"จำเลยหลินหยาง คุณสามารถบอกได้หรือเปล่าว่าทำไมตอนที่ออกจากห้องในมือของคุณเป็นกล่องยา แต่ตอนที่เอาไปให้คุณนายซูถึงกลายเป็นขวดยา? คุณอธิบายได้หรือเปล่า?" ผู้พิพากษาจางถาม
"อันที่จริงผมรู้สึกว่าคุณนายซูไม่เหมาะที่จะใช้ยาแบบนี้ เพราะแบบนั้นผมก็เลยเปลี่ยนยาให้" หลินหยางเงียบสักพักแล้วพูด
"นี่มันเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น!"
เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
"เงียบ เงียบ!" ผู้พิพากษาเคาะค้อน
"ท่านผู้พิพากษาคุณก็น่าจะได้ยินแล้วใช่หรือเปล่า? หลินหยางเขาเปลี่ยนยา แต่เท่าที่ผมทราบมาเขาไม่ใช่หมอ เขาแอบเปลี่ยนยาโดยพลการแบบนี้น่าสงสัยมาก! ถ้าหากจำเลยไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ ผมคิดว่าผมสามารถมั่นใจได้ว่าการกระทำของเขาเป็นการขโมยสูตรยา!" คังเจียห่าวพูดออกมาโดยตรง
หลินหยางไม่ได้พูดอะไร
สีหน้าของจี้เหวินดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่
คังเจียห่าวยังไงก็เป็นคังเจียห่าว ที่แท้เขาตั้งใจให้ทุกคนดูคลิปวีดีโอแรกก่อน คลิปวีดีโอนั้นไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย แต่เขาก็ยังตั้งใจที่จะเปิดคลิปวีดีโอที่เป็นกล่องยา ทั้งหมดก็เพื่อให้ทางฝั่งของจี้เหวินเข้าสู่ประเด็นนี้ หลังจากนั้นเขาค่อยเปิดคลิปวีดีโออีกคลิปหนึ่งทีหลังเพื่อรุกฆาต คราวนี้ทำให้จี้เหวินถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นถึงทนายความอันดับหนึ่งที่มีประสบการณ์โชกโชน
"ท่านผู้พิพากษา ผมคิดว่าคลิปวีดีโอนี้ไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้" จี้เหวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูด
"ไม่สามารถบ่งบอกอะไร ‘งั้นทนายจี้ช่วยอธิบายหน่อยว่าทำไมหลินหยางต้องเปลี่ยนยาโดยพลการ?" คังเจียห่าวรีบถามขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการกดดัน
"เป็นเหมือนกับที่เขาพูด หลินหยางรู้สึกว่ายาตัวนั้นไม่ดี"
"เขาไม่ใช่หมอ"
"แต่เขามีความรู้เรื่องการแพทย์! เพราะแบบนี้เขาจึงเปลี่ยนยาโดยพลการ" จี้เหวินมองไปทางผู้พิพากษาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "ยิ่งไปกว่านั้นลูกความของผมยังมีทักษะการแพทย์ที่ดีมากด้วย ถ้าหากท่านผู้พิพากษาไม่เชื่อ สามารถลองทดสอบความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ของลูกความของผม ไม่ว่าจะเป็นทางปฏิบัติหรือทฤษฎีได้หมด"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ คนของตระกูลซูเริ่มขมวดคิ้วทันที
โดยเฉพาะซูกุ้ย
คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขารู้ดีว่าหลินหยางมีทักษะการแพทย์ที่ไม่ธรรมดา
คังเจียห่าวก็รู้ดีว่าถ้าหากพูดประเด็นนี้ต่อไป มีแต่จะเดินเข้าสู่ทางได้เปรียบของอีกฝ่าย เขาจึงพูดขึ้นอีกครั้ง "ท่านผู้พิพากษา ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมขอเสนอให้ตรวจสอบสูตรยาของทั้งสองฝ่าย"
"ตรวจสอบสูตรยา?"
ผู้คนรู้สึกตกใจ
"ผมมั่นใจว่าสูตรยาที่อยู่ในมือของทั้งสองฝ่ายเหมือนกัน ในเมื่อพวกเราไม่สามารถบอกได้ว่าหลินหยางขโมยสูตรยายังไง งั้นพวกเราก็มายืนยันก่อนว่าหลินหยางได้ขโมยสูตรยาจริงหรือเปล่า และการตรวจสอบสูตรยาเป็นวิธีที่ดีที่สุด!"
