากนั้นหยิบปากกากับกระดาษมา เขียนเบอร์โทรศัพท์ยัดเข้าไปในลูกกรง "ถ้าหากท่านเจ้าสำนักต้องการรักษาอาการบาดเจ็บ โทรหาผมได้ทุกเมื่อ! จิตใจของแพทย์ก็เหมือนพ่อแม่คนหนึ่ง!"
เจ้าสำนักฉี๋หลินได้ยินแล้วสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที
"บอกเงื่อนไขของคุณมา!" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"เงื่อนไขอะไร?"
"ฮื่ม หมอเทวดาหลิน ทำไมต้องเสแสร้งด้วย? คุณเป็นคนยังไงผมจะไม่รู้เหรอ? ไม่มีผลประโยชน์ คุณจะช่วยเหลือศัตรูฟรีเหรอ?" เจ้าสำนักฉี๋หลินเก็บเบอร์โทรศัพท์ พูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
"ได้ งั้นผมจะไม่อ้อมค้อมแล้ว ถ้าหากคุณตั้งใจจะมาให้ผมรักษาอาการบาดเจ็บ…งั้นก็เอาป้ายคำสั่งเจ้าสำนักมาด้วย" หลินหยางยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ลมหายใจของเจ้าสำนักฉี๋หลินหยุดชะงักทันที
ป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก?
เขารู้ว่าหลินหยางหมายความว่ายังไง
คนคนนี้ไม่ได้ต้องการตำแหน่งเจ้าสำนักของเขา แต่เขา…ต้องการทั้งสำนักฉี๋หลิน!
"ไม่มีทาง! คุณอย่าคิดว่าพวกเราจะยอมก้มหัว!"
เจ้าสำนักฉี๋หลินกระโดดลุกขึ้นตะคอกด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
"สิทธิ์การตัดสินใจอยู่ในมือคุณ ถ้าคุณไม่ยินดี สามารถส่งมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้คนอื่น ผมก็จะไม่ไปยุ่งกับเรื่องของสำนักฉี๋หลินของพวกคุณเหมือนกัน พวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวข้องกันอีก แน่นอน ถ้าหากคุณต้องการราวีผมต่อ หลังออกจากที่นี่ สำนักฉี๋หลินของคุณจะเป็นยังไงต่อ เรื่องนี้ผมไม่รู้ด้วย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...