"อันที่จริงยาพิเศษที่ถูกพัฒนาโดยประธานหลินมีข้อเสียหรือไม่ก็ข้อห้ามที่ค่อนข้างชัดเจน ก็อย่างเช่นยารักษาโรคเส้นเลือดตีบในสมอง ข้อเสียของยาตัวนี้คือเมื่อไหร่ที่ผู้แพ้ละอองเกสรใช้ยาตัวนี้ จะมีอาการแพ้อย่างรุนแรง ถ้าหากสถานการณ์รุนแรง ถึงขั้นส่งผลอันตรายต่อชีวิต" พนักงานของหยางหัวคนหนึ่งก้าวออกมาพูด
"พวกเขาเขียนหมายเหตุไว้บนฉลากอย่างชัดเจน คิดว่าเรื่องนี้จะมีประโยชน์อะไร? ก็ในเมื่อมีคนเตือนคุณคือผู้แพ้ละอองเกสรแต่ก็ยังจะใช้ยาตัวนี้ เรื่องนี้จะโทษใครได้?" ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งขมวดคิ้วพูด
"แต่ทุกท่าน พวกคุณรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่กำลังจะถูกพัฒนาโดยบริษัทของประธานเลิ้นหรือเปล่า?"
"ผลิตภัณฑ์อะไร?"
"สบู่! ระหว่างทางมาที่นี่ผมได้คุยกับประธานเลิ้น และพวกเราพบว่าสบู่ตัวนี้อาจจะมีความขัดแย้งกับยาที่หยางหัวผลิต!"
"ถ้าอย่างนั้นหยางหัวก็น่าจะหมายเหตุบอกบนฉลากผู้ใช้ยาไม่ควรใช้สบู่ร่วมกับของพวกเรา!" ผู้ถือหุ้นขมวดคิ้วพูด
"แต่ตอนนี้หยางหัวไม่รู้เรื่องสบู่ของพวกเราไม่ใช่เหรอ? พวกเรายังไม่ได้ประกาศออกไปอย่างเป็นทางการ แต่สามารถสั่งให้คนใช้สบู่ของเราก่อนแล้วค่อยใช้ยาของหยางหัว!" พนักงานคนนั้นยิ้มแล้วพูด
หลังจากสิ้นเสียง ทุกคนรู้สึกอึ้งและหันไปมองทางเลิ้นกุยพร้อมกัน
นี่เป็นการพยายามกล่าวหาหยางหัวอย่างโจ่งแจ้ง
ยังไม่มีการประกาศเปิดตัวสบู่ หลังจากที่คนพวกนี้ใช้ เกรงว่าคงจะตรวจเจอไม่ได้ในทันที…
แต่ว่า…ดูเหมือนเลิ้นกุยไม่คิดจะหยุดแค่นี้
"มาจนถึงขั้นนี้ พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น ไม่ว่าใช้วิธีอะไรก็จำเป็นต้องทำให้หยางหัวล้มลงให้ได้!" เลิ้นกุยพูดด้วยสีหน้าที่น่ากลัว
"ประธานเลิ้น ถ้าหากแค่นี้มันก็ไม่มีประโยชน์เหมือนเดิม ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรมาก ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการแพทย์ของประธานหลินสูงส่ง ถ้าเกิดเขาลงมือรักษาคนจนหาย แบบนี้ไม่เท่ากับพวกเราต้องสูญเสียสองต่อเหรอ? แถมยังเพิ่มชื่อเสียงให้กับเขา?" ผู้ถือหุ้นคนนั้นครุ่นคิดสักพักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"นี่เป็นเพียงตัวจุดชนวน พวกเราสามารถอาศัยโอกาสนี้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสูตรยา!" อดีตพนักงานหยางหัวหยิบเอกสารออกจากกระเป๋าฉบับหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะ
"สูตรยาของหยางหัว? มีปัญหาเหรอ?" ผู้ถือหุ้นคนนั้นหยิบเอกสารขึ้นมาดูแล้วพูดด้วยความสงสัย
"สูตรยาของหมอเทวดาหลินย่อมไม่มีปัญหา แต่ของบางอย่าง พูดไปพูดมามันจะกลายเป็นเรื่องจริง! ถ้าหากสาดน้ำที่เปื้อนมลทินออกไปใส่ตัวเขา ตัวของเขาก็จะเปื้อนมลทินไปด้วย" คนคนนั้นยิ้มแล้วพูด
หลังจากที่ทุกคนได้ยิน ตาของแต่ละคนลุกวาวเป็นประกายทันที
"ในสังคมปัจจุบัน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่หลักฐาน แต่เป็นความคิดเห็นของสาธารณชน เพราะบางครั้งหลักฐานก็ไม่พอที่จะต้านความคิดเห็นของสาธารณชน หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าว พวกเราค่อยจ้างพวกสร้างกระแสในโลกไซเบอร์มากวนน้ำให้ขุ่น ถึงตอนนั้นแม้หยางหัวมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่การจะลบล้างมลทินของเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายขนาดนั้น"
เลิ้นกุยหลับตาทั้งคู่ลง เงียบไปสักพักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง "รีบไปจัดการเลย"
"ครับ"
......
หลินหยางนำความสนใจทั้งหมดของตนเองไปวางในเรื่องของการผลิตยาตัวใหม่
ปัญหาของโรงงานจัดการเรียบร้อยแล้ว ส่วนหม่าไห่ก็จัดการทำความสะอาดกลุ่มคนที่ถูกส่งตัวมาจากเยี้ยนจินจนหมดเรียบร้อย
แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดของพนักงานทุกคนในหยางหัว แต่ภายในของหยางหัวกลับไม่สงบเลยสักนิด มีผู้คนมารวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่หยางหัวไม่น้อย
ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานใหญ่หยางหัว ผู้เฒ่าหวังและหวังคังเดินเข้าไปจากประตูหลัง ตรงขึ้นไปห้องวีไอพีบนชั้นสอง
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังถือกระเป๋าเอกสารนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางที่ประหม่าเล็กน้อย
หลังจากเห็นผู้เฒ่าหวังเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นรีบกระโดดลุกขึ้นอีกครั้ง
"คุณปู่หวัง ลุงคัง"
ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงเบา
"นั่งเถอะ"
ผู้เฒ่าหวังก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
"เอาของมาด้วยหรือเปล่า?" หวังคังถามด้วยความประหม่า
"เอามา อยู่ในนี้หมดแล้ว!" ผู้หญิงคนนั้นรีบเปิดกระเป๋า
หวังคังรีบก้าวออกมาตรวจสอบ หลังจากนั้นจ้องเธอแล้วถาม "คุณแน่ใจว่าเป็นของพวกนี้? ไม่ผิดแน่นะ?"
"ฉันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ แต่ของพวกนี้เป็นสูตรยาที่ฉันคัดลอกมาเองกับมือ น่าจะไม่ผิด" ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงเบา
หวังคังไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หันไปมองชายชราที่อยู่ด้านข้าง
ชายชรารีบก้าวออกมา หยิบสูตรยาขึ้นมาดูสักพัก
ผ่านไปสักพัก สีหน้าที่กำลังจ้องสูตรยาของเขาปรากฏให้เห็นความประหลาดใจและตื่นเต้น
"อัจฉริยะ! อัจฉริยะ! เขาคืออัจฉริยะ!" ชายชราอุทาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...