พูดจบ คังเจียห่าวหยิบถุงพลาสติกใสออกมาจากด้านข้างหนึ่งใบ ภายในถุงพลาสติกมีกระดาษสีเหลืองซีดหนึ่งแผ่น ให้ความรู้สึกที่มีอายุยาวนานมาก
"นี่เป็นสูตรยาของตระกูลซู เล่ากันว่าถูกเขียนขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิงหมิง ผมหวังว่าท่านผู้พิพากษาจะสามารถเชิญนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีมืออาชีพมาตรวจสอบอายุของใบสั่งยาแผ่นนี้ หลังจากนั้นค่อยตรวจสอบสูตรยาของหยางหัวกรุ๊ป! เมื่อเป็นแบบนี้ก็จะสามารถตัดสินได้ว่าของใครก่อนของใครหลัง! ถ้าหากสูดยาของหยางหัวกรุ๊ปเพิ่งจะถูกเขียนขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยทั่วไปแล้วสามารถบอกได้ว่าสูตรยาของหยางหัวกรุ๊ปถูกคัดลอกมาจากสูตรยาของตระกูลซู! ถึงเวลาเราค่อยมาซักถามหลินหยางทีหลัง แบบนี้เรื่องราวทุกอย่างมันก็จะกระจ่างชัดเจนเอง!"
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนหยางหัวกรุ๊ปถึงกับหน้าซีด
จางชิงหยู่และซูกวงตกใจจนเข่าอ่อน
ซูเหยียนกำมือของตัวเองแน่น สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติมาก
คังเจียห่าวฉลาดมาก
เขาเริ่มเข้าประเด็นโดยกล่าวหาว่าหลินหยางเป็นคนขโมย ถึงเวลาไต่สวนทุกคนก็จะใช้อคติมองว่าหลินหยางเป็นคนขโมย ใช้อารมณ์ส่วนตัวมาปะปนกับการตัดสิน ถึงตอนนั้นแม้ว่าหลินหยางจะไม่ยอมรับ แต่คดีนี้คังเจียห่าวก็สามารถคุมชนะแล้วครึ่งหนึ่ง เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ในมือ
ผู้พิพากษาจางพยักหน้า "คำร้องของโจทก์มีผล แต่ต้องทำการประเมินในชั้นศาล! และนักประเมินต้องเป็นกลาง!"
"ไม่มีปัญหา" คังเจียห่าวดันขอบแว่นตาของตัวเอง
คนของตระกูลซูเริ่มยิ้มแล้ว
ขอเพียงแค่ผลของการประเมินออกมา ความจริงทุกอย่างก็จะกระจ่าง
พวกเขามั่นใจว่าสูตรยาของหยางหัวกรุ๊ปขโมยมาจากตระกูลซูของพวกเขา ตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากันในชั้นศาล มีเหรอที่หยางหัวกรุ๊ปจะไม่แพ้?
ถึงเวลาหยางหัวกรุ๊ปจะต้องจ่ายค่าชดใช้จำนวนมหาศาลและรวมไปถึงจะได้รับผลประโยชน์จากสิทธิบัตร พวกเขาจะกลายเป็นตระกูลที่มั่งคั่งในเจียงเฉิน
ตระกูลที่มั่งคั่ง!
แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว!
"คุณย่าพวกเรากำลังจะทำสำเร็จแล้ว"
"คราวนี้ครอบครัวนี้จบสิ้นแน่!"
"เหอเหอ คิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลซูก็ต้องพบกับจุดจบแบบนี้!"
"ฉันคิดว่าตอนนี้พวกเขาต้องรู้สึกเสียใจแน่ ถ้าหากพวกเขาอยู่กับตระกูลซูของเรา ไม่แน่ตอนนี้อาจจะมีชีวิตที่สุขสบายแล้ว!"
บนใบหน้าของคนตระกูลซูเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของแต่ละคนดูได้ใจมาก
แต่ในตอนนั้นเอง จี้เหวินกลับพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